ศึกลูกหนังยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นเกมดวลแข้งในรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 ของกลุ่ม ?อี-เอฟ-จี-เอช? รวมทั้งหมด 8 คู่ ปรากฏผลดังนี้ กลุ่มอี โอลิมปิก ลีญง สุดยอดทีมจากแดนน้ำหอม แชมป์ลีกเอิง 5 สมัยซ้อน ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงไม่เลิก ล่าสุดเปิดรังเฉือนหวิว ดินาโม เคียฟ จากยูเครน 1-0 จากประตูชัยโทนของคาริม เบนเซมา นาที 14 ซึ่งประตูเดียวในเกมนี้ เพียงพอที่จะทำให้ลีญงทำสถิติชนะรวด 4 เกมติดต่อกัน เก็บเข้ากระเป๋าไปเต็มๆ 12 คะแนน ทะยานเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ?ราชันชุดขาว? เรอัล มาดริด แชมป์รายการนี้สูงสุด 9 สมัยจากสเปน ตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แล้วเช่นกัน หลังเปิดบ้านทุบเอาชนะสเตอัว บูคาเรสต์ ทีมดังจากแดนผีดิบ โรมาเนีย หวุดหวิด 1-0 ซึ่งประตูชัยของมาดริดได้มาจากการทำเข้าประตูตัวเองอย่างเหลือเชื่อของบาเนล นิโคลิตา ผู้เล่นสเตอัวฯ ในนาที 70 นอกจากนี้ มาดริดยังชวดได้ประตูที่ 2 อย่างน่าเสียดาย หลังจากรุด ฟาน นิสเตลรอย สังหารจุดโทษเหินข้ามคาน ในนาที 75 ผ่านเกมนี้ ลีญงและเรอัล มาดริด ต่างจูงมือกันเข้ารอบไปทั้งคู่แล้ว โดยหลังลงเตะไปแล้ว 4 นัด ลีญงมี 12 คะแนนเต็ม และมาดริดมี 9 คะแนน ขณะที่สเตอัวฯ 3 คะแนน และเคียฟ ไม่มีคะแนน หมดสิทธิ์ทำคะแนนไล่ลีญงและมาดริดทันแล้ว กลุ่มเอฟ ?ปิศาจแดง? แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ที่ชนะมารวดใน 3 แมตช์แรก ยกพลบุกไปเยือนแดนโคนม ดวลกับเอฟซี โคเปนเฮเกน ทีมดังแห่งเดนมาร์ก ซึ่งการพบกันนัดแรกที่โอลด์แทรฟเฟิร์ด ผีแดงเปิดรังถล่มโคเปนเฮเกนสิ้นซากถึง 3-0 แต่เกมนี้ ปรากฏว่าเกิดการพลิกล็อกถล่มทลายครั้งใหญ่ เมื่อผีแดงพลาดท่าบุกมาพ่ายต่อโคเปนเฮเกน 0-1 โดยเจ้าถิ่นได้ ประตูชัยโทนปลิดชีพผีแดงจากมาร์คุส อัลบัค นาที 73 ส่งผลให้แมนฯยูพ่ายเป็นนัดแรกในศึกถ้วยใหญ่ยุโรปฤดูกาลนี้ แต่ยังนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม มี 9 คะแนน และยังต้องลุ้นต่อในอีก 2 นัด ที่เหลือ ขณะที่โคเปนเฮเกนต่อลมหายใจยังมีลุ้นเข้ารอบ หลังมีเพิ่มเป็น 4 แต้ม จาก 4 นัด หลังการแข่งขัน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือปิศาจแดง ยังคงกล่าวแสดงความมั่นใจว่า ทีมแมนฯยูของเขาจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ต่อไปได้อย่างแน่นอน แม้จะเพิ่งปราชัยช็อกโลกต่อโคเปนเฮเกนมาก็ตาม ?เรายังคงมั่นใจว่าจะสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ เราต้องมุ่งมั่นในแมตช์ต่อไปของเรา ซึ่งเราอยู่ในตำแหน่งเพียงพอที่จะเป็นผู้ชนะ แต่คุณต้องคว้าโอกาสของคุณให้ได้ เราต้องบุกไปเยือนเซลติกและต้องเอาชนะให้ได้? สำหรับผลอีกคู่ ในกลุ่มเดียวกัน เบนฟิกาเปิดบ้านถล่มเซลติกยับ 3-0 จากการทำประตูของแกรี คัลด์เวลล์ ของเซลติก ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 10, นูโน โกเมซ น.22 และอังเดร คาร์ยากา น.76 ส่งผลให้เบนฟิกายังคงมีลุ้นเข้ารอบ มี 4 คะแนน จาก 4 นัด กลุ่มจี ?ปืนใหญ่? อาร์เซนอล รองแชมป์เก่า พับสนามบุกแหลก แต่สุดท้ายทำได้แค่เปิดรังเอมิเรตส์ เสมอกับซีเอสเคเอ มอสโก จากรัสเซีย ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ทั้งที่เกมนี้ปืนใหญ่มีโอกาสได้ประตูนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะจากจังหวะจ่อๆของเชส ฟาเบรกาส และโทมัส โรซิคกี ทำให้อาร์เซนอลเก็บเพิ่มได้แค่แต้มเดียว รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม มี 6 คะแนน ตามหลังซีเอสเคเอที่นำเป็นจ่าฝูงอยู่ 1 แต้ม ภายหลังการแข่งขัน อาร์แซน เวงเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล กล่าวว่า เกมนี้ลูกทีมของเขาน่าจะถล่มชนะซีเอสเคเอถึง 7 ประตูต่อ 0 ด้วยซ้ำ หากลูกทีมของเขาไม่ยิงนกตกปลากันไปเอง ?สกอร์ในเกมนี้น่าจะเป็น 7-0 หรือไม่ก็ 7-1 ผมไม่คิดว่าคืนนี้เราจะทำผิดที่พยายามทำประตูด้วยลูกสมบูรณ์แบบ เรามีโอกาสมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เราคุมเกมเหนือกว่ามอสโกหลายขุม มีความแตกต่างในเรื่องชั้นบอลระหว่างเรา ครึ่งแรกมันเป็นฟอร์มชั้นยอดของทีมอาร์เซนอลในแชมเปียนส์ลีก เราน่าจะได้ประตูอย่างน้อย 6-7 ครั้งเลยทีเดียว และพอผมได้ดูไฮไลต์เกมนี้ทางทีวี เรามีโอกาสชัดเจนถึง 9 ครั้งที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้? เวงเกอร์กล่าว กลุ่มเอช ?ปิศาจแดงดำ? เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่กัลโชซีรีเอจากอิตาลี โชว์ฟอร์มเยี่ยม เปิดรังถล่มอันเดอร์เลคท์ ทีมเยือนจากเบลเยียม ราบคาบ 4-1 โดยกาก้า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ทำแฮตทริกเหมายิงคนเดียว 3 ประตู นาที 7 (จุดโทษ), 22 และ 56 ส่วนอีกลูกได้จากอัลแบร์โต จิลาร์ดิโน น.88 ส่งผลให้มิลานมีเพิ่มเป็น 10 แต้ม จาก 4 นัด จ่อใกล้เข้ารอบเต็มแก่ ขณะที่ผลอีกคู่ เออีเค เอเธนส์ ชนะ ลีลล์ 1-0
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์