ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2006/07 นัดซุปเปอร์ซันเดย์ คืนนี้ (อาทิตย์ 14 ม.ค.) มีเกมดวลแข้งรวม 2 คู่ ดังนี้ คู่แรก ?ทอฟฟี่? เอฟเวอร์ตัน จะเปิดรังกูดิสันพาร์กต้อนรับทีมน้องใหม่ไฟแรงอย่างเรดดิ้ง โดยจะเริ่มเตะตรงกับเวลาไทย 20.45 น. และมีถ่ายทอดสดทางยูบีซี-ทรู อีเอสพีเอ็น 39 ส่วนคู่หลังเป็นเกมบิ๊กแมตช์ที่สังเวียนไวท์ฮาร์ทเลน ในกรุงลอนดอน เจ้าบ้าน ?ไก่เดือยทอง? ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 7 ของตาราง จะเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของสโมสรที่มีสัญลักษณ์เป็นสัตว์ปีกด้วยกันอย่าง ?สาลิกาดง? นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 14 ซึ่งคู่นี้ ช่อง 3 อสมท และยูบีซี-ทรู อีเอสพีเอ็น 39 จะถ่ายทอดสดให้ชมพร้อมกัน เริ่มเวลา 23.00 น. เจ้าถิ่นทีมไก่เดือยทอง สเปอร์ส มีฟอร์มการเล่นในรังไวท์ฮาร์ทเลนค่อนข้างดี แพ้ยาก ขนาดแชมป์เก่าเชลซียังเคยบุกมาเสียท่าปราชัยให้ทีมไก่เดือยคมที่นี่มาแล้ว เกมนี้สเปอร์สของกุนซือมาร์ติน โยล น่าจะจัดทัพใหญ่ลงบู๊เต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นนายทวารพอล โรบินสัน, เจอร์เมน จีนาส, อารอน เลนนอน และคู่หัวหอกสุดอันตราย ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ กับ เจอร์เมน เดโฟ ที่กำลังอยู่ ในช่วงท็อปฟอร์มทั้งคู่ ข้างฝ่ายทีมเยือนสาลิกาดง ของกุนซือเกล็น โรเดอร์ ได้รับข่าวดี 2 ชั้น เมื่อจะได้ สกอตต์ พาร์กเกอร์ มิดฟิลด์กัปตันทีม กลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบน ขณะที่ เอ็มเร กองกลางทีมชาติตุรกี ก็คาดว่าจะลงสนามได้ หลังอาการเจ็บที่ขาหนีบหายดีแล้ว แต่จะยังไม่มี เดเมียน ดัฟฟ์ ปีกตัวเก่งชาวไอริช ที่ยังเจ็บอยู่ ส่วน นิคกี้ บัตต์ มิดฟิลด์ตัวเก๋า ยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ เนื่องจากป่วยเป็นไข้ ขณะที่ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ คีรอน ดายเออร์ และเจมส์ มิลเนอร์ พร้อมลงสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด นัดแรกที่ทั้งคู่พบกันในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิลเปิดบ้านถล่มสเปอร์สราบคาบ 3-1 โดยได้ประตูจาก คีรอน ดายเออร์, โอบาเฟมี มาร์ตินส์ และสกอตต์ พาร์กเกอร์ คนละ 1 เม็ด เมื่อ 23 ธ.ค. ปีที่แล้ว แต่การพบกันในลีกที่ไวท์ฮาร์ทเลนเมื่อฤดูกาลที่แล้ว สเปอร์ส เป็นฝ่ายไล่จิกสาลิกาดงกระเจิง 2-0 จากไทนิโอ และมิโด เมื่อ 31 ธ.ค.ปี 2005 สถิติพบกันในลีกที่ไวท์ฮาร์ทเลนนั้น สเปอร์สมีสถิติเหนือกว่านิวคาสเซิลมาก เพราะชนะถึง 33 และแพ้ให้นิวคาสเซิลแค่ 18 หนเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเทียบฟอร์มแล้ว แม้ฟอร์มโดยรวมจะสูสีพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว สเปอร์ส มีภาษีเป็นผู้ชนะมากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีแนวรุกคมกว่านั่นเอง ทางด้านผลดวลแข้งศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก คู่แรกเมื่อเสาร์ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล สามารถลบฝันร้ายจากที่ถูกเขี่ยตกรอบบอลถ้วย 2 รายการติดต่อกันด้วยน้ำมือของอาร์เซนอลได้แล้ว หลังคืนฟอร์มเก่งบุกไปถล่มต้อนตือ ?แตนอาละวาด? วัตฟอร์ด ทีมบ๊วยของตาราง ท่วมท้นคารังวิคาเรจโรด 3-0 โดยได้ประตูจากเคร็ก เบลลามี นาที 34 จากนั้น ปีเตอร์ เคราช์ ดาวยิงร่างโย่ง สวมบทพระเอกเหมาซัดคนเดียว 2 ลูกรวด นาที 40 กับ 48 ทำให้ลิเวอร์พูลยังคงรั้งอันดับ 3 ของตารางเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นต่อไป โดยมีเพิ่มเป็น 43 คะแนน จาก 23 เกม ตามหลังอันดับ 2 เชลซี เหลือแค่ 5 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์