แข้งไทยลั่นสู้ตาย “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผจก.ทีมไทยยอมรับเป็นรองทุกรูปแบบ แต่ยังมั่นใจสู้ได้และมีลุ้นถึงชนะญี่ปุ่น ด้วยประสบการณ์ล้ำค่าที่ได้จากแมนฯซิตี้ ขณะที่ “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ยันไม่คิดตั้งรับอย่างเดียว ขอลุ้นประตูจากเกมโต้กลับเหมือนกัน โดย 11 ตัวแรกคาดว่าจะใช้ชุดพิฆาต ชนบุค ขณะที่สภาพอากาศเริ่มเป็นใจ หิมะหยุดตกซ้อมได้ตามปกติ อุณหภูมิช่วงกลางวันอยู่ในราว 9 องศา
โยธิน อารีย์การเลิศ ผู้สื่อข่าวสยามกีฬารายงานความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลไทยที่เดินทางไปทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบ 20 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย กลุ่ม 2 โดยจะลงปะทะแข้งกับทีม “เจ้าถิ่น” ญี่ปุ่น ที่สนามไซตามะ สเตเดี้ยม ในวันท่ 6 ก.พ.นี้ โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. นักเตะไทยเริ่มยิ้มออก เมื่อสภาพอากาศที่กรุงโตเกียว ซึ่งนักเตะไทยพำนักและฝึกซ้อมอยู่เริ่มดีขึ้น โดยไม่มีหิมะตกลงมาอีกเหมือนวันวาน ซึ่งอุณหภูมิในช่วงกลางวันวัดได้ 9 องศาเซลเซียส โดยช่วงเย็นอากาศหนาวลงอยู่ในราว 5-7 องศาเซลเซียส ซึ่งนักเตะไทยต่างบอกว่าแม้จะหนาวแต่ก็พอรับได้ เพราะเคยไปปรับตัวที่ประเทศอังกฤษมาแล้ว
นักเตะไทยลงซ้อมช่วงเช้าและเย็นที่สนามนิชิกาโอกะ ในกรุงโตเกียว โดยทางเจ้าหน้าที่สนามได้มากวาดหิมะที่ตกลงมาเมื่อวันก่อนออกจากสนามให้นักเตะไทยได้ซ้อมในสภาพที่พอใช้ได้ แต่ยังมีสภาพลื่นแฉะบ้าง การซ้อมในช่วงเช้าเริ่มเวลา 10.00 น.- 12.00 น.เป็นการเน้นในเรื่องของแท็กติกการขึ้นเกม ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนญี่ปุ่นได้เข้าทำข่าว ขณะที่ในช่วงเย็นก็เริ่มฝึกซ้อมตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น.โดยไม่มีการเปิดไฟซ้อมแต่อย่างใดเนื่องจากสนามอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม ซ้อมจนฟ้ามืดจึงเลิก ซึ่งในช่วงซ้อมปรากฏว่า เกียรติประวุฒิ สายแวว มีอาการปวดตรงแผลที่ผ่าฟันคุดไม่สามารถมาซ้อมได้ ส่วนปรัชญ์ สมัครราษฎร์ กองหลังตัวกลางอีกคนก็ยังเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย
หลังการฝึกซ้อมมีผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นกว่า 10 คนที่มาติดตามความเคลื่อนไหวของทีมไทยถึงขอบสนามก็ได้มารุมล้อมสัมภาษณ์ สุรีย์ สุขะ ในฐานะที่เป็นดาราเอเชียและได้เซ็นสัญญาเล่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ ก่อนที่นักเตะไทยจะเดินทางไปรับประทานอาหารไทยในกรุงโตเกียวชื่อร้านบางกอก ก่อนกลับที่พักเพื่อพักผ่อนต่อไป
“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน เฮดโค้ชทีมชาติไทยเผยถึงสภาพทีมว่า ตอนนี้ปัญหาก็อย่างที่รู้กันคือสภาพอากาศที่หนาวเย็น ก่อนหน้านี้มีหิมะตกลงมาทำให้ไม่ได้ซ้อมแท็กติกการเล่น ยังโชคดีที่วันนี้อากาศดีขึ้นและได้ซ้อมกันบ้าง ซึ่งสภาพทีมตอนนี้ก็มีเกียรติประวุฒิ สายแวว ที่ยังไม่หายเจ็บจากการผ่าฟันคุดซึ่งคาดว่าจะหายไม่ทันเกมญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปรัชญ์ สมัครราษฎร์ ที่อาจจะเข็นลงได้ในเกมธรรมดา แต่การเจอกับทีมแข็งอย่างญี่ปุ่นเราจะไม่เสี่ยง
“ก็ไม่มีปัญหาอะไร เรามีมาถึง 23 คนก็จะส่งรายชื่อ 18 คนที่สมบูรณ์ที่สุด เกมกับญี่ปุ่น กองหลังคู่กลางก็คงจะเอา ณัฐพร พันฤทธิ์ มายืนคู่กับ ปฏิภาณ เพ็ชรพูล เหมือนเกมที่เจอกับชนบุค มอเตอร์ ซึ่ง 11 ตัวแรกจะยึดจากชุดนั้นเป็นหลัก โดยเจษฎา จิตสวัสดิ์ กองหลังอีกคนตอนนี้น่าจะหายเจ็บเล่นได้แต่อาจให้สำรองไปก่อน ส่วนกองกลางรอเช็กอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาขวาของ ดัสกร ทองเหลา ซึ่งถ้าหายไม่ทันก็จะเอา สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงไปเล่นแทน และอาจส่งดัสกร เป็นตัวสำรองลงเล่นในช่วงครึ่งหลังก็น่าจะดีกว่า”
“คู่กองหน้าก็เป็นศรายุทธ ชัยคำดีกับ ธีรเทพ วิโนทัย เหมือนเดิม ส่วนประตูยังต้องรอเช็กสภาพกันอีกครั้งว่าจะเอาใครลง สำหรับเกมกับญี่ปุ่นนั้นยังไม่อยากให้มองว่าเราจะล้มญี่ปุ่นได้แน่ แต่เอาเป็นว่าจะพยายามให้ดีที่สุด เราเองก็จะใช้เกมตั้งรับแล้วรอจังหวะสวนกลับซึ่งน่าจะมีลุ้นถึงประตูได้เหมือนกัน เราคงจะไม่ตั้งรับอย่างเดียวแน่ ถ้ามีโอกาสก็พร้อมจะเปิดเกมรุกสู้เพียงแต่ต้องรอดูตามสถานการณ์เท่านั้น ก็หวังว่าจะเก็บแต้มกลับเมืองไทยได้เหมือนกัน” “โค้ชหรั่ง” กล่าว
ด้าน “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผจก.ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้ทีมไทยถือว่าพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของเรา แต่เราก็ต้องรับสภาพตัวเองว่า ญี่ปุ่นเป็นทีมอันดับ 34 ของโลกได้เล่นในบ้านตัวเองแถมเคยชินกับสภาพอากาศหนาวเย็น เราเองเป็นทีมอันดับที่ 107 ของโลก แต่นักเตะทุกคนก็มีความฮึกเหิมมีความมุ่งมั่น เราได้ไปฝึกซ้อมที่แมนฯ ซิตี้มา ได้อุ่นเครื่องกับทีมดี ๆ และมีผลงานที่ดีมีความมั่นใจ ก็คิดว่าจะมีโอกาสชนะได้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ถึงกับชนะได้ เก็บ 1 แต้มกลับบ้านได้ก็โอเค
“แต่ถ้าหากเราเกิดพลาดท่าก็คงจะไม่หมดกำลังใจ เพราะนี่เป็นเพียงแค่แมตช์เริ่มต้นของเส้นทางฟุตบอลโลกได้ เรายังมีอีกหลายแมตช์ที่ต้องลุ้น ซึ่งทุกนัดมีความหมายสำหรับเราไม่ว่าจะเป็นคะแนนหรือการนับประตูได้เสีย เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดและเอาแต้มกลับบ้านให้ได้” “บิ๊กโต้ง” กล่าว
ด้าน ดัสกร ทองเหลา เพลย์เมกเกอร์ที่บาดเจ็บต้นขาขวาอยู่ ก็เผยว่า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของตนยังบอกไม่ได้ว่าจะลงได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ลองซ้อมดูก็มีอาการเสียวบ้างบริเวณต้นขา คงต้องรอเช็กตอนซ้อมก่อนแข่งอีกครั้งหนึ่ง แต่จะพยายามลงเล่นช่วยทีมให้ได้
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์