การแข่งขันแบดมินตันกรังด์ปรีซ์ โกลด์ เอสซีจีไทยแลนด์ โอเพ่น 2008 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 120,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,960,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ วันที่ 5 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
ประเภทชายเดี่ยว “ซุปเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ เจ้าของแชมป์ปี 2004 และรองแชมป์เก่าปี 2007 มือวาง 2 ของรายการ และมือ 14 ของโลก มีคิวลงสนามเป็นคู่สุดท้ายของวันพบมือรอง เฉิน ยัน คิต จากฮ่องกงมือ 28 ของโลก ปรากฏว่า เกมนี้ด้วยประสบการณ์ และความเก๋าของหนุ่มไทย ทำให้เอาชนะไปได้ไม่ยากในเกมแรก 21-17 จากนั้นเกม 2 สถานการณ์ไม่เปลี่ยน แม้หนุ่มฮ่องกงจะพยายามยื้อเกมอย่างสนุก แต่สุดท้ายต้านไม่ไหวเมื่อลูกสุดท้าย พลาดท่าตีออกเส้นหลังไปเอง ทำให้นักตบไทยตอกย้ำชัยชนะไปได้อีก 21-18 ด้วยเวลา 37 นาทีผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 3 โดยจะเข้าไปพบกับหลิน ตัน มือวาง 1 ของรายการ และมือ 1 ของโลกจากจีน ที่ล่าสุดเอาชนะอาลัมเซีย ยูนัส จากอินโดนีเซีย มา 21-16, 21-18 ด้วยเวลา 41 นาที ในวันที่ 29 มิ.ย. เริ่มเวลา 14.30 น.
ขณะที่คู่ผสม สุดเขต ประภากมล กับสราลีย์ ทุ่งทองคำ คู่มือวาง 3 ของรายการ และมือ 9 ของโลกชาวไทย ลงสนามพบงานหนัก ฮี ฮัน บิน กับหยู หยาง คู่ เต็ง 1 ของรายการ และมือ 3 ของโลกจากจีน ที่พบกัน 3 ครั้ง คู่ไทยไม่เคยเอาชนะได้เลย ปรากฏว่า แมตช์นี้คู่ไทยยังไม่อาจถอนแค้นคืนได้หลังออกแรงสู้อย่างเต็มที่ ก่อน พ่ายไป 2 เกมรวด 14-21, 18-21 ด้วยเวลา 47 นาที ทำให้คู่ไทยตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนฮี ฮัน บิน กับหยู หยาง ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับเซียะ ซงโบ กับจาง หยาเวน มือวาง 2 ของรายการเพื่อนร่วมชาติ ที่เอาชนะ ลิม คิม วาห์ กับวอง เป่ย ตี จากมาเลเซีย 21-17, 21-14
หลังเกม สุดเขต 1ในคู่ผสมไทย เปิดเผยว่า เสียดายที่ไม่อาจเก็บชัยชนะในนัดนี้ได้ เพราะโดนบี้มากๆ เกมรับไม่ดี และคงต้องปรับในส่วนนี้ ส่วนโปรแกรมต่อไปคงเดินทางไป จ.พระนครศรีอยุธยา ในแบดมินตันอาชีพประเทศไทย รอบชิงแชมป์สนามสุดท้าย ระหว่างวันที่ 8-12 ก.ค.นี้ จากนั้นคงเก็บตัวยาวเพื่อโอลิมปิกเกมส์ 2008 ซึ่งสภาพร่างกายเวลานี้อยู่ในฟอร์มที่ดี สำหรับเป้าหมายนั้นก็คงอยากได้เหรียญทอง แม้จะเป็นเรื่องที่ยากก็ตามที
ส่วนชายคู่ เทศนา พันธ์วิศวาส กับทรงพล อนุกฤตยาวรรณ คู่มือ 36 ของโลกชาวไทย พบกับเต็ง 1 ของรายการ ไค หยุน กับฟู ไฮ เฟง คู่มือ 3 ของโลก จากจีนและแน่นอนด้วยชั้นเชิงดีกรีที่เหนือกว่า แม้คู่ไทยจะทำเกมพอยต์ได้ก่อนถึง 2 ครั้ง แต่ปิดไม่ลงทำให้ 2 หนุ่มจีน อาศัยจังหวะพลิกเอาชนะไปในช่วงท้าย 23-21 ก่อนที่เกม 2 สถานการณ์ไม่เปลี่ยน คู่ไทยพ่ายไปตามคาด 17-21 ใช้เวลา 33 นาที ตกรอบไปเช่นกัน ส่วนคู่จีนผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกันเองกับ กู เชน ดอง กับเซียะ ซงโบ คู่มือวาง 2 ของรายการจากจีน ที่เอาชนะคาร์สเตน โมเกนเซน กับมาร์เธียส โบ คู่จากเดนมาร์ก 21-15, 21-17
ด้านหญิงเดี่ยว และหญิงคู่ ไม่มีพลิกล็อก มือวาง 1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้ตามคาด โดยหญิงเดี่ยว เซียะ ซิงฟาง มือ 1 ของโลก ชนะซิง ไอ หยิง จากสิงคโปร์ 21-7, 21-16 ด้วยเวลา 30 นาที ผ่านเข้าไปพบกันเองกับ ลู หลาน มือวาง 2 ของรายการจากจีน ที่เอาชนะหวัง เฉิน มือวาง 3 จากฮ่องกง 21-14, 21-12 ด้วยเวลา 26 นาที
หญิงคู่ หยาง เหว่ย กับจาง เจียเวน มือ 1 ของโลก จากจีน เอาชนะยู่ ชิน เฉียน กับเช็ง เวน ซิง คู่มือวาง 3 ของรายการจากไต้หวัน 21-19, 22-24, 21-13 ด้วยเวลา 50 นาที เข้ารอบชิงไปพบกับชิน เอ่ย ฮุย กับวอง เป่ย ตี จากมาเลเซีย ซึ่งเป็นมือวาง 4 ที่เอาชนะ เจียง หยานเม่ย กับลี หยูเจีย มือวาง 5 ของรายการจากสิงคโปร์ 21-14, 21-14
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์