ศึกฟุตบอลถ้วยน็อกเอาต์รายการเก่าแก่ที่สุดในโลก “เอฟเอคัพ อังกฤษ” ฤดูกาล 2008/09 คืนนี้ (อาทิตย์ 8 มี.ค.) มีเกมดวลแข้งเพียง 2 คู่ โดยคู่แรก “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่จะลงเตะเกมตกค้างรอบ 5 เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม ดวลกับ “เดอะคลาเรตส์” เบิร์นลีย์ อาคันตุกะผู้มาเยือนจากแชมเปียนชิพ (อันดับ 7) โดยผู้ชนะของคู่นี้จะเข้าไปเจอกับ “เดอะไทเกอร์ส” ฮัลล์ ซิตี้ ที่เข้าไปยืนรออยู่ก่อนแล้ว ในรอบ 6 ต่อไป
แมตช์นี้เจ้าบ้านทีมปืนใหญ่ มีข่าวดี เมื่อจะได้ 2 ผู้เล่นตัวเก่งในแนวรุกที่บาดเจ็บไปนานอย่าง ธีโอ วัลคอตต์ ปีกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ และเอดูอาร์โด ดาซิลวา กองหน้าทีมชาติโครเอเชีย กลับมามีชื่ออยู่ในทีม แม้คาดว่าทั้งคู่น่าจะมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองก็ตาม ขณะที่โรบิน ฟาน เพอร์ซี, อังเดร อาร์ชาวิน และนิคลาส เบนท์เนอร์ จะออกสตาร์ตเป็น 3 ประสานตัวจริงในแดนหน้า อย่างไรก็ตาม แนวรับปืนใหญ่จะขาดโคโล ตูเร กองหลังกัปตันทีม ลงบัญชาเกมรับ เนื่องจากเจ็บน่อง ทำให้โยฮัน ฌูรู จะลงยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับวิลเลียม กัลลาส ส่วนแดนกลางจะนำทัพโดยซาเมียร์ นาสรี และเดนิลสัน ขณะที่เชส ฟาเบรกัส, โทมัส โรซิคกี้, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และมิคาเอล ซิลแวสต์ ยังคงเจ็บลงเล่นไม่ได้ทั้งหมด
ข้างฝ่ายทีมเยือนเบิร์นลีย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจอมล้มยักษ์ตัวจริงที่ประมาทไม่ได้ จะพบกับอาร์เซนอลเป็นครั้งที่ 2 แล้วในศึกบอลถ้วยฤดูกาลนี้ และมีอันดับในลีกต่ำกว่าทีมปืนใหญ่ อาร์เซนอล อยู่ถึง 22 อันดับ โดยเบิร์นลีย์ ทีมอันดับ 7 ในศึกแชมเปียนชิพ มีคริส แมคแคนน์ และแพตเตอร์สัน เป็นตัวอันตรายที่แนวรับปืนใหญ่จะประมาทไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เทียบฟอร์มแล้วต้องยกให้ปืนใหญ่เหนือกว่า เนื่องจากได้เล่นในบ้านแถมล่าสุดก็คืนฟอร์มเก่งได้แล้วจากเกมลีกนัดล่าสุดที่บุกถล่มเวสต์บรอมวิช 3-1 จึงน่าถล่มชนะเบิร์นลีย์ได้ ไม่ยาก พร้อมตบเท้าเข้ารอบ 6 ไปเจอกับฮัลล์ ซิตี้ ต่อไป
ส่วนคู่หลังซึ่งเริ่มเตะตรงกับเวลาไทย 23.00 น. เป็นเกมดวลแข้งรอบ 6 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง “ทอฟฟี” เอฟเวอร์ตัน เปิดรังกูดิสันพาร์กรับการมาเยือนของ “โบโร่” มิดเดิลสโบรช์ คู่ปรับร่วมพรีเมียร์ลีก เกมนี้เจ้าบ้านทอฟฟี จะหมดสิทธิ์ใช้งานโจ กองหน้า แซมบ้า เนื่องจากติดคัพไท เคยลงเล่นรายการนี้ให้แมนฯซิตี้ไปแล้ว นอกจากนั้น ยังจะไม่มีมิเกล อาร์เตตา กองกลางทีมชาติสเปน ที่เจ็บยาวหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดทั้งซีซั่น ส่วนโบโร่จะส่งอฟองโซ อัลเวส และเฌเรมี อาลิยาดิเยร์ เป็นคู่หัวหอก คาดเกมสูสีคู่คี่ และมีสิทธิ์ออกเสมอไม่น้อย แต่ถ้าให้เลือกผู้ชนะ ขอชูมือให้เจ้าบ้านเอฟเวอร์ตันก็แล้วกัน
อนึ่ง สำหรับผลฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 6 คู่แรกของเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า “สิงห์บลู” เชลซี คว้าชัยชนะ 5 นัดรวด ภายใต้การคุมทีมของ กุส ฮิดดิงค์ กุนซือชั่วคราวชาวดัตช์ได้สำเร็จ ด้วยการบุกไปถล่มเอาชนะ “สกายบลูส์” โคเวนตรี ทีมจากแชมเปียนชิพ ขาดลอย 2-0 โดยได้ประตูจากดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมชาติไอวอรีโคสต์ นาที 15 และอเล็กซ์ กองหลังบราซิล นาที 72 ส่งผลให้ “สิงห์บลู” เชลซี กลายเป็นทีมแรกที่ฉลุยเข้ารอบรองชนะเลิศศึกเอฟเอคัพฤดูกาลนี้
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์