หลังจากที่ “บังยี”นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ลงนามแต่งตั้งสภากรรมการบริหารสมาคมลูกหนังที่ผ่านมา รวมทั้งการแต่งตั้งผจก.ทีมให้เข้ามารับผิดชอบดูแลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ทีมชาติไทยชุดเล็ก ทีมฟุตซอลชาย-หญิง รวมทั้งทีมระดับเยาวชนทุกระดับ ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา นายกสมาคมลูกหนังได้ทำการแต่งตั้งผจก.ทีมระดับเยาวชนอายุ 12-14 ปีเพิ่มอีก โดยมอบหมายให้นายศุภชาติ อาจวิบูลย์พร เป็นผู้จัดการทีม โดยนายกสมาคมลูกหนังกล่าวว่า เพื่อต้องการให้การสร้างนักเตะไทยเป็นไปอย่างมีระบบและให้สอดคล้องกันในระดับอายุ เพื่อไม่ให้มีการเว้นช่องว่าง และจะทำให้เด็กมีทีมรับอย่างต่อเนื่อง
นายกสมาคมลูกหนังกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ทำการแบ่งสายเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น โดยทีมเยาวชนของไทยอยู่ร่วมสายกับเกาหลีใต้, ลาว, เวียดนาม, มาเก๊า, บังกลาเทศ โดยคัดเพียง 2 ทีมเข้าสู่รอบต่อไป ซึ่งทีมชุดนี้มี วิศิษฐ ก่อวรกุล เป็นผจก.ทีม และจากการหารือกันแล้วได้ตัดสินใจแต่งตั้งให้ “โค้ชหนุ่ย”เฉลิมวุฒิ สง่าพล เข้ามาเป็นโค้ช เนื่องจากเป็นโค้ชที่ได้รับการยอมรับทั้งการทำทีมและความสามารถในอดีตที่เล่นฟุตบอล เด็กทุกคนรู้จัก และที่สำคัญเป็นโค้ชที่มีเวลาในการทำทีมแบบเต็มเวลา เพราะไม่ได้ทำทีมใดทีมหนึ่ง จะทำให้สามารถดูแลนักฟุตบอลได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายกสมาคมลูกหนังกล่าวต่อไปว่า นายสามารถ มะลูลีม อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้แจ้งกับตนว่า มีโอกาสได้พบกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งท่านให้ความสนใจสนับสนุนกีฬาอย่างมาก โดยท่านผู้ว่าฯ อยากเสนอให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกปีค.ศ.2012 หรือ พ.ศ.2555 จึงขอให้ตนทำเรื่องยื่นต่อฟีฟ่าให้ด้วย โดยกรุงเทพมหานครจะรับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันทั้งหมด
ด้าน”เสี่ยเอ๋”วิศิษฐ ก่อวรกุล ผจก.ทีมเยาวชนชุด 19 ปี เผยว่า ตนได้มีการหารือกับทาง “โค้ชหนุ่ย” บ้างแล้วถึงแนวทางการทำทีม และได้มอบหมายให้ไปทำโครงสร้างมาทั้งหมด ในขณะที่ตนเองได้วางแผนการเตรียมทีมเอาไว้แล้วระหว่างวันที่ 5-15 ส.ค. จะนำทีมเยาวชน 19 ปีไปร่วมการแข่งขันรายการชิงแชมป์อาเซียนที่เวียดนาม จากนั้นในเดือนต.ค.จะส่งทีมไปเวียดนามอีกครั้งแข่งขันรายการ “ตันเนียน คัพ” เมื่อเสร็จศึกที่เวียดนามจะมุ่งหน้าลงไปภูเก็ตเพื่อแข่งขันยช. 19 ปีรอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 1-15 พ.ย.ต่อไป
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์