ล่าสุด “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือใหญ่ ทีมชาติไทย ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ในราววันที่ 7 ก.ค. นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายวรวีร์ มะกูดี จะเรียกตนเข้าไปหารือในโอกาสที่จะเลี้ยงขอบคุณให้กับคณะนักเตะชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก ส่วนเรื่องการยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการนั้น เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนเพิ่งจะไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกฯผ่านทางเลขาธิการสมาคมฯ นายองอาจ ก่อสินค้า ไปแล้ว และต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า ยังพร้อมจะนั่งในตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคของสมาคมฟุตบอลต่อไปหรือไม่ เมื่อทีมชาติไทยได้ตัวกุนซือใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ “โค้ชหรั่ง” กล่าวแบบค่อนข้างมีอารมณ์ว่า “คงจะไม่แน่นอน ผมถามหน่อยว่าในเมื่อแฟนบอลมองและหาว่าเราไม่เก่ง หรือพูดง่ายๆคือมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเรา แล้วผมจะนั่งในตำแหน่งดังกล่าวต่อทำไม เพราะเป็นตำแหน่งที่ใหญ่ซะยิ่งกว่ากุนซืออีก”
ส่วนอนาคตนั้น โค้ชชาญวิทย์ยืนยันว่าจะไม่ไปรับงานเป็นโค้ช ไม่ว่าระดับสโมสร หรือทีมชาติยังต่างแดนแน่ โดยจะอยู่เมืองไทยต่อไป เพื่อทุ่มเททำงานให้กับต้นสังกัด สพก. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างเต็มที่ และพร้อมจะช่วยเหลืองานของสมาคมฟุตบอลฯ ต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการอบรมโค้ชซึ่งสิ้นปี 51 นี้ สมาคมจะเปิดหลักสูตรเอไลน์เซนส์ ที่เอเอฟซี รับรองซึ่งตนก็ต้อง ทำหน้าที่เป็นวิทยากร
สำหรับเรื่องของผู้มาใหม่ที่จะเข้ามาเป็นกุนซือทีมชาติไทยต่อจากตัวเองนั้น โค้ชหรั่งกล่าวว่า “ผมขอละที่จะไม่พูดแต่บอกได้คำเดียวว่าตัวโค้ชไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดหากทีมชาติไทยจะประสบความสำเร็จมากกว่าแค่ระดับอาเซียน สิ่งสำคัญซึ่งผมค่อนข้างจะท้อในฐานะของคนทำงานก็คือทัศนคติทางลบของแฟนบอลต่อทีมชาติไทย ต่อคนทำทีมที่มีแต่ทับถมกันยามที่ทีมไม่ประสบความสำเร็จ ตรงนี้เป็นสิ่งอันตราย ผมว่าเราน่าจะมาช่วยกันเป็นกำลังใจให้กันมากกว่าจ้องมาด่าคนทำทีมที่จะเป็นแค่เหยื่ออารมณ์”
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์