คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคนี้ เดวิด เบคแคม (David Beckham) ซึ่งมีชื่อเต็ม ๆ ว่า เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ เป็นนักกีฬาชายที่โด่งดังที่สุดในโลกอีกรายหนึ่ง เพราะนอกจากจะมีฝีเท้าเป็นที่ชื่นชอมของแฟนลูกหนังแล้ว ยังโด่งดังจากนอกสนามทั้งการเป็นนายแบบ, พรีเซ็นเตอร์สินค้า และการเป็นดารา ซึ่ง เบคแคม เคยแสดงในเรื่อง GOAL! โกล เกมส์หยุดโลก และปีนี้จะมีหนังเรื่อง GOAL 2 ที่ เบคแคม ร่วมแสดงนำอีกเช่นกัน โดยจะเป็นบทที่คล้ายกับชีวิตจริงของ เบคแคม เพราะในภาค 2 นี้ เบคแคม รับบทเป็นนักเตะดังที่ย้ายไปค้าแข้งในสเปน
จากการที่มีรูปร่างหน้าตาดี บวกกับฝีเท้าระดับโลก ทำให้ เบคแคม โด่งดังมาตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยามลงรับใช้ชาติให้กับทีม “สิงโตคำราม” อังกฤษ ซึ่ง เบคแคม เริ่มเซ็นสัญญาเป็นนักเตะฝึกหัดกับ “ผีแดง” ตั้งแต่อายุ 14 ปี เมื่อ 2 พ.ค. 1989 และรับใช้นำทีม “ผีแดง” สู่ความยิ่งใหญ่มายาวนาน จนเกิดเหตุการณ์สตั๊ดบินในห้องพักกับกุนซือ “เฟอร์กี” เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นชนวนเหตุให้ เบคแคม ถูกขายให้ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ในช่วงปิดฤดูกาลปี 2003
แม้ว่า เบคแคม จะโชว์ฟอร์มได้สมราคา ในการค้าแข้งกับ รีล มาดริด จนแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมให้การยอมรับ
จากตอนแรกที่คิดว่าสโมสรซื้อมาร่วมทีมเพื่อผลทางการตลาดอย่างเดียว แต่ เบคแคม ก็ยังไม่สามารถพาทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะระดับโลกอย่าง "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์รายการใด ได้เลย ในขณะที่ รีล มาดริด มีการเปลี่ยนกุนซือไปหลายรายแล้ว นับตั้งแต่ที่ เบคแคม ย้ายมาร่วมทีม
จนมาถึงยุคของ ฟาบิโค คาเปลโล กุนซืออิตาลี เข้ามาคุมทีม เดวิด เบคแคม มิดฟิลด์วัย 31 ปี ตัดสินใจไปหาความท้าทายใหม่ให้กับชีวิต ด้วยการตกลงเซ็นสัญญา 5 ปี มูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เมื่อ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ย้ายไปซบ ลอสแองเจลิส แกแล็คซี่ ในเมเจอร์ลีกสหรัฐอเมริกา ทันทีที่จบฤดูกาลนี้กับ “ราชันชุดขาว” หลังสัญญาของ เบคแคม กับ “ราชันชุดขาว” จะหมดลงในเดือนมิ.ย. นี้ และ เบคแคม ไม่ยอมต่อสัญญาใหม่ ทำให้ คาเปลโล ไม่พอใจและไม่ยอมส่ง เบคแคม ลงสนามอีกเลย
อย่างไรก็ตาม กระแสแฟนบอล และกระแสเพื่อนร่วมทีม บวกกับความเป็นมืออาชีพของ เบคแคม ที่ตั้งใจฟิตซ้อมอย่างไม่ท้อถอย ทำให้ เบคแคม ได้กลับมาลงสนามให้ “ราชันชุดขาว” อีกครั้ง ในเกมที่ออกไปเยือนเชือด รีล โซเซียดัด 2-1 เมื่อวันเสาร์ ที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากที่โดนดร็อปไม่ได้ลงเล่นให้ทีมมา 6 นัด ตั้งแต่ 20 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา
การ “คัมแบ๊ก” กลับมาลงสนามครั้งนี้ เบคแคม แจ้งเกิดอีกครั้ง ช่วยซัดฟรีคิก 25 หลา ตีเสมอให้ทีมได้ในนาทีที่ 37 ก่อนที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย จะยิงประตูชัยให้ทีมในนาทีที่ 48 ซึ่งฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ เบคแคม และชัยชนะของ “ราชันชุดขาว” เกมนี้ ยังช่วยเซฟเก้าอี้กุนซือของ คาเปลโล ไว้ด้วย เพราะมีกระแสข่าวก่อนเกมว่า คาเปลโล จะโดนปลดหาก “ราชันชุดขาว” พ่ายแพ้ในเกมนี้
หลังเกม คาเปลโล กล่าวว่า “ ผมพอใจกับฟอร์มของ เบคแคม และประตูของเขา เพื่อนร่วมทีมก็เช่นกัน ผมเคยคุยกัยเขาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่าต้องให้โอกาสเขาอีกแน่ แต่เรารู้กันเพียง 2 คน ผมส่งเขาลงสนามเพราะช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาโชว์ฟอร์มในการฟิตซ้อมได้ดีมาตลอด” ขณะที่ ฟาน นิสเตลรอย กล่าวว่า “นี่เป็นชัยชนะครั้งสำคัญของเรา ซึ่งเราถูกยิงนำ แต่ร่วมกันต่อสู้จนกลับมาคว้าชัยได้ นับเป็นสัญญาณที่ดีของทีม เบคแคม เป็นหัวใจสำคัญของทีม พวกเราต่างดีใจที่เห็นเขาคัมแบ๊กสู่ทีมอีกครั้ง และยิงประตูได้ด้วย”
หนังสือพิมพ์ดังในสเปน “สปอร์ต เดลี” ถึงกับพาดหัวข่าวว่า “คาเปลโล คุณเป็นหนี้ เบคแคม อีกครั้ง” ขณะที่ “มาร์กา” พาดหัวว่า “ ฟรีคิก เบคแคม ช่วยชีวิตกุนซือ หลังตัวเองโดนลงโทษไป 34 วัน” ขณะที่ฉบับพาดว่า “เบคแคม ลงโทษความหยิ่งยโสของ คาเปลโล”
อย่างไรก็ตาม คาเปลโล แก้ตัว แบบสั้น ๆ ได้ใจความ ถึงการตัดสินใจลดทิฐิของตัวเองกลับมาใช้บริการของ เบคแคม ว่า “คนฉลาดย่อมรู้ดีว่าจะแก้ไขความผิดพลาดอย่างไร” และด้วยกระแสที่รุนแรงเช่นนี้ทำให้ คาเปลโล คงไม่อาจปฎิเสธ เบคแคม ได้อีก ในการใส่ชื่อ เบคแคม ลงทำศึกลา ลีกา สเปน ที่ตอนนี้เตะไป 22 นัด “ราชันชุดขาว” รั้งอังดับ 3 มี 41 แต้ม ตามหลังอันดับ 2 เซบีญา อยู่ 2 แต้ม และไล่จ่าฝูง บาร์เซโลนา อยู่ 5 แต้ม รวมทั้งศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 2 ที่ “ราชันชุดขาว” จะพบกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ในวันที่ 20 ก.พ. และ 7 มี.ค. นี้
เป็นการ “คัมแบ๊ก” สู่ “ราชันชุดขาว” อีกครั้งของ “เบคแคม” เพื่อที่จะจากไปอย่างสง่าผ่าเผยที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น เบคแคม เปิดเผยว่า ถึงแม้จะไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกา แต่เขาเองยังต้องการรับใช้ทีมชาติอยู่เสมอ แม้ สตีฟ แม็คคลาเรน กุนซือ “สิงโตคำราม” จะยังไม่เคยเรียก เบคแคม มาติดทีมชาติอีกเลย นับตั้งแต่จบฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี
แต่ตอนนี้ เกิดกระแสรุนแรงเรียกร้องให้ “บิ๊กแม็ค” เรียก เบคแคม คืนทีมชาติอีกครั้งเช่นกัน เพื่อช่วยทำศึกยูโร 2008 รอบคัดเลือก หลังจากที่ “สิงโตคำราม” เสียฟอร์มอีกหน โดย “กระทิงดุ” สเปน บุกมาขวิดคาบ้าน 1-0 ในการอุ่นแข้งล่าสุด ทำให้เกิดคำถามในหมู่แฟนบอลอังกฤษว่า เหตุไฉน คาเปลโล ยังยอมลดความหยิ่งทะนงของตัวเองได้ แล้วทำไม “บิ๊กแม็ค” จะไม่ลองหันมาใช้บริการของ เบคแคม ที่ผ่านการเล่นทีมชาติมา 94 ครั้ง เป็นกัปตันทีมมา 57 ครั้งบ้าง
โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ทั้ง โจ โคล และ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ 2 มิดฟิลด์อังกฤษยังเจ็บอยู่ เบคแคม ก็น่าจะมาช่วย แฟรงค์ แลมพาร์ด กับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้มาก แต่ “บิ๊กแม็ค” กล่าวแค่ว่า เขายังไม่ปิดกั้นโอกาสคืนทีมชาติของ เบคแคม แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อใด
ย้อนไปที่ความห็นจอง คาเปลโล ที่กล่าวว่า ตอนนี้ เบคแคม จะกลับมาเป็นขุนพลหลักของ รีล มาดริด อีกครั้ง ทำให้หลายฝ่ายคาดว่า หากช่วงนี้ เบคแคม ลงสนามให้ รีล มาดริด ทุกนัดจนถึง 24 มี.ค. นี้ และยิงประตูได้อีกอย่างน้อย 3 ประตู ก็น่าจะมีโอกาสคืนทีมชาติลทำศึกยูโร 2008 รอบคัดเลือกกลุ่ม E ให้อังกฤษในเกมกับ อิสราเอล และ อันดอร์รา ซึ่งอังกฤษจะไปเยือนอิสราเอลในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และไปเยือน อันดอร์รา 28 มี.ค.นี้
ถ้าทำได้แบบนี้แล้ว “บิ๊กแม็ค” ยังไม่สน อีก โอกาสของคืนทีมชาติของ เบคแคม ก็คงจบลงแบบถาวร เนื่องจากหาก เบคแคม ไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ห่างจากอังกฤษกว่า 8,800 กม. ก็ยากที่กุนซืออังกฤษจะได้เห็นฟอร์มของ เบคแคม
แต่ เบคแคม ยังมีการ “คัมแบ๊ก” ที่สำคัญอีกครั้ง คือการร่วมทีม “ยุโรป ออลล์สตาร์ 11” หรือรวมดารายุโรป ลงเตะกับทีมเก่าของตัวเอง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในงานฉลองครบรอบ 50 ปีที่ “ผีแดง” เล่นในยูโรเปี้ยนคัพ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ “ผีแดง” ในวันที่ 13 มี.ค. นี้ โดย มาร์เซลโล ลิปปี กุนซือทีมรวมดารายุโรป เลือกนักเตะอังกฤษมาร่วมทีม 3 รายคือ เบคแคม, เจมี คาราเกอร์ และ สตีเวน เจอร์ราร์ด
“ผมดีใจมากที่รู้ว่า ได้เล่นในเกมวันที่ 13 มี.ค. นี้ มันเป็นอีกสิ่งที่วิเศษที่สุด ที่ได้กลับมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง” เบคแคม กล่าว
แน่นอนที่สุดว่า มันป็น “การคัมแบ๊ก เพื่อจาก” ที่สำคัญอีกครั้งของ เบคแคมด้วย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์