สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล โอ่ “หงส์แดง” กลับมาได้เปรียบ “ผี” หลังถล่มวิลล่า 5-0 ในศึกพรีเมียร์ชิพ ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้ม ได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มี 64 แต้ม จาก 30 นัด มีแต้มตามหลัง “จ่าฝูง”แมนฯ ยู แค่แต้มเดียวเท่านั้น แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 8 นัดเท่านั้น และทำให้เจอร์ราร์ด ที่ทำแฮตทริกแสดงความมั่นใจว่า แมนฯ ยูกำลังกดดันอย่างหนัก และตอนนี้ “ผีแดง” ไม่ใช่ทีมที่จะกุมสถานการณ์เอาไว้ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“แน่นอนว่าแมนฯ ยู จะเป็นแชมป์ ถ้าพวกเขาเอาชนะได้ทุกนัดในเกมที่เหลือ แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือเล่นให้ดีที่สุด เก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความกดดันให้กับพวกเขา เราพร้อมจะฉกฉวยโอกาสถ้าหากแมนฯ ยู ทำผิดพลาดขึ้นมา ตอนนี้พวกเรากำลังเต็มเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่น และพร้อมแล้วกับความท้าทายที่รออยู่” กัปตันทีมลิเวอร์พูล กล่าว
ในขณะที่ ราฟา เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน กล?าวว?า ตอนนี้โอกาสลุ้นแชมป์ของ “หงส์แดง” ใกล้เคียงกว่าเดิม และทุกเกมนับแต่นี้ เหมือนลงเล่นบอลถ้วยนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งต้องเอาชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามโอกาสที่มาถึงในตอนนี้เป็นเพราะลิเวอร์พูล กลับมาเล่นได้ท็อปฟอร์ม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันของ แมนฯ ยู แต่อย่างใด
ส่วน มาร์ติน โอนีล กุนซือวิลล่า ซึ่งไม่ชนะมาแล้ว 8 แมตช์ ในการแข่งขันทุกรายการ ยอมรับว่าโอกาสลุ้นไปเตะยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นเรื่องยากไปเสียแล้ว ต้องยอมรับว่า วิลล่ายังยืนระยะได้ไม่ดีพอ แต่ก็ยังไม่เลิกหวังเพราะเชื่อว่า อาร์เซนอลมีโปรแกรมหนักที่รออยู่ ทำให้สถานการณ์ยังพลิกได้ตลอดเวลา
ทาางด้านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยู ยอมรับว่า สถานการณ์ลุ้นแชมป์กลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง และยอมรับว่าการที่ทีมฟอร์มตก และพ่ายแพ้ในเกมสำคัญในเดือนมี.ค. และ เม.ย. เป็นความพ่ายแพ้ที่มีราคาแพง และเชื่อว่าเกมที่จะมีความสำคัญก็คือเกมที่จะเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อรับการมาเยือนของวิลล่า ในวันที่ 5 เม.ย. เพราะในเกมดังกล่าว “ผีแดง” จะไม่มีทั้ง เนมันย่า วิดิซ, พอล สโคลส์ และ เวย์น รูนีย์ เนื่องจากติดโทษแบน
ขณะที่ ไรอั้น กิ๊กส์ ปีกตัวเก๋ายังเชื่อว่า แมนฯ ยู อาจจะมีแกว่งใน 2 นัดที่ผ่านมา แต่เป็นทีมที่มีประสบการณ์สูง และน่าจะพลิกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้อีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และ แมนฯ ยู ควรจะมุ่งมั่นกับการสร้างให้ทีมมีผลการแข่งขันที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปกังวลกับฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันของลิเวอร?พูล และ เชลซี แต่อย่างใด
ในฤดูกาล 1997-98 แมนฯ ยู เคยนำโด่งถึง 13 แต้ม เหนืออาร์เซนอล แต่โดน “ปืนโต” ปาดหน้าแซงคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะไปแค่แต้มเดียว และอาร์เซนอลยังเอาชนะนิวคาสเซิล ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปครองในที่สุด
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์