ตรัง, กระบะซิ่งกลางฝนเสียหลักประสานงาเด็ก-ผู้ใหญ่ดับรวด 4 ศพ ( ข่าวตรัง )

ตรัง - เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะประสานงาใน จ.ตรัง โดยคนขับใช้ความเร็วสูงขณะฝนกำลังตก ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถยนต์คันอื่นจนมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 3 ราย และผู้ใหญ่ 1 ราย ส่วนคันก่อเหตุได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

วันนี้ (15 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.40 น. ร.ต.ท.วิษณุ จันทร์พล ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยยอด ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนประสานงากัน ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณหน้าสนามกอล์ฟศรีตรัง ถนนเพชรเกษม ตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ใกล้กับค่ายทหาร ร.15 พัน 4 จังหวัดตรัง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสยามร่วมมิตร

ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อ นิสสัน ชนิดตอนเดียว สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บฉ-4942 ตรัง ตกอยู่ข้างไหล่ทาง ในสภาพด้านขวาฝั่งคนขับพังยับเยิน ส่วนท้ายกระบะพบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพ ซึ่งเป็นเด็กอายุ 7 ปี และ 15 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำตัวส่งรักษา ที่โรงพยาบาลตรัง และโรงพยาบาลห้วยยอดก่อนหน้าแล้ว จำนวน 4 คน ภายหลังทราบว่าได้ผู้เสียชีวิตเพิ่ม อีกจำนวน 2 คน รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล ทราบว่าเป็นเด็ก 3 คน และผู้ใหญ่ 1 คน

นอกจากนี้ ฝั่งตรงข้ามถนนอีกฝั่งห่างไปประมาณ 500 เมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า ชนิดตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บว-522 สุราษฎร์ธานี ตกอยู่ข้างไหล่ทางเช่นกัน ในสภาพด้านขวาฝั่งคนขับมีร่องรอยเฉี่ยวชน ส่วนคนขับรถคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่คางแตกเพียงเล็กน้อย และไม่ได้หลบหนีไป ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า รถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า ชนิดตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บว-522 สุราษฎร์ธานี ที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยนั้น ขับออกมาจากตัวเมืองตรัง เพื่อมุ่งหน้าไปทางอำเภอห้วยยอดด้วยความเร็วสูง

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ประกอบกับในช่วงดังกล่าว มีฝนตกลงมาทำให้ถนนลื่น ทำให้คนขับรถไม่สามารถควบคุมรถไว้ได้ รถจึงไถลออกข้ามไปอีกฝั่งของถนน แล้วมุ่งชนประสานงากับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน ชนิดตอนเดียว สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บฉ-4942 ตรัง ที่ขับมาจากอำเภอห้วยยอด เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเหมืองตรัง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์