ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬา “เอเชี่ยน มาร์เชี่ยล อาร์ต” ครั้งที่ 1 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่าง 25 เม.ย. - 3 พ.ค. ต่ออัครราชทูตที่ปรึกษาของชาติในเอเชียร่วมงาน ที่รร.เดอะ แกรนด์ รัชดาฯ เมื่อ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับการแข่งขันดังกล่าวจะจัดการแข่งขันทั้งสิ้น 9 ชนิดกีฬา ได้แก่ คาราเต้โด, เทควันโด, มวยไทย, คิกบ๊อกซิ่ง, ยูยิตสู, ยูโด, คูราช, วูซู-กังฟู และปันจักสีลัต แข่งขันใน 2 ศูนย์การแข่งขันได้แก่ กทม. ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก, อาคารนิมิบุตร, อาคารจันทนยิ่งยง, ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง/ ที่จ.สุพรรณบุรี อาคารศิลปอาชา สนามกีฬากลาง และ อาคารเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร โรงเรียนกีฬา ชิงชัยทั้งสิ้น 112 เหรียญทอง
ดร.ศศิธารา เปิดเผยหลังการแถลงข่าวว่า เราจะเชิญผู้นำประเทศจากทุกชาติในเอเชียมาร่วมชมการแข่งขันด้วย ซึ่งทุกชาติได้ตอบรับเข้ามาแล้ว อย่างไรก็ตามมีการสอบถามถึงปัญหาทางการเมือง ซึ่งตนได้ตอบไปว่า รัฐบาลไทยจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมีมาตราการที่เข้มงวดเพื่อรับมือกับเหตุไม่คาดฝัน ทั้งนี้ในมุมกลับตนอยากจะเชิญผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายให้ออกมาดูกีฬาด้วยกันเพื่อประสานความสามัคคีให้เกิดขึ้น
ด้านพลตรีจารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกเปิดเผยว่า ถึงเวลานี้งานทุกอย่างค่อนข้าลงตัวแล้ว ในส่วนของมวยไทยนั้นการคัดตัวไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีผู้จัดการทีม 2 คน สำหรับชาติที่ส่งเข้าแข่งขันล่าสุดมี 42 ชาติ ขาดเพียง อัฟกานิสถาน, ซาอุดีอาระเบีย, ติมอร์เลสเต้ ซึ่งในรายของติมอร์ฯ จะส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์ ทั้งนี้ยอดนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ล่าสุดที่เข้าร่วมแข่งขันคือ 1,435 คน
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ทางชาติสมาชิกส่วนใหญ่สอบถามเข้ามาถึงความคืบหน้า เนื่องจากต่างติดตามข่าวจากสถานีข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็นแล้วเกรงจะลุกลามเหมือนครั้งที่ประชุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งตนได้ให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกแน่นอน
ทั้งนี้ ทางสำนักพระราชวังได้ประสานมาทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เพื่อขอข้อมูลวิธีการเล่นและกติกาการแข่งขันของกีฬาใหม่ 5 ชนิด ได้แก่ คูราช, คาราเต้, ปันจักสีลัต, คิกบ๊อกซิ่ง และ ยูยิตสู เนื่องจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสนพระทัยและจะทอดพระเนตรระหว่างการแข่งขันทางการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ด้วย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์