ศึกรถสูตร 1 ชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2007 หรือ “เอฟวัน 2007” มีชิงชัยกันทั้งสิ้น 17 สนาม และมีทีมแข่ง 11 ทีม ได้แก่ เรโนลต์, ฮอนด้า, เรด บูลล์ เรซซิ่ง, สปายเกอร์, เฟอร์รารี, บีเอ็บดับเบิลยู เซาเบอร์, วิลเลียมส์, ซูเปอร์ อกูริ, แม็คลาเรน, โตโยต้า และ โทโร รอสโซ โดยจะประเดิมสนามแรกในวันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. นี้ ที่อัลเบิร์ต ปาร์ค เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ถัดจากออสเตรเลีย คิวซิ่งเอฟวัน 2007 อีก 16 สนาม ได้แก่ 8 เม.ย. มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์, เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย, 15 เม.ย. บาห์เรน กรังด์ ปรีซ์, ประเทศบาห์เรน, 13 พ.ค. สแปนิช กรังด์ปรีซ์, บาร์เซโลนา, สเปน, 27 พ.ค. โมนาโก กรังด์ปรีซ์, มอนติ คาร์โล, 10 มิ.ย. แคนาเดียน กรังด์ปรีซ์, มอนทรีออล, 17 มิ.ย. ยูเอส กรังด์ปรีซ์, อินเดียนาโปลิส, สหรัฐ, 1 ก.ค. ฟรองซ์ กรังด์ปรีซ์, ฝรั่งเศส, 8 ก.ค. บริติช กรังด์ปรีซ์, อังกฤษ, 22 ก.ค. ยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์, นูร์บวร์กริง, เยอรมนี, 5 ส.ค. ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์, บูดาเปสต์, 26 ส.ค. เตอร์กิช กรังด์ปรีซ์, อิสตันบูล, ตุรกี, 9 ก.ย. อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์, มอนซา, อิตาลี, 16 ก.ย. เบลเจียน กรังด์ปรีซ์, เบลเยียม, 30 ก.ย. เจแปนนิส กรังด์ปรีซ์, ฟูจิ สปีดเวย์, ญี่ปุ่น, 7 ต.ค. ไชนีส กรังด์ปรีซ์, เซี่ยงไฮ้, จีน, 21 ต.ค. บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์, เซาเปาโล, บราซิล
สำหรับทีมเต็งในฤดูกาลนี้ ทีมแรกต้องยกให้ แม็คลาเรน ที่ได้ เฟร์นานโด อลองโซ แชมป์โลก 2 สมัยซ้อน จากสเปน ย้ายจาก เรโนลต์ มาซิ่งให้เป็นฤดูกาลแรก มีเพื่อนร่วมทีมคือ ลูอิส แฮมิลตัน นักขับหน้าใหม่วัย 21 ปีจากอังกฤษ และเป็นนักขับผิวสีคนแรกในเอฟวัน การได้ อลองโซ มาทำให้ แม็คลาเรนมีโอกาสคว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิต และ อลองโซ ยังเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์โลกนักขับเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน เพราะแม้จะลงขับกับทีมใหม่ แต่ อลองโซ ก็ผ่านการทดสอบรถ เอ็มพี 4-22 จนคุ้นมือแล้ว ขณะที่ แฮมิลตัน ดาวรุ่งจากอังกฤษ เป็นนักขับดาวรุ่งที่โชว์ฝีมือได้ดีในเอฟ 3 จนขึ้นมาเป็นนักขับเอฟวันได้สำเร็จ นอกจากนั้น รอน เดนนิส บอสใหญ่ของแม็คลาเรน ยังย้ำว่า ตนเองไม่รู้สึกว่าเป็นการเสี่ยงเลยที่เลือกใช้บริการของ แฮมิลตัน รวมทั้งมั่นใจว่า แฮมิลตัน จะโชว์ผลงานได้ดีในเอฟวัน ฤดูกาลแรกของตนเองด้วย
ส่วน อลองโซ ที่จะลงป้องกันแชมป์ปีนี้ยังมั่นใจเหมือนเดิมว่าจะคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยกล่าวว่า “ผมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ด้วยฝีมือ และศักยภาพของทีม รวมทั้งรถเอ็มพี 4-22 ที่ยอดเยี่ยม เราจะเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ตอนนี้ผมรู้สึกทะเยอทะยาน และ ท้าทายมากกับศึกใหญ่ที่รออยู่ ผมยังมีความรู้สึกดี ๆ เหมือนกับเมื่อ 6 ปีก่อนที่เข้าสู่เอฟวัน นั่นคือลงไปสนามแข่งอย่างมีความสุขและสนุกกับมัน ผมคิดว่าทีมใหม่ของผมคือแม็คลาเรน เป็นทีมมืออาชีพมาก พวกเขามีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมที่จะคว้าแชมป์ หลังจากที่ทีมล้มเหลวมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกหน การทดสอบรถใน 3 ครั้ง ที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่ารถคู่ใจขับได้ลื่น สะดวกสบาย ไม่มีอะไรยุ่งยาก หรือขัดข้องเลย มั่นเป็นข่าวดีสำหรับทีมของเรา และเราพร้อมแล้ว”
ด้านทีม เรโนลต์ ที่คว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิต และนักขับ จากฝีมือของ อลองโซ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ปีนี้มี จิอันคาร์โล ฟิซิเคลลา ซึ่งคว้าอันดับ 4 นักขับกับเรโนลต์ในฤดูกาลที่ผ่านมา กับ ไฮกิ โควา ไลเนน จากฟินแลนด์ เป็นนักขับ ซึ่ง เรโนลต์ คงต้องฝากความหวังไว้ที่มือเก๋าจากอิตาลีอย่าง ฟิซิเคลลา ที่ซิวได้ 1 แชมป์ที่มาเลเซีย เมื่อปีที่ผ่านมา มากกว่ามือใหม่วัย 25 ปี อย่าง โควาไลเนน ที่ยังต้องใช้เวลาซึมซับประสบการณ์ และแม้จะเสีย อลองโซ ที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ในปี 2005-2006 ไป เรโนลต์ ก็ยังเป็นทีมที่น่ากลัวอยู่ จากการมีผู้สนับสนุนรายใหม่อย่างไอเอ็นจี ที่มีงบเหลือเฟือในการพัฒนารถนิว อาร์ 27 ให้แรงเกินห้ามใจ
อย่างไรก็ตาม ฟลาวิโอ บริอาโตเร บอสใหญ่ของเรโนลต์ แอบหวังลึก ๆ ไว้กับ โควาไรเนน เหมือนกัน โดยชี้ว่า อลองโซ เป็นสมบัติล้ำค่าที่ เรโนลต์ สูญเสียไปก็จริง แต่ได้วางแผนมานานแล้วว่า หลังจากยุคของ อลองโซ แล้ว โควาไลเนน ก็คือตัวตายตัวแทนที่จะมาสืบทอดความยิ่งใหญ่ให้เรโนลต์ และมั่นใจว่า โควาไลเนน มีดีพอที่จะคว้าแชมป์สนามใดสนามหนึ่งในฤดูกาลนี้ เพราะเป็นคนที่เรียนรู้สิ่งดี ๆ ของ อลองโซ มาโดยตลอด แม้จะเสีย อลองโซไป แต่การมีนักขับมือดีอยู่ในทีมทั้งสองคน บวกกับพลังรถ อาร์ 27 ที่ไว้ใจได้ ทำให้ทีมยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม ซึ่ง โควาไรเนน ได้กล่าวหลังการทดสอบอาร์ 27 ไว้อย่างน่าฟังด้วยว่า “ทีมของเรากระหายที่จะคว้าแชมป์อีกครั้งให้ได้ และ อาร์ 27 แสดงให้เห็นแล้วว่าพร้อมจะตอบสนองความมุ่งมั่นของเรา”
ฝั่ง “ม้าลำพอง” เฟอร์รารี ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกนับตั้งแต่ปี 1995 ที่จะไม่มีตำนานแชมป์โลกอย่าง ไมเคิล ชูมัคเกอร์ อยู่ในทีม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ เฟลิเป มาสซา อันดับ 3 นักขับกับเฟอร์รารีเมื่อปีที่ผ่านมา และ คิมี ไรโคเนน ซึ่งได้อันดับ 5 กับแม็คลาเรน มาโชว์ฝีมือ แต่การขาดช่างเครื่อง ที่ชำนาญอย่าง รอสส์ บราวน์ และ ไนเจล สเตปนีย์ ไปก็ทำให้เฟอร์รารีกระเทือนเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม มาสซา นักซิ่ง บราซิลก็มี ความมั่นใจขึ้นมากจากการคว้าแชมป์ที่ตุรกี และบราซิล ในปีที่ผ่านมา และโชว์ผลงานได้ดีเคียงคู่กับ “ชูมี” มาตลอดทั้งปี ขณะที่ ไรโคเนน จากฟินแลนด์ก็เป็นนักขับฝีมือดีที่ทุกคนยอมรับ ด้วยรถเอฟ 2007 ทำให้ เฟอร์รารี ยังเป็นทีมที่ใครจะประมาทไม่ได้ และยังเป็นทีมเต็งในฤดูกาลนี้
ทีมเต็งอีกทีม ได้แก่ ฮอนด้า ที่ยังมี เจนสัน บัตตัน จากอังกฤษ ที่คว้าอันดับ 6 ในฤดูกาลที่ผ่านมา กับ รูเบนส์ บาร์ริเคลโล อันดับ 7 จากบราซิลฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นนักขับ เนื่องจาก บัตตัน โชว์ฟอร์มได้ดีมากตั้งแต่กลางฤดูกาลที่ผ่านมา ซิวไป 1 แชมป์ที่ฮังการี ส่วน บาร์ริเคลโล ก็เป็นนักขับประสบการณ์สูงเชื่อมือได้
ส่วนทีมอื่น ๆ คงต้องลุ้นกันหนัก ไม่ว่าจะเป็น นิค ไฮด์เฟลด์ (เยอรมนี) กับ โรเบิร์ต คูบิกา นักขับโปแลนด์คนแรกในเอฟวันที่ได้อันดับ 16 ในฤดูกาลที่ ผ่านมา จากบีเอ็มดับเบิลยู เซาเบอร์, ราล์ฟ ชูมัคเกอร์ (เยอรมนี) กับ ยาร์โน ทรูลลี (อิตาลี) จากโตโยต้า, เดวิด คูลธาร์ด (สกอตแลนด์) กับ มาร์ค เวบเบอร์ (ออสเตรเลีย) จากเรดบูลล์, นิโก รอสเบิร์ก (เยอรมนี) และ อเล็ก วูร์ซ (ออสเตรีย) จากวิลเลียมส์, วิตานโตนิโอ ลุซซี (อิตาลี) กับ สกอตต์ สปีด (สหรัฐ) จาก โทโร รอสโซ, คริสติยัน อัลแบร์ส (ฮอลแลนด์) กับ อาเดรียน ซูติล (เยอรมนี) จากสปายเกอร์, และ ทากูมะ ซาโต้ (ญี่ปุ่น) กับ แอนโธนี เดวิดสัน (อังกฤษ) จากซูเปอร์ อกูริ
แต่ที่แน่นอนที่สุด คงต้องรอพิสูจน์กันในสนามจริง และสนามแรกของฤดูกาลนี้คือ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ วันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. นี้ คงจะเริ่มบอกอะไรได้บ้าง ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาแชมป์สนามนี้เป็นของ อลองโซ ปีนี้จะทำได้อีกหรือไม่ ในสีเสื้อใหม่กับ แม็คลาเรน แฟนมอเตอร์สปอร์ต รอลุ้นกันอย่างระทึกทั่วโลก (ทรูวิชั่นส์ สตาร์ สปอร์ตส์-ช่อง 66 ยิงสด 10.00 น. เป็นต้นไป).
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์