อังกฤษ 1 - 0 ปารากวัย ศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่สนามฟีฟ่า เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม ที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต เยอรมัน เป็นการแข่งขันของทีมในกลุ่ม B ระหว่าง ?สิงโตคำราม? อังกฤษ กับ ปารากวัย เริ่มต้นครึ่งเวลาแรก อังกฤษได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วนาทีที่ 4 จากจังหวะ เดวิด เบคแฮม เปิดลูกฟรีคิกทางด้านกราบซ้ายเข้าไปในเขตโทษ เป็น คาร์ลอส กามาร์ร่า แผงหลังกัปตันทีมปารากวัยที่พยายามขึ้นโขกสกัด แต่กลับกลายเป็นการโหม่งสกัดเข้าประตูตัวเองไป นาทีที่ 8 จัสโต วิลลาร์ นายทวารปารากวัย บาดเจ็บจากการปะทะกับ เบคแฮม ทำให้ต้องถูกถอดออกจากสนาม และส่งนายทวารสำรอง อัลโด โบบาดิลย่า มาเฝ้าเสาประตูแทน นาทีที่ 19 สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้รับใบเหลือง ก่อนนาทีที่ 22 เนลสัน วัลเดซ ผู้เล่นปารากวัยจะได้รับใบเหลืองเป็นคนที่ 2 เกมดำเนินไปจนหมดเวลาครึ่งแรก พร้อมกับทดเวลา 4 นาที ทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้ อังกฤษ นำ 1-0 เริ่มต้นครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 55 ไมเคิล โอเว่น ศูนย์หน้าอังกฤษถูกเปลี่ยนออก พร้อมส่ง สจ๊วต ดาวน์นิ่ง ลงมาแทน นาทีที่ 63 ปีเตอร์ เคร้าช์ รับใบเหลือง นาทีที่ 68 เนลสัน คูลวาส ตัวสำรองปารากวัย ถูกเปลี่ยนลงสนามแทน คาร์ลอส โบเนต นาทีที่ 74 สจ๊วต ดาวน์นิง ผ่านบอลเข้ากลางหน้าเขตโทษให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งไปกลางประตู แต่ อัลโด โบบาดิลย่า นายทวารสำรองารากวัย ซูเปอร์เซฟปัดข้ามคานไปได้ชนิดได้ลุ้น นาทีที่ 82 จอร์ช นูเนซ ตัวสำรองปารากวัย ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในตำแหน่งแบ๊กซ้ายแทน เดลิโอ โตเลโด ก่อนนาทีถัดมา อังกฤษเปลี่ยนเอา โอเว่น ฮากรีฟ ถูกส่งลงมาแทน โจ โคล นาทีที่ 89 แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้ลุ้นทำประตูอีกครั้ง เมื่อพักอกเอาบอลลงพื้นก่อนยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ โบบาดิลย่า พุ่งล้มซูเปอร์เซฟปัดออกไป ป้องกันประตูไว้ได้อีกครั้ง จากนั้นเวลาที่เหลือ และการทดเวลาบาเจ็บอีก 2 นาที ทั้งคู่ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม อังกฤษ เอาชนะไปหวุดหวิด 1-0 เก็บ 3 คะแนนไปได้สำเร็จ ตรินิแดดและโตเบโก 0 - 0 สวีเดน ส่วนคู่ที่ 2 เป็นเกมในกลุ่ม B อีกหนึ่งคู่ระหว่าง ตรินิแดดและโตเบโก กับ ?ไวกิ้ง? สวีเดน ที่สนามฟีฟ่า เวิลด์คัพ สเตเดียม ในเมืองดอร์ทมุนด์ ผู้ตัดสินของเกมนี้ ได้แก่ แซมซูล ไมดิน จากสิงคโปร์ โดยมี ?เปาแป๊ก? ปรัชญา เพิ่มพานิช ผู้ช่วยผู้ตัดสินชาวไทย ลงทำหน้าที่ตัดสิน ท่ามกลางสภาพอากาศท้องฟ้าโปร่ง อุณหภูมิราว 26 องศาเซลเซียส เกมนัดนี้ สวีเดน ได้ เฟรดริก ลุงเบิร์ก กองกลางตัวเก่ง ฟิตพร้อมลงทำเกมรุกให้ทีม แต่ไม่มี อันเดรียส อิซัคส์สัน ผู้รักษาประตูมือหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บ ต้องส่ง รามี ชาบาน ลงทำหน้าที่ เช่นเดียวกับ ตรินิแดดและโตเบโก ที่นายทวารตัวจริง เคลวิน แจค โชคร้ายบาดเจ็บในช่วงอบอุ่นร่างกายก่อนแข่งแค่ 10 นาที ทำให้ ชากา ฮิสลอป ได้ลงเฝ้าเสาแทนที่ เริ่มเกมได้แค่ 5 นาที สวีเดนมีโอกาสจากลูกฟรีคิกระยะใกล้ เฮนริค ลาร์สสัน ดาวยิงตัวเก๋า ซัดลูกเต็มข้อพุ่งแรงเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว จังหวะต่อมาก็ได้ลุ้นอีกครั้งจาก อิบราฮิโมวิช ที่ได้กดมุมแคบแต่ติดตัว ฮิสลอป ที่เซฟไว้ได้ เกมยังคงเป็น สวีเดน ที่บุกเข้าใส่อยู่ข้างเดียว นาทีที่ 15 อิบราฮิโมวิช โชว์ลีลาดีดลูกหลังแต่บอลไม่ตรงกรอบ จังหวะต่อมาใบเหลืองแรกของเกมก็มาถึง ผู้โชคร้ายคือ กองหลังของตรินิแดดฯ แอฟเวอรี จอห์น ผ่าน 20 นาทีแรก ตรินิแดดฯ เริ่มได้ครองบอลมากขึ้น แต่ในนาทีที่ 21 จากเกมโต้กลับ สวีเดน เกือบขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ อิบราฮิโมวิช ได้บอลขึ้นทางกราบขวา ก่อนเปิดโค้งไปหน้าประตู เป็น ลาร์สสัน พยายามพุ่งเข้าชาร์จโล่ง ๆ แต่ไม่ถึงบอล ทำให้พลาดโอกาสทองไปอีกครั้ง ครึ่งชั่วโมงผ่าน ตรินิแดดฯเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และได้ลุ้นยิงประตูเป็นครั้งแรก จากการยิงไกลของ คาร์ลอส เอดเวิร์ดส แต่ ชาบาน โกล์ไวกิ้ง พุ่งเซฟติดมือ ท้ายครึ่งแรก สวีเดน กลับมารุกหนักอีกครั้ง น่าได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ จากจังหวะโถมเข้าโขกเต็ม ๆ ของ ลาร์สสัน แต่บอลข้ามคานออกไป และการยิงของ คริสเตียน วิลเฮล์มสัน, อิบราฮิโมวิช แต่ก็ไม่ผ่านมือ ฮิสลอป ที่เซฟได้เยี่ยมทั้งสองครั้ง ครบ 45 นาทีแรก เกมไปอย่างสนุกเร้าใจแม้ไม่มีสกอร์เกิดขึ้น เปิดฉากครึ่งหลังได้แค่ 30 วินาที ตรินิแดดฯต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ แอฟเวอรี จอห์น ที่โดนใบเหลืองไปก่อนแล้วในครึ่งแรก พุ่งเข้าเสียบสองเท้าใส่ คริสเตียน วิลเฮล์มสัน ทำให้ผู้ตัดสินชาวสิงคโปร์ แซมซูล ไมดิน ไม่ลังเลที่จะแจกใบเหลืองที่ 2 และเป็นใบแดงแรกของศึกฟุตบอลโลก 2006 ให้กับแบ๊กซ้ายจอมบู๊รายนี้ เข้าสู่นาทีที่ 53 กุนซือ ลีโอ บีนฮัคเกอร์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นรายแรก ด้วยการส่ง คอร์เนลล์ เกลน ลงมาแทน คอลลิน ซามูเอล ซึ่งได้ผลทันที เมื่อ เกลน ได้บอลโต้กลับควบขึ้นทางขวา ก่อนตัดสินใจยิงไกลเต็มเหนี่ยว บอลพุ่งชนคาน ทำให้ตรินิแดดฯที่เหลือ 10 คน ชวดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย โดนทักทายหนัก ๆ เข้าไป ไวกิ้งตอบโต้ทันที อิบราฮิโมวิช ได้ซัดจ่อ ๆ ในกรอบโทษ เป็น ฮิสลอป ที่เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ สวีเดน แก้เกมบ้าง ส่ง มาร์คุส อัลล์บัค ลงเสริมเกมรุกแทนที่ อันเดอร์ส สเวนส์สัน ตรินิแดดฯ ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นคนที่ 2 แก้เกมกลับทันที ส่ง ออร์ติส วิทลีย์ ลงแทน เดนซิลล์ เธโอบัตต์ เกมยังคงเป็น สวีเดน ที่โหมบุกอย่างหนักหวังทำประตูชัยให้จงได้ นาทีที่ 74 ดไวท์ ยอร์ค รับใบเหลืองไปอีกคน เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลาร์ส ลาร์เกอร์บัค โค้ชไวกิ้งเน้นรุกเต็มตัว ส่ง คิม คัลล์สตรอม, แม็ตเทียส ยอนสัน ลงมาแทน โทเบียส ลินเดรอธ, คริสเตียน วิลเฮล์มสัน และสวีเดนน่าได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ เมื่อ ลาร์สสัน เปิดให้ อัลล์บัค หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ฮิสลอป แต่จิ้มยิงไปติดตัวซะอีก ท้ายเกม ไวกิ้งยำใหญ่ใส่สารพัด แต่ทำยังไงก็ไม่ผ่านมือฮิสลอป ครบ 90 นาที เสมอกันไปอย่างสนุก 0-0 เป็นเกมแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ไม่มีการทำประตู อาร์เจนตินา 2 - 0 ไอวอรี โคสต์ ศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก กลุ่ม ซี นัดแรก ที่สนาม ฟีฟ่า เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม เมือง ฮัมบูร์ก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา อาร์เจนตินา อดีตแชมป์ 2 สมัย พบกับ ?ทีมช้าง? ไอวอรี โคสต์ ทีมน้องใหม่ ปรากฏว่าทีมอาร์เจนตินา ชนะไปอย่างหวุดหวิด 2-1 โดยทีม ?ฟ้าขาว? ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการซัดจ่อๆของ เฮอร์นัน เครสโป กองหน้าจากสโมสรเชลซี ในนาทีที่ 24 ก่อนที่ ฮาเวียร์ ซาวิโอลา ดาวยิงร่างเล็กหลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มผ่านผู้รักษาประตูไอวอรี โคสต์ เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 38 ช่วยให้อาร์เจนตินานำ 2-0 ขณะที่ไอวอรี โคสต์ ตีไข่แตกได้จาก ดิดิเยร์ ดรอกบา หัวหอกตัวเก่ง นาทีที่ 82 แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกม อาร์เจนตินา เฉือนชนะ 2-1 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ โดยในนัดต่อไป อาร์เจนตินา จะพบกับ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ในวันที่ 16 มิ.ย. ส่วน ไอวอรี โคสต์ พบกับ ฮอลแลนด์ ในวันเดียวกัน
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์