ผีจืดนำเร็วแต่ได้แค่เจ๊าแถมเสียริโอ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา จ่าฝูง “ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของบรมกุนซือเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปิดโรงละครแห่งความฝัน สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้วอย่าง “โบโร” มิดเดิลสโบรห์ ภายใต้การคุมทีมของแกเรธ เซาธ์เกต เริ่มเกมได้แค่ 3 นาที เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ เวย์น รูนีย์ หลุดเดี่ยวเข้าไปล็อคหลบผู้รักษาประตู มาร์ค ชวาร์เซอร์ เป็น คีแรน ริชาร์ดสัน ที่วิ่งตามหลังมา พุ่งตัดหน้า รูนีย์ เข้าแปบอลสู่ก้นตาข่ายที่ว่างเปล่าให้ทีมนำ 1-0 จากนั้นเป็นผีแดงที่เดินหน้าวันเวย์เข้าบุกโดยตลอด แต่จังหวะสุดท้ายไม่เน้น ยิงทิ้งยิงขว้างไปหมด เกมเข้าสู่ท้ายครึ่งแรก โบโร เร่งโหมบุก และเป็น มาร์ค วิดูกา ที่พุ่งโหม่งเข้าไปอย่างเฉียบคม ในนาที 45 ตีเสมอเป็น 1-1 ส่วน แมนฯ ยูฯ ต้องเสีย ริโอ เฟอร์ดินานท์ กองหลังคนสำคัญ ที่เกิดอาการเจ็บขาหนีบต้องเปลี่ยนตัวออกไป และคาดว่า จะต้องพักรักษาตัวราว 2 สัปดาห์ เข้าสู่ครึ่งหลัง ผีแดงลุยแหลกหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จนแล้วจนรอด โบโรสามารถต้านทานไว้ได้หมด ครบ 90 นาที เสมอกันไป 1-1 แบ่งกันทีมละ 1 แต้ม ทำให้ ผีแดง มี 82 คะแนน ทำแต้มทิ้งห่าง เชลซี 4 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วน โบโร มี 40 คะแนน อยู่ที่ 14
“เคาต์” เบิ้ลนำหงส์การันตีลุย ชปล.
อันดับ 3 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของกุนซือชาวสเปน ราฟาเอล เบนิเตซ เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของอันดับ 15 “เดอะ ลาติกส์” วีแกน แอธเลติก ภายใต้การคุมทีมของ พอล จีเวลล์ เกมเป็นเจ้าบ้านที่เปิดฉากลุยเข้าใส่อย่างหนัก ก่อนจะได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการโขกของ เดิร์ค เคาต์ ดาวยิงชาวดัตช์ ในนาทีที่ 30 เข้าสู่ครึ่งหลัง เคาต์ มาซัดลูกที่ 2 ให้ทีมนำห่างในนาที 68 ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา ลิเวอร์พูล กำชัย 2-0 เก็บ 3 แต้ม การันตีพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจาก อันดับ 5 อย่าง เอฟเวอร์ตัน มีแต้มตามหลังถึง 13 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันแค่ 3 นัดเท่านั้น ฝั่ง วีแกน อยู่อันดับ 16 มี 35 คะแนน ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก เนื่องจาก มีคะแนนนำอันดับ 19 เวสต์แฮม แค่ 3 แต้ม นำหน้าอันดับ 18 ชาร์ลตัน แค่ 2 แต้ม และแต้มเท่ากับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อันดับ 17 แต่ลูกได้-เสียดีกว่า
“จีนาส” ฮีโร่ไก่เดือยซัดทดเจ็บเจ๊าปืน
อันดับ 8 ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ของ มาร์ติน โยล นายใหญ่ชาวดัตช์ เปิดสนามไวต์ ฮาร์ต เลน รับการมาเยือนของคู่รักคู่แค้น อันดับ 4 “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ในศึกลอนดอน ดาร์บีแมตช์เมืองหลวง ครึ่งแรกเกมเป็นของเจ้าบ้านที่เล่นได้อย่างดุดัน ทำเกมรุกเข้าใส่อาร์เซนอลได้สวย ๆ โดยตลอด และได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 30 จากการโหม่งของ ร็อบบี คีน ดาวยิงชาวไอริช แต่ในครึ่งเวลาหลัง เกมกลับมาเป็นของทีมเยือน ที่ทำได้ดีกว่า ก่อนจะเร่งเครื่องตีเสมอได้ในนาที 64 จาก โคโล ตูเร เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวไอวอรีโคสต์ และพลิกขึ้นนำ 2-1 จากดาวยิงชาวโตโก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ นาที 78 เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของอาร์เซนอล แต่แล้วในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เจอร์เมน จีนาส กองกลางทีมชาติอังกฤษ ได้โอกาสซัดเรียดหน้ากรอบโทษส่งลูกพุ่งเสียบเสาเข้ามุมประตูไปอย่างสวยงามให้ สเปอร์ ตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ หมดเวลาแบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้ อาร์เซนอล มี 63 คะแนน อยู่ที่ 4 ตามหลังที่ 3 ลิเวอร์พูล 4 แต้ม ฝั่ง สเปอร์ มี 50 แต้ม อยู่ที่ 8 ยังมีโอกาสทำแต้มลุ้นไปลุยฟุตบอลยูฟ่า คัพ ในฤดูกาลหน้า
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2550
- สเปอร์ส เสมอ อาร์เซนอล 2-2
- โบลตัน แพ้ เรดดิง 1-3
- ชาร์ลตัน เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-1
- ฟูแลม เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1
- ลิเวอร์พูล ชนะ วีแกน 2-0
- วัตฟอร์ด เสมอ แมนฯ ซิตี 1-1
- เวสต์แฮม ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0
- แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ มิดเดิลสโบรห์ 1-1
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์