?ฟรานซ์-เซปป์? ร่วมถวายพระพร เสียวกองเชียร์ถ่อย-ก่อการร้าย ( ข่าวกีฬา )

ภาพจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ

นายวรวุฒิ โรจนพานิช กรรมการผู้จัดการบริษัททศภาค จำกัด คีย์แมนสำคัญในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 เปิดเผยว่า เนื่องด้วยการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของชาวไทย เป็นวโรกาสมหามงคลเฉลิมฉลองในวาระฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งบุคคลสำคัญในเกมการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ 2 ท่าน ที่เคยเดินทางมาเมืองไทยบ่อยครั้งและชื่นชอบเมืองไทยเป็นพิเศษ คือเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า และฟรานซ์ เบคเคนบาวร์ ประธานจัดการแข่งขันเวิลด์คัพ 2006 ต่างก็สำนึกและอยากจะร่วมถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกับคนไทย โดยตนจะเดินทางไปประเทศเยอรมนีอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้ เพื่อนำทีมไปบันทึกเทปการถวายพระพรของเซปป์ แบล็ตเตอร์ และฟรานซ์ เบคเคนบาวร์ ก่อนจะนำมาแพร่ภาพในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกต่อไป ส่วนในด้านการเตรียมการของเจ้าภาพเยอรมนี ซึ่งนอกจากความพร้อมเกี่ยวกับการแข่งขันแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยเป็นลำดับแรก โดยรายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในเยอรมนีเป็นจำนวนมากนับล้านๆคน ซึ่งหลายคนจะพยายามซิกแซ็กหลบเลี่ยงหาทางเข้าเยอรมนีในทุกๆทาง ที่น่ากังวลเป็นคน 2 กลุ่ม คือพวกกองเชียร์ถ่อย หรือฮูลิแกน และกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่ต้องเฝ้าระวังและจับตาเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเยอรมนีมีความเป็นห่วงกองเชียร์ จากประเทศแถบยุโรปตะวันออกมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เนื่องจากอยู่ไกลออกไป และไม่มีประวัติมากนัก ต่างจากกองเชียร์ที่อยู่ใกล้ๆเยอรมนี เพราะคุ้นเคยและมีประวัติ จึงต้องมีการตั้งจุดสกัดตามพรมแดนทุกจุดที่เข้าสู่เยอรมนีอย่างเข้มงวด รวมทั้งบริเวณสนามบิน และสถานีรถไฟทุกแห่ง ซึ่งจะมีการตรวจกระเป๋าเป้เดินทางของนักท่องเที่ยวอย่างละเอียด และยังมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกปฏิบัติหน้าที่ด้วย ในส่วนของกลุ่มก่อการร้ายนั้น วอลเตอร์ กั๊กก์ ประธานฝ่ายรักษาความปลอดภัยด้านสนามแข่งขันของฟีฟ่า กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่เยอรมนียืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีสิ่งใดๆ ว่าจะเกิดการก่อการร้ายในช่วงฟุตบอลโลก อย่างไรก็ตาม ทางเยอรมนีได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งและเตรียมแผน พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้พร้อม ทั้งได้ ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของชาติต่างๆในยุโรป 13 ชาติ รวมทั้งอังกฤษและโปแลนด์วางเครือข่ายไว้หมด นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายนานาชาติแล้ว ยังมีการเตรียมกำลังทหารสำรองไว้อีก 7,000 นาย ขณะที่ระเบียบต่างๆ ที่ออกมา อาทิเรื่องของตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ซึ่งจะต้องระบุชื่อและแสดงพร้อมบัตรประจำตัว ก็จะช่วยด้านการรักษาความปลอดภัยอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ทีมอิหร่านได้ร้องขอ กำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลเป็นพิเศษ ด้วยเกรงจะถูกก่อการร้าย รวมทั้งซาอุดีอาระเบียก็มีความหวั่นเกรงว่าจะเป็นเป้าหมายจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งได้ขอกำลังคุ้มกันระดับเดียวกับสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์