ศึกยกน้ำหนักปักกิ่งเกมส์ ที่ ม.การบิน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ประเดิมชิงเหรียญทองรุ่น 48 กก.หญิง ไทยส่ง “น้องอ้อย” เปรมศิริ บุญพิทักษ์ กับ “น้องเอ” เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล ลงชิงชัย ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทอดพระเนตรด้วย เริ่มที่ท่า สแนตช์ เปรมศิริเรียก 84 กก. แต่ยกไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง หมดลุ้นเหรียญทันที เช่นเดียวกับนูร์คาน เตย์ลัน แชมป์ เก่าจากตุรกี ขณะที่เพ็ญศิริเรียก 85 กก. ยกไม่ผ่าน 2 ครั้งแรก มาแก้ตัวสำเร็จครั้งสุดท้าย สถิติอยู่ที่ 4 ตาม เฉิน ซี เซียะ แชมป์โลก และเต็ง 1 ของเจ้าถิ่น 10 กก. แต่ไล่จี้ อิม จุง ฮวา ของเกาหลีใต้ ที่อยู่ที่ 3 เพียง 1 กก.
ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก เพ็ญศิริยกครั้งแรกผ่าน 110 กก. และเรียกไปที่ 114 กก. การันตีเหรียญทองแดง แต่ทำไม่สำเร็จในอีก 2 ครั้งที่เหลือ ทำให้รวมได้ 195 กก. อยู่ที่ 5 เหรียญทองเป็นของเฉิน ซี เซียะ ที่ทำลายสถิติโอลิมปิกท่านี้ 117 กก. สถิติรวมที่ 212 กก. เป็นสถิติใหม่ โอลิมปิกเช่นกัน กลายเป็นนักกีฬาเจ้าถิ่นคนแรกที่ได้ เหรียญทองโอลิมปิกครั้งนี้ เหรียญเงิน ออสคาน ซิเบล จากตุรกี 199 กก. เหรียญทองแดง เฉิน เหว่ย หลิง จากไต้หวัน 196 กก. ซึ่งไต้หวันได้จาง เจีย หมิน อดีตโค้ชไทยคุมทีม
หลังแข่ง เปรมศิริกล่าวว่า พยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มจากเรื่องน้ำหนักตัว ที่ปกติไม่เคยเกินพิกัดมาก่อน แต่คราวนี้กลับเกินถึงครึ่งขีด ต้องลดน้ำหนักกะทันหัน ถึงขั้นคืนก่อนแข่งต้องแอบ กินช็อกโกแลต ทนหิวไม่ไหว นอกจากนี้เวลาซ้อมก็มีค่อนข้างน้อย เพิ่งซ้อมเต็มที่ได้ 10 วัน หลังหายเจ็บหมอนรองกระดูกอักเสบ ส่วนผลที่ออกมาแน่นอนว่าเสียใจที่ทำไม่ได้อย่างหวัง
ขณะที่เพ็ญศิริกล่าวทั้งน้ำตาหลังตรวจโด๊ปว่า ตนพลาดเหรียญอย่างน่าเจ็บใจ เนื่องจากการเรียกน้ำหนักครั้งที่ 2 หากเรียกที่ 113 กก. แล้วยกผ่านก็น่าจะเพียงพอต่อการได้เหรียญทองแดง แต่กลับเรียกเหล็กสูงถึง 114 กก. เพื่อสู้เอาเหรียญเงิน
เพ็ญศิริกล่าวด้วยน้ำตาอีกว่า หลังแข่งเสร็จ มาทราบข่าวร้ายซ้ำสอง เมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่ห้องพักของตนเอง ที่ชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ค่ายโชติพิมาย จ.เชียงใหม่ ช่วงเวลาเดียวกับที่ลงแข่งท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ทำให้ทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ในห้องพักไหม้หมด รวมถึงสุนัขพันธุ์ชิสุ 2 ตัว ชื่อกาก้ากับดาด้า ที่สำลักควันจนตายทั้งคู่ ในเบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ และจากการสำรวจห้องพักอื่น รวมถึงโครงสร้างของอาคารยังคงแข็งแรงดี
ตอนท้ายเพ็ญศิริกล่าวว่า ครั้งนี้ได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ซวยแบบนี้ จากข่าวที่ได้รับ ของใช้ส่วนตัวในห้องถูกไฟไหม้หมด เหลือเพียงแค่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเล็กน้อยที่นำติดตัวมาที่จีน “ความจริงไม่น่าพลาด แต่ก็พลาดไปเอง ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง โดยเฉพาะพ่อกับแม่ จากนี้ขอเวลาทำใจอีกทีว่าจะเล่นต่อหรือไม่ วันนี้มีโอกาสได้เหรียญโอลิมปิกแล้ว แต่ทำไม่ได้เอง ตอนชิงแชมป์ประเทศไทย เคยยกคลีนแอนด์เจิร์กได้ 116 กก. แต่วันนี้พลาดไปหมด ไม่รู้ว่าโชคร้ายอะไรขนาดนี้
ขณะที่ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการโอลิมปิกไทยกล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้กล่าวผ่านตนว่า ขอให้นักยกน้ำหนักไม่ต้องเสียใจ จะเป็นกำลังใจให้ต่อไป กลับไปจะเชียร์ทางทีวี
ด้าน พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษาสมาคม ยกน้ำหนัก กล่าวว่า จริงๆ น่าจะได้เหรียญทองแดง เราผิดพลาดเรื่องเรียกเหล็ก ตอนคลีนแอนด์เจิร์กถ้าโค้ชเรียกต่อที่ 112 กก. จะดีกว่านี้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนัก ผู้จัดการทีม ได้ขอเข้าปรึกษา พล.ต.จารึกในห้องพักรับรอง บก.นักกีฬาไทย หมู่บ้านนักกีฬาเป็นการส่วนตัว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า ผจก. ทีมไม่พอใจทางเจ้าภาพ ที่ไม่อำนวยความสะดวกเรื่องรถรับส่งนักกีฬาไปแข่ง ทั้งที่ทุกวันจะจัดรถมารับ แต่วันนี้ก่อนเดินทางไปสนามกลับไม่มีรถ โดยระบุขอให้เดินไปขึ้นอีกที่หนึ่ง ซึ่งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ต้องเดินร่วม 2 กม.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์