เวงเกอร์จวก กก.ทำปืนแพ้ ชวดแชมป์ยุโรป ( ข่าวกีฬา )

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2005/06 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มีขึ้นที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการดวลเพลงแข้งกันระหว่างบาร์เซโลนา แชมป์ลาลีกาสเปนและอดีตแชมป์ถ้วยนี้ 1 สมัย เจอกับอาร์เซนอล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เกมนี้นับเป็นการประชันแข้งระหว่างเธียร์รี อองรี ศูนย์หน้ากัปตันทีมอาร์เซนอล กับ ?เหยินน้อย? โรนัลดินโญ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิลของบาร์เซโลนา แถมทั้งสองทีมยังมีสถิติไม่เคยแพ้ใครตลอดการลงเล่น 12 นัดที่ผ่านมาในศึกแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ด้วย เปิดฉากเริ่มเกมได้เพียง 18 นาที ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ต้องตกเป็นรองด้านกำลังพล เมื่อผู้รักษาประตูเยนส์ เลห์มันน์ ไปทำโปรเฟรสชันนอลฟาวล์ต่อ ซามูเอล เอโต ศูนย์หน้าบาร์ซา ในจังหวะหลุดเดี่ยวนอกเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่เลห์มันน์ออกจากสนาม ปืนใหญ่จึงเหลือผู้เล่น 10 คน และต้องถอดโรแบร์ ปิแรสออก เพื่อส่งมานูเอล อัลมูเนีย นายทวารตัวสำรองลงมาเฝ้าเสาแทน อย่างไรก็ตาม 10 คนของปืนใหญ่กลับทำผลงานได้ดี เมื่อพังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาที 37 จากจังหวะฟรีคิก อองรีโยนบอลอย่างแม่นยำให้โซล แคมพ์เบลล์ วิ่งเข้ามาขวิดเสียบตาข่ายสุดสวย ชนิดที่บิกตอร์ บัลเดซ นายทวารบาร์ซา ยืนขาตายหมดสิทธิ์ป้องกัน ซึ่งปืนใหญ่ก็รักษาสกอร์นำนี้ไว้ได้จนจบครึ่งแรก ทว่าครึ่งหลัง บาร์เซโลนาบุกหนัก และเจาะตาข่ายทีมปืนใหญ่ได้ 2 ประตูซ้อน จากซามูเอล เอโต นาที 76 และจูเลียโน เบลเลตติ น.80 จบเกมบาร์เซโลนาพลิกสถานการณ์กลับมาเฉือนเอาชนะอาร์เซนอลไป 2-1 คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพไปครองเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ ภายหลังการแข่งขัน อาร์แซน เวงเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล แสดงความไม่พอใจการทำหน้าที่ของเทอร์เย เฮาเก ผู้ตัดสินชาวนอร์เวย์ ที่ตัดสินผิดพลาดจนทำให้ทีมปืนใหญ่ของเขาเป็นฝ่ายปราชัย ?มันเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ที่ประตูแรกเป็นลูกล้ำหน้าชัดๆ เมื่อคุณต้องเล่น 10 คนกับ 11 คน แถมยังต้องมาเสียประตูจากลูกล้ำหน้าอีก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ ต้องมาแพ้จากการตัดสินผิดพลาด มันเป็นลูกล้ำหน้าและได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วทางทีวี เราเล่นกันได้ดี และมีโอกาส 2-3 ครั้งที่จะได้ประตูที่ 2 พวกเขาเล่นกันได้เยี่ยม และพวกเขาทุกคนก็เป็นฮีโร่ในคืนนี้ แต่โชคร้ายที่เราไม่ได้รางวัลใดๆตอบแทนเลย? กุนซือปืนใหญ่กล่าว

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์