ยีปลุกกระแส บอลภูธรให้คึก พัฒนาทีมตจว. ( ข่าวกีฬา )

ตามที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้จัดการสัมมนา “ยุทธศาสตร์การพัฒนาฟุตบอลภูมิภาคเพื่อบอลไทยแห่งอนาคต” ครั้งที่ 2 เขตภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 12-13 ก.ค. ที่เอ็นบี โฮเต็ล จ.อุดรธานี โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธาน ร่วมกับ นายธีระเดช วงษ์ราชธ์ รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย สภากรรมการบริหารสมาคมฯเป็นวิทยากร โดยมีผู้แทนบริหารฟุตบอลจาก 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตัวแทนจากภาคเหนือ, ใต้, ตะวันออก, กลาง เข้าสัมมนา โดยก่อนการสัมมนา นายวรวีร์ได้มอบลูกฟุตบอลจำนวน 300 ลูก ในโครงการ “ฟุตบอลแบงก์” ให้แก่เยาวชนของ จ.อุดรธานี และมอบหมายให้นายสถาพร โคตรบุตร ที่ปรึกษานายกสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะตัวแทน  จ.อุดรธานี เป็นผู้แจกจ่ายให้เยาวชนจังหวัดใกล้เคียงต่อไป
สำหรับสาระการสัมมนาสรุปได้ดังนี้ นายวรวีร์ กล่าวในที่ประชุมว่า วัตถุประสงค์ในการสัมมนาครั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากการสัมมนาภาคเหนือ ที่ จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งจากการที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี มีโครงการ “วิชั่น เอเชีย” ซึ่งสมาคมฟุตบอลก็ได้นำโครงการนั้นมาปรับใช้เป็น “วิชั่น ไทยแลนด์”  เป้าหมายก็คือการพัฒนาฟุตบอลภูมิภาคให้ก้าวไปสู่มืออาชีพอย่างเต็มตัว
ด้านนายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาสู่มืออาชีพของเอเอฟซีนั้น คือการตั้งสโมสรในรูปแบบบริษัท มีสนามเป็นของตัวเอง มีสำนักงานที่ถาวร มีเจ้าหน้าที่ประจำ มีการจัดตั้งแฟนคลับ แต่ละจังหวัดต้องค่อยๆเดินไปตามแนวทางนั้น แล้วพัฒนามีลีกภายในจังหวัด ก่อนจะต่อยอดไปเป็นลีกภูมิภาค แล้วก้าวขึ้นไปสู่ระดับดิวิชั่น 2, ดิวิชั่น 1 และไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ต่อไป รวมทั้งการพัฒนานักฟุตบอลระดับเยาวชน 12-19 ปีให้แข็งแกร่ง ซึ่งทีมชลบุรีที่ก้าวมาถึงขั้นนี้ได้ก็เพราะเริ่มจากเยาวชน ในส่วนของโค้ชก็ต้องมีการพัฒนาให้ก้าวไปถึงบี หรือเอ ไลเซนส์ ผู้ตัดสินก็เช่นกันอย่างน้อยต้องเป็นผู้ตัดสินชั้น 1 หรือขึ้นไปถึงฟีฟ่า ในการอบรมโค้ชและผู้ตัดสินทุกภูมิภาคก็จะมอบให้ “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน กับ “เปาแป๊ก” ปรัชญา เพิ่มพานิช รับผิดชอบ
ส่วนนายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฯกล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างฟุตบอลจังหวัดต้องไปในทิศทางเดียวกัน ตนได้ปรึกษากับนายกวรวีร์ว่าต่อไปจะมีการตั้งสำนักงานสมาคมฟุตบอลครบทั้ง 4 ภูมิภาค และจะเชิญตัวแทนแต่ละภาคเข้าไปเป็นคณะกรรมการหรือสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อจะได้รับทราบนโยบายการทำงาน การพัฒนาสู่มืออาชีพ ขณะที่สมาคมเองก็จะรับทราบปัญหาและอุปสรรคของทุกจังหวัดด้วย เร็วๆนี้ นายกวรวีร์ยังเตรียมเชิญผู้แทนจาก 76 จังหวัดให้ เดินทางไปดูงานของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย “เอเอฟซี” ที่ประเทศมาเลเซีย โดยสมาคมจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ส่วนการสัมมนาครั้งหน้า ยังอยู่ระหว่างการประสานงานว่าจะจัดที่ภาคตะวันออก หรือภาคใต้

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์