แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

ผีหวิดม่อง ไล่เจ๊าไก่หวิว สิงห์พลาดปอมปีย์ตี 1-1 ( ข่าวกีฬา )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : ผีหวิดม่อง ไล่เจ๊าไก่หวิว สิงห์พลาดปอมปีย์ตี 1-1

“ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด หวิดม่องเท่ง หลังโดน “ไก่เดือยทอง”สเปอร์ส ซัดนำก่อน 1-0 แต่มาได้ คาลอส เตเวซ ซัดประตูกู้ชีพในช่วงทดเจ็บช่วยให้ทีมรอดพ้นความปราชัยชนิดสุดหวิว ส่วน “สิงห์บลูส์” เชลซี พลาดท่าโดน พอร์ทสมัธ ไล่ตีเสมอ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 2 ก.พ.
สเปอร์ส 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 1


“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดรังไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงที่เพิ่งเจอกันมาในฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 โดยฆวนเด้ รามอส กุนซือสเปอร์ส ส่งนักเตะใหม่อย่าง อลัน ฮัตตัน แบ๊กขวาลงเล่นตัวจริงทันที โดยโยกเอาปาสกาล ชิมบงด้า ไปเล่นแบ๊กซ้าย และมีโจนาธาน วู้ดเก็ต ลงเล่นด้วย ส่วน “ปีศาจแดง” ของท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีนักเตะฟอร์มฮอตอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยิง 9 ลูกจาก 5 นัดหลังลงเล่น

เริ่มเกมมาเป็นทางฝ่ายเจ้าถิ่นที่เปิดเกมรุกได้เร้าใจกว่า แต่เกือบโดนแมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เกมสวนกลับเล่นงานเหมือนกัน นาทีที่ 7 คาร์ลอส เตเวซ รับบอลชิ่งจากไรอัน กิ๊กส์ หลุดไปทางซ้ายก่อนเปิดมาหน้าประตูและเป็นเวส บราวน์ ที่เข้าถึงบอลก่อนกองหลังเจ้าบ้านแล้วล็อกเข้าซ้าย แต่ว่ายิงข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น

เกมหลังจากนั้นสเปอร์ส เล่นได้ดีมาก นาทีที่ 20 ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ เจอร์เมน จีนัส กระชากขึ้นทางขวาก่อน ฮาร์กรีฟส์ เข้าสกัดแล้วบอลปลิ้นไปถึง อารอน เลนน่อน หลุดขึ้นทางกราบขวาโล่งๆ แล้วกระชากเข้ากลางก่อนเปิดโดนเอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ปัดมาแต่ว่าโชคร้ายบอลเข้าทาง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยิงสวนเข้าไปง่ายๆ สเปอร์สนำ 1-0 และฟาน เดอ ซาร์ โดนใบเหลืองด้วยหลังไปประท้วงว่าบอลไปโดนมือจีนัส

เกมของแมนฯ ยูไนเต็ดยังไม่ดีขึ้น และเกือบเสียประตูที่สองอีก เมื่อทอม ฮัดเดิ้ลสตัน ได้กดจากระยะ 30 หลา แต่ว่าบอลออกหลังไป

มานาทีที่ 33 “ปีศาจแดง” เกือบได้เช่นกัน จากจังหวะที่เวส บราวน์ เปิดบอลให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ว่าบอลข้ามคานออกไปไม่น่าเชื่อ

อีก 3 นาทีต่อมา อารอน เลนน่อน เปิดบอลให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลากเข้าหาเขตโทษแล้วซัดไกลทันที แต่ว่าบอลไม่ตรงกรอบอีกครั้ง

ท้ายครึ่งแรก ไรอัน กิ๊กส์ ได้โหม่งลูกเปิดของโรนัลโด้ แต่ว่าบอลเบาไป เข้ามือ ราเด็ค แซร์นี่ เซฟไว้ได้ จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำ 1-0

แต่เกมของแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ดีขึ้น นาทีที่ 53 ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน ได้กดจากระยะ 30 หลา ยังดีที่ เนมานย่า วิดิช ปราดเข้าบล็อกได้ทัน

อีก 3 นาทีต่อมา วิดิช ขึ้นมาโหม่งลูกเตะมมุมของไรอัน กิ๊กส์ แต่ว่าบอลไม่เข้ากรอบอีก

และจังหวะสวนกลับมาสเปอร์ส พลาดการได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย เมื่อดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ พาบอลจากกราบซ้ายขึ้นมาแล้วลากฉีกกองหลังทีมเยือนเป็นริ้ว ก่อนเปิดมาหน้าประตูถึง ร็อบบี้ คีน ที่ยืนโล่งๆ แต่รีบยิงเกินไปแล้วดันไปแปบอลจากหน้ากรอบบอลเลยไม่มีน้ำหนักไหลเข้ามือ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ รับง่ายๆ

นาทีที่ 58 เวย์น รูนี่ย์ ได้โหม่งลูกเปิดของไรอัน กิ๊กส์ แต่ว่า ราเด็ค แซร์นี่ ยังไม่พลาดอีกครั้ง

เกมมาถึง 1 ชั่วโมงเต็ม ท่านเซอร์ อเล็กซ์ ต้องแก้เกมด้วยการส่ง อันแดร์สัน และนานี่ ลงเล่นแทน สโคลส์ กับไรอัน กิ๊กส์

อีก 6 นาทีต่อมา สตี๊ด มัลบร็องค์ ได้ยิงจากระยะ 20 หลา แต่ว่าฟาน เดอร์ ซาร์ รับได้อีกครั้ง

นาทีที่ 75 แมนฯ ยูไนเต็ด น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ เมื่ออันแดร์สัน ได้ยิงจากระยะ 25 หลา แต่ว่าราเด็ค แซร์นี่ ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เหลือแมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมบุกหนัก ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอจนได้ เมื่อ นานี่ เปิดลูกเตะมุมมาให้ คาร์ลอส เตเวซ เอี้ยวตัววอลเลย์ตูมเดียวตุงตาข่าย สกอร์ขยับเป็น 1-1

จบเกม สเปอร์ส เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ส่งผลให้แมนยูไนเต็ด เสียบัลลังก์จ่าฝูงให้กับ อาร์เซน่อลแล้ว โดยตามหลัง 2 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : ราเด็ค แซร์นี่, อลัน ฮัตตัน, โจนาธาน วู้ดเกต, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ปาสกาล ชิมบงด้า, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน, สตี๊ด มัลบร็องค์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
สำรอง : พอล โรบินสัน (ผู้รักษาประตู), อี ยอง-เพียว, อาเดล ทารับต์, เจมี่ โอฮาร่า, เควิน พรินซ์-บัวเต็ง

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ
สำรอง : โทมัส คุสแซ็ค (ผู้รักษาประตู), จอห์น โอเช, นานี่, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน

พอร์ทสมัธ 1 - เชลซี 1

พอร์ทสมัธ ของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เปิดรัง แฟรตตัน พาร์ค รับการมาเยือนของทีมหัวแถว เชลซี โดยที่ เร้ดแน็ปป์ จัดคู่หัวหอกใหม่ลงสนามทันที ทั้ง มิลาน บารอส ที่ได้มาจาก ลียง และ เจอร์เมน เดโฟ ที่ได้มาจาก สเปอร์ส ส่วนในรายของ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ดาวยิงซิมบับเว ที่กำลังเดินเรื่องย้ายสู่ แมนฯ ซิตี้ ไม่มีชื่ออยู่ในทีมด้วย

ด้าน เชลซี ของ อัฟราม แกรนท์ ที่ต้องการบีบคะแนนเข้าไปหา อาร์เซน่อล ให้เหลือเท่าเดิม ขาดตัวหลักหลายราย จอห์น เทอร์รี่ กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รวมถึง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กับ อังเดร เชฟเชนโก้ ชวดลงสนามทั้งสิ้น ใช้หน้าเป้าเป็น นิโกล่าส์ อเนลก้า

เกมช่วงต้นเป็น พอร์ทสมัธ ที่เปิดเกมบุกเข้าหากรอบเขตโทษทีมเยือนได้มากกว่าเห็นๆ แต่ก็ยังหาช่องเจาะเข้าทำไม่ได้ถนัดถนี่ นาที 12 ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า สบโอกาสยิงเข้าข้อที่หน้าเขตโทษ แต่ลูกพุ่งเข้าซอง ปีเตอร์ เช็ก รับไว้สบาย

ปอมปีย์ ยังบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 16 มาได้ฟรีคิกระยะหวังผลราว 25 หลา นิโก้ ครานชาร์ ปั่นโค้งข้ามกำแพงแล้วแต่ยังไม่มุมพอ ปีเตอร์ เช็ก กางมือรับได้ไม่ยาก

เข้าสู่ครึ่งชั่วโมง เชลซี ที่กลับมาคุมเกมได้บ้าง หวิดพังตาข่ายนำไปก่อนจากลูกเตะมุมสาดเข้ามา มิชาเอล บัลลัค โถมขึ้นโขกเต็มๆลูกกำลังจะเข้าประตูแต่มี นิโก้ ครานชาร์ ปักหลักโขกทิ้งบนเส้นประตูอย่างฉิวเฉียด

อีกนาทีถัดมา ปอมปีย์ ได้เสียวซี้ดบ้าง จากลูกเตะมุมเช่นกัน ครานชาร์ สาดมาเข้าจุดโฟกัส โนเอ ปามาโรต์ ทะยานขึ้นโขกเต็มหัวส่งลูกพุ่งกระแทกคานบนดังสนั่นหวั่นไหว

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เชลซี น่าพังตาข่ายนำอย่างที่สุด บอลแทงทะลุช่องให้ อเนลก้า หลุดไปดวลเดี่ยวกับ เดวิด เจมส์ แต่หอกเฟร้นช์แมนยิงไปติดบล็อก เจมส์ หวุดหวิด แอชลี่ย์ โคล ตามเข้าซ้ำก็งัดโด่งออกหลังไป จบครึ่งแรกยังยันกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาทีที่ 48 มิลาน บารอส มีโอกาสได้หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ว่าจังหวะจะยิงไปติดบล็อก ปีเตอร์ เช็ก ที่ออกมาบล็อกได้เร็ว

อีก 4 นาทีต่อมาเชลซี น่าจะได้ประตูเหมือนกัน เมื่อแอชลี่ย์ โคล พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนชิ่งกับเพื่อนแล้วเข้าไปจิ้มผ่านตัว เดวิด เจมส์ แล้ว แต่ว่าจังหวะสุดท้ายยังมี เฮอร์มาน ฮไรดาร์สสัน ที่วิ่งตามมาเคลียร์จากเส้นได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

นาทีที่ 55 เป็นเชลซี ที่ขึ้นนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะโต้กลับขึ้นมาหลังพอร์ทสมัธ ได้บุกและโดนตัดบอลไปได้โดยโคล้ด มาเกเลเล่ และเป็นฟลอร็องต์ มาลูด้า ที่รับบอลยาวก่อนกระชากขึ้นมาทางซ้ายแล้วโยนข้ามฟากมาฝั่งขวา ก่อนที่โจ โคล จะแตะบอลจังหวะเดียวต่อให้นิโกล่าส์ อเนลก้า ยิงวอลเล่ย์จ่อๆ จากระยะแค่ 6 หลาไม่มีพลาด เชลซี นำ 1-0

แต่ว่านาทีที่ 64 กองเชียร์ เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันบ้าง เมื่อเดวิด เจมส์ เปิดบอลยาวมาและเป็น มิลาน บารอส ที่โหม่งตั้งให้ เจอร์เมน เดโฟ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงสวนตัวปีเตอร์ เช็ก เข้าประตูไป สกอร์เป็น 1-1 และเป็นประตูแรกของเดโฟ ในสีเสื้อของพอร์ทสมัธด้วย

หลังเสียประตูเชลซี เร่งเกมขึ้นมาอีกครั้ง อีก 2 นาทีต่อมาฌอน ไรท์ ฟิลิป์ ได้ลองยิงจากระยะ 20 หลาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ว่าเดวิด เจมส์ ยังไม่พลาดเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

ช่วงเวลาที่เหลือเชลซี พยายามเปิดเกมบุกอย่างหนัก แต่ว่าไม่สามารถทำประตูขึ้นนำได้ จบเกมเสมอพอร์ทสมัธ ไป 1-1 ชวดทำสถิติชนะ 10 นัดรวดและแบ่งไปทีมละ 1 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, โนเอ ปามาโรต์, เฮอร์มันน์ ฮไรดาร์สสัน, ฌอน เดวิส, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ริชาร์ด ฮิวจ์ส, นิโก้ ครานชาร์, มิลาน บารอส, เจอร์เมน เดโฟ
สำรอง : เจมี่ แอชดาวน์, ลูเซียน อูเบย์, โลแรน, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, เปโดร เมนเดส

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ, ทาล เบน-ฮาอิม, อเล็กซ์, แอชลี่ย์ โคล, โคล้ด มาเกเลเล่, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, มิชาเอล บัลลัค, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, โจ โคล, นิโกล่าส์ อเนลก้า
สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, สตีฟ ซิดเวลล์, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, เวย์น บริดจ์, เปาโล แฟร์เรยร่า
ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215