นับเป็นบทพิสูจน์ความสามารถที่แท้จริงของนักเทนนิสไทยร่างเล็ก ดนัย อุดมโชค หลังคว้าเหรียญทองที่ 13 ให้กับทัพนักกีฬาไทยในศึกโดฮาเกมส์ ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อปลายปีที่แล้วได้เป็นอย่างดี ครั้งนั้นคู่ต่อสู้คนสำคัญ ลี ฮุง-เต็ก นักเทนนิสเบอร์ 1 ของเอเชีย ชาวเกาหลีใต้ ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า เพราะเขามีอาการป่วย ทำให้พลาดโอกาสการคว้าเหรียญทองให้กับทีมตัวเอง หาใช่เพราะฝีมือด้อยกว่าไม่ ทำให้แฟนเทนนิสไทยหลาย ๆ คน เกิดข้อกังขาว่า ?ดนัย? มีดีพอหรือไม่ที่จะก้าวไปสู่การแข่งขันเทนนิสระดับเวิลด์คลาส ?ตอนกลับจากเอเชี่ยนเกมส์ใหม่ ๆ นักข่าวมารุมถามผมเยอะ ๆ ผมก็รู้สึกแปลกใจ เพราะปกติแล้ว จะไม่ค่อยมีคนสนใจผมเท่าไร แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนวันนึงผมเดินไปตามถนน เจอมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาทัก พี่ครับ โหพี่เก่งจังเลย วันนั้นผมดูพี่แข่งด้วย พี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ ผมรู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมเราถึงมีคนรู้จักมากขนาดนี้ เดินไปตามห้าง คนก็ซุบซิบ และคุยกัน ชี้มาทางผมว่า ใช่ดนัยหรือเปล่า ใช่ไหม ถามว่าผมรู้สึกยังไงเหรอครับ ก็แปลก ๆ แต่ลึก ๆ ก็ดีใจนะครับ และนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องทำให้ดีกว่านี้อีก? ดนัยกล่าว เวทีแรกสำหรับการพิสูจน์ตัวตนของดนัย ก็คือ ออสเตรเลียน โอเพ่น ซึ่งเป็นรายการ 1 ใน 4 แกรนด์สแลม ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ประเทศออสเตรเลีย รอบแรก ดนัยเอาชนะ มาร์ติน วาสซาโล อาร์กูเอลโล นักเทนนิสมือ 85 โลกจากอาร์เจนตินา ซึ่งมาร์ตินนั้นถือว่ากำลังมาแรงจัด ผลงานในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถไต่มาอยู่ในอันดับท็อป 100 คนแรกของโลกได้เป็นครั้งแรก แต่ความร้อนแรงของเขาก็ไม่อาจหยุดยั้ง ?ดนัย? จากประเทศไทยได้ รอบสอง ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักที่สุด เซียนหลายคนมองว่าดนัยไม่น่าจะผ่านรอบนี้ไปได้ เพราะเขาต้องพบกับนักเทนนิสมือวางอันดับ 24 ของรายการ และเป็นอดีตมือ 1 ของโลกอย่าง ฮวน คาร์ลอส เฟร์เรโร จากสเปน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในเทนนิส เมื่อดนัยเอาชนะไปได้แบบไร้ข้อกังขา จนในวันนี้ใคร ๆ ก็มองว่า ?ดนัย? น่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่แฟนเทนนิสไทยน่าจะเทใจเชียร์ได้ เหมือนกับที่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ เคยได้รับจากแฟนเทนนิสไทยเมื่อหลายปีก่อน ว่ากันตามจริงแล้ว ต้องถือว่า ?ดนัย? นั้นเป็นนักเทนนิสรูปร่างเล็ก และไม่น่าจะไปได้ไกลในระดับอาชีพ ซึ่งจุดนี้เองก็เคยเป็นอุปสรรคสำคัญที่เกือบจะทำให้เขาถอดใจ ดนัยเล่าว่า เขาต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าที่จะกลับความคิดของตัวเองใหม่ ให้รู้สึกว่า ?คนตัวเล็ก? ก็เอาชนะ ?คนตัวใหญ่? ได้ไม่ยากเย็น หากว่าเราจะดึงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมาให้ได้ เช่น ต้องวิ่งให้เร็วกว่า หรือวางบอลให้แม่นยำกว่า เรื่องรูปร่างที่เล็กของ ?ดนัย? นั้น ก่อนหน้านี้ มันไม่เพียงแต่จะเป็นอุปสรรคสำหรับการเล่นเทนนิสอาชีพ แต่ยังเป็นอุปสรรคต่อความรักครั้งแรกของเขาด้วย ?ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นประถม 6 เห็นจะได้ ผมแอบชอบเพื่อนนักเรียนในห้อง ชอบแบบเด็ก ๆ น่ะครับ รู้สึกว่าเขาน่ารักดี อยากเข้าไปคุยด้วย แต่ว่าเขาตัวสูง แล้วก็สูงกว่าผมเสียด้วยสิ แล้วผมก็เป็นคนขี้อาย ผมก็เลยไม่กล้าเข้าไปคุยกับเขา ได้แต่แอบมองไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่านะครับ? ดนัยกล่าว ดนัยกล่าวต่ออีกว่า มีหลายคนมาถามผมว่าผมอยากเป็นเหมือนใคร หากเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะบอกว่า ผมอยากเป็นเหมือน พี่บอล (ภราดร ศรีชาพันธุ์) เพราะเขาเล่นเทนนิสเก่ง นิสัยดี เป็นรุ่นพี่ที่ผมชื่นชม และถ้าหากว่าในวันหนึ่งผมเป็นได้อย่างเขา มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักเหมือนเขา มันคงเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก ๆ ?เมื่อก่อนผมไปไหนก็ไม่มีใครรู้จัก เอาง่าย ๆ ว่า วันนึงผมขับรถจะไปซ้อม เลนนั้นบังคับเลี้ยวขวา แต่ผมขับตรงไป ก็โดนตำรวจเรียกขอดูใบขับขี่ ผมก็บอกว่าพี่ครับผมเป็นนักกีฬาทีมชาติ ผมรีบไปซ้อม ขอเถอะครับพี่ แต่ตำรวจคนนั้นบอกว่า ขอโทษครับ ผมไม่ชอบดูกีฬา ผมขอดูใบขับขี่ครับ ในสถานการณ์คล้าย ๆ กัน ผมไปกับพี่บอล ตำรวจเรียก พี่บอลเปิดกระจกรถลง ตำรวจพูดทันที อ๋อ...คุณภราดรเหรอครับ จะรีบไปซ้อมใช่ไหมครับ เชิญครับ ๆ แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมขอลายเซ็นหน่อย ลูกผมเป็นแฟนคุณอยู่ นี่ล่ะครับมันเป็นความแตกต่างที่ผมเองก็รู้สึก แต่ไม่ได้คิดน้อยใจ ตอนนั้นคิดแค่ว่า ผมอยากเป็นภราดร ผมต้องทำอย่างไร จากนั้นผมก็พยายาม พยายาม และพยายาม จนถึงวันนี้ผมยังไม่ใช่ภราดร แต่ผมก็พอใจกับความพยายามของผม และผมก็จะพยายามต่อไป? ดนัยกล่าว.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์