แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ตรัง, พบภูเขากลางทะเลตรังถล่มแยก 2 ซีกหวั่นกระทบการท่องเที่ยว ( ข่าวตรัง )

ข่าวตรัง : พบภูเขากลางทะเลตรังถล่มแยก 2 ซีกหวั่นกระทบการท่องเที่ยว

พบภูเขากลางทะเล ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังใกล้เกาะแหวน และถ้ำมรกต ถล่มลงมาลงในทะเลแยก 2 ซีก โผล่จากใต้ทะเลความลึกประมาณ 10 เมตร ทั้ง 2 ก้อนห่างกันประมาณ 20 เมตร หวั่นเรือท่องเที่ยวชนหินให้น้ำจนเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากตั้งแต่เกิดเหตุ 25 พ.ค.ยังไม่มีการทำสัญลักษณ์เตือนถึงความปลอดภัย
วันนี้ (29 พ.ค.) นายศรชัย ศรีสมาน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้เกิดเหตุภูเขาที่ตั้งบนด้านหลังของเกาะแหวน ซึ่งอยู่ติดถ้ำรังนก ถล่มลงมาตั้งอยู่ในท้องทะเลอันดามัน ทั้งนี้ หากมองมาจากระยะทางไกลๆ ก็จะเห็นว่า มีลักษณะคล้ายกับเรือรบจอดอยู่ หรือมีปริมาณเทียบเท่ากับบ้านประมาณ 3 หลัง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนับ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าบนเกาะดังกล่าวจะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เนื่องจากเป็นเกาะที่ให้สัมปทานรังนกนางแอ่น แต่ตนและชาวบ้านก็หวั่นเกรงในเรื่องของความปลอดภัย
รองนายก อบต.เกาะลิบง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เนื่องบริเวณเกาะแหวน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางทะเลของจังหวัดตรัง ประกอบกับยังตั้งอยู่ใกล้ๆ กับถ้ำมรกต ในพื้นที่บ้านเกาะมุก หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม และอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดตรัง โดยปกติบริษัททัวร์ต่างๆ ก็จะมีการกำหนดไว้ในโปรแกรมการท่องเที่ยว
ดังนั้น ถ้าหากมีเรือทัวร์ผ่านเข้าไปใกล้ หรือจอดแวะให้นักท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการัง ก็อาจจะทำให้บริเวณใต้ท้องเรือทัวร์ ชนเข้ากับก้องหินขนาดยักษ์ที่อยู่ใต้น้ำ จนทำให้เกิดการอับปางลงได้ จึงอยากจะให้มีการนำป้ายมาปักเตือนไว้โดยรอบ เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้
?กรณีที่ภูเขาถล่มลงมาในครั้งนี้ คาดว่า น่าจะเป็นผลพวงที่ต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 และหลังจากนั้น ก็ยังมีแผ่นดินไหวตามมาอีกหลายครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้แผ่นดินใต้ท้องทะเลมีรอยแยก?
ประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จึงส่งผลให้เกิดการกัดเซาะของน้ำบนภูเขา จนเกิดการแยกตัวของเกาะแหวนออกเป็น 2 ซีก ทำให้เกิดเป็นช่องว่างที่มีขนาดกว้างประมาณ 20 เมตร จนเรือหางยาวสามารถวิ่งผ่านทะลุไปมาทั้ง 2 ด้านได้ ส่วนก้อนหินที่ร่วงลงมาในท้องทะเลอันดามันนั้น มีความสูงเหนือน้ำประมาณ 10 เมตร ซึ่งทำให้ค่อนข้างจะอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
นายอุดมพร คงสมุทร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านเกาะมุก ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า ปกติบริเวณที่เกิดก้อนหินขนาดยักษ์ถล่มลงมานั้น เป็นจุดที่มีปะการังสวยงามอย่างมาก จึงมักจะมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำกัน ส่วนสาเหตุคงเกิดมาจากหลายเรื่อง เช่น กรณีของน้ำที่กัดเซาะ กรณีแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว หรือกรณีของการถูกฟ้าผ่า ซึ่งตนได้แจ้งเตือนชาวบ้านให้รับรู้โดยทั่วกันแล้ว และกำลังประสานไปยังทางอำเภอกันตัง เพื่อให้แจ้งต่อไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ก้อนหินที่ถล่มลงมานี้มีความใหญ่โตมาก ขนาดจมลงไปในน้ำทะเลที่มีความลึกประมาณ 10 กว่าเมตรแล้ว ก็ยังโผล่ขึ้นมาให้เห็นเหนือน้ำอย่างชัดเจน
จากเหตุการณ์ภูเขาถล่มที่เกาะแหวนนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า เกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บนเกาะชวา ของประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่วัดความแรงได้ขนาด 6.3 ริกเตอร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5,000 คน หลังจากนั้น ก็ยังมีเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างต่อเนื่องอีกประมาณ 470 ครั้ง ซึ่งสามารถวัดความแรงได้ขนาด 5.2 ริกเตอร์
ขณะที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย ได้ออกมายืนยันว่า เหตุการณ์นี้คงมีผลกระทบต่อประเทศไทยน้อยมาก และจะไม่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรังรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2548 ได้เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายๆ กันเกิดขึ้น ที่ภูเขาโต๊ะเต๊ะ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านบาตูปูเต๊ะ ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร หรือสูงขนาดตึก 30 ชั้น อันแหล่งหาสัตว์น้ำของชาวบ้าน และยังเป็นจุดที่ใช้ชมพะยูน สัตว์ทะเลที่หายากของจังหวัดตรัง ได้เกิดถล่มลงมากว่า 10 เมตร และเศษหินกระเด็นออกไปไกลมาก โดยมีรัศมีวงกว้างกินเนื้อที่เกือบครึ่งไร่
โชคดีในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นั้น ไม่มีประชาชนอยู่ใกล้ภูเขา จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และไม่มีทรัพย์สินเสียหาย และจุดที่เกิดเหตุในครั้งแรกนั้น ก็อยู่ไม่ห่างจากจุดล่าสุดมากนัก
สำหรับสาเหตุการเกิดภูเขาถล่มลงมาในครั้ง สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดมาจาก 3 สาเหตุด้วยกัน คือ กรณีที่ 1 เกิดมาความแรงของฟ้าที่ผ่าลงมา กรณีที่ 2 เกิดมาจากผลกระทบของคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา และก่อนหน้าที่ภูเขาจะถล่มลงมา 1 วัน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ก็ได้รับแจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.8 ริกเตอร์ ซึ่งจุดอยู่ห่างจากภูเขาโต๊ะเต๊ะประมาณ 270 กิโลเมตร พร้อมทั้งยังตั้งอยู่แนวเดียวกันด้วย และกรณีที่ 3 เกิดมาจากความผูกร่อนของภูเขาตามระยะเวลา ซึ่งต่อมาทางกรมทรัพยากรธรณี ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และปิดกั้นเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215