ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2008” ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย วันที่ 15 ของการแข่งขัน เมื่อเวลา 01.45 น. (22 มิ.ย.) เป็นเกมดวลแข้งในรอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 3 ระหว่างแชมป์ กลุ่มซี “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ดวลกับ “หมีขาว” รัสเซีย รองแชมป์กลุ่มดี ที่สนามเซนต์ จาค็อบ-พาร์ก เมืองบาเซิลของสวิตเซอร์แลนด์ สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 ถ่ายทอดสดให้ชม
“กังหันสีส้ม” ฮอลแลนด์ ของกุนซือ มาร์โก ฟานบาสเทน จบรอบแรกอย่างสวยหรูสมราคาทีมเต็ง 1 ของรายการ ด้วยการเก็บ 9 คะแนนเต็ม จากการชนะรวด 3 นัด (ชนะอิตาลี 3-0, ชนะฝรั่งเศส 4-1, ชนะโรมาเนีย 2-0) ยิงได้ถึง 9 ประตู เสียไปแค่ลูกเดียวเท่านั้น เกมนี้ ฮอลแลนด์หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะย้ำแค้นรัสเซียให้ได้อีกครั้ง เหมือนกับที่พวกเขาเคยถล่มรัสเซีย (สมัยยังเป็นสหภาพ โซเวียตเดิม) 2-0 ในนัดชิงยูโร 1988 ผงาดคว้าแชมป์ยูโรไปครองสำเร็จเมื่อ 20 ปีก่อน ครั้งนั้น ฟาน บาสเทน กุนซือทีมดัตช์คนปัจจุบัน ซัดลูกยิงใบไม้ร่วงสุดคลาสสิกเป็นประตูย้ำชัยด้วย
“หมีขาว” รัสเซีย ภายใต้การคุมทีมของ กุส ฮิดดิงก์ โค้ชชาวดัตช์ นัดนี้ฮิดดิงก์ต้องนำลูกทีมดวลกับทีมบ้านเกิดของตัวเอง และเขายังต้องวัดกึ๋นกับโค้ชรุ่นน้องอย่าง มาร์โก ฟาน บาสเทนด้วย สำหรับแมตช์นี้ รัสเซียส่ง 2 กองหน้ามหาภัยอย่าง โรมัน พาฟลูเชนโก และอังเดร อาร์ชาวิน ลงล่าตาข่ายทีมอัศวินสีส้ม โดยทีมรัสเซียชุดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่มีเกมรุกที่รวดเร็ว และเต็มไปด้วยนักเตะพลังหนุ่ม
ครึ่งแรก ช่วง 5 นาที รัสเซียคุมเกมไว้ได้เกือบหมดและเกือบได้ประตูหลายจังหวะ นาทีที่ 6 ยูริ เชียร์คอฟ ของรัสเซีย ปั่นฟรีคิก ระยะ 25 หลา บอลกำลังจะเสียบสามเหลี่ยม แต่ เอดวิน ฟาน เดอ ซาร์ พุ่งปัดออกไปได้ นาทีที่ 8 โรมัน พาฟลูเชนโก โหม่งข้ามคานออกไป จากนั้น รัสเซียควบคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เป็นสกอร์ จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง รัสเซียมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 56 จากบอลจากกราบซ้าย เข้ามากลางประตู ให้ โรมัน พาฟลูเชนโก ชาร์จเข้าไปทำประตูออกนำ 1-0 อย่างสวยงาม
จากนั้น รัสเซียน่าจะได้ประตูออกนำห่างอีกหลายจังหวะ ช่วงท้าย นาทีที่ 86 กลายเป็น ฮอลแลนด์ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคิก รุด ฟาน นิสเตลรอย พุ่งเข้าไปโหม่งบอลตุงตาข่ายอย่างสุดสวย ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ ยืดชีวิตให้ฮอลแลนด์
ช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที รัสเซียควบคุมเกมไว้ได้เกือบหมด และน่าจะได้ประตูในหลายจังหวะแต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาด นาทีที่ 112 รัสเซีย ได้ประตูออกนำอีกครั้ง อังเดร อาร์ชาวิน เลี้ยงหลบกองหลัง ฮอลแลนด์ ไปถึงริมเส้นหลัง ก่อนโยนเข้ากลางประตูให้ ดมิทริ ทอร์บินสกี ใช้เท้าซ้ายดีดเข้าไปเป็นประตูออกนำ 2-1
นาทีที่ 116 รัสเซีย ตอกประตู ปิดฝาโลงฮอลแลนด์ จากลูกทุ่มให้ อังเดร อาร์ชาวิน ลากบอลเข้าไปสับไกเต็มข้อ บอลแฉลบ จอห์นนี ไฮติงกา กองหลังฮอลแลนด์ ลอดขา เอดวิน ฟาน เดอ ซาร์ นายทวารอัศวินสีส้ม เข้าเป็นประตูสุดสวย รัสเซียนำห่าง 3-1 ก่อนจบเกม 120 นาทีด้วยสกอร์นี้
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์