ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2006/07 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นเกมดวลแข้งนัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่ม ในกลุ่ม ?เอ-บี-ซี-ดี? รวม 8 คู่ ปรากฏผลดังนี้ กลุ่มเอ เกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ชนช้างที่สังเวียนคัมป์นู ในสเปน ?เจ้าบุญทุ่ม? บาร์เซโลนา แชมป์เก่า รายการนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เปิดบ้านหวังถอนแค้น ?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก ให้ได้ หลังจากนัดแรกที่พบกันที่สแตมฟอร์ดบริดจ์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน สิงห์บลู เชลซี เป็นฝ่ายเปิดรังเถือเอาชนะบาร์ซาไปได้ 1-0 ด้วยประตูชัยของดิดิเยร์ ดร็อกบา เกมนี้เจ้าถิ่นบาร์เซโลนา นอกจากมีโรนัลดินโญ เดโก และไอเดอร์ กุดยอห์นเซน ลงประสานงานในแนวรุกแล้ว ยังได้ลิโอเนล เมสซี กองหน้าดาวรุ่งอาร์เจนไตน์ ฟิตสมบูรณ์ทันลงป่วนแนวรับทีมเยือนด้วย ขณะที่เชลซีไม่มีชื่อของอังเดร เชฟเชงโก ศูนย์หน้าทีมชาติยูเครน อยู่ในรายชื่อทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ทำให้ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกชาวดัตช์ ได้ลงยืนเป็นหัวหอกตัวจริงคู่กับดิดิเยร์ ดร็อกบา เปิดฉากเริ่มเกมไปได้แค่ 3 นาที เดโก มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ลากบอลเลื้อยตัดเข้าใน ก่อนตัดสินใจสับไกเต็มข้อ บอลลอดขาริคาร์โด คาร์วัลโญ ผ่านมือ ฮิลาริโอ ผู้รักษาประตูมือ 3 ของเชลซีตุงตาข่าย ให้บาร์ซาออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากนั้นเชลซีมีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอเช่นกัน แต่บิคตอร์ บัลเดส นายทวารเจ้าถิ่นบินปัดลูกโหม่งเต็มกบาลของมิคาเอล เอสเซียง ข้ามคานไปได้หวุดหวิด หมดครึ่งแรกเชลซีตามหลังบาร์ซา 0-1 ครึ่งหลังเริ่มได้ไม่นาน พลพรรคสิงห์บลูก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ด้วยลูกยิงมุมแคบสุดสวยของแฟรงค์ แลมพาร์ด น.52 แต่หลังเสียประตูตีเสมอ แชมป์เก่าบาร์ซาก็ใช้เวลาไม่นานในการพังประตูแซงหน้าทีมเยือนอีกครั้งเป็น 2-1 จากการซัลโวของไอเดอร์ กุดยอห์นเซน อดีตเด็กเก่าเชลซี น.58 จากนั้นเกมทำท่าจะลงเอยด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่นบาร์ซาอยู่รอมร่อ แต่แล้วดิดิเยร์ ดร็อกบา ศูนย์หน้าทีมชาติไอวอรีโคสต์ ซึ่งเป็นฮีโร่ผู้ซัดประตูชัยจากนัดแรก ก็กลายเป็นตัวแสบของทีมเจ้าบุญทุ่มอีกครั้ง เมื่อซัดประตูตีเสมอช่วยเชลซีรอดตายในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ช่วยให้เชลซีบุกมายันเสมอบาร์เซโลนา 2-2 เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม จาก 4 นัด นำจ่าฝูงต่อไป ส่วนบาร์ซามีเพิ่มเป็น 5 แต้ม ต้องลุ้นตัวโก่งในอีก 2 เกม ที่เหลือ เพื่อชิงตั๋วเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์ 16 ทีม ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน แวร์เดอร์ เบรเมน บุกถล่มเลฟสกี โซเฟีย ขาดลอย 3-0 ทำให้ทะยานขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงแล้ว สรุปตารางคะแนนหลังเตะไป 4 นัด เชลซีนำจ่าฝูงที่ 10 แต้ม ตามด้วยเบรเมน 7 แต้ม, บาร์เซโลนา 5 แต้ม และโซเฟีย ไม่มีแต้ม กลุ่มบี ?เสือใต้? บาเยิร์น มิวนิก มหาอำนาจลูกหนังเมืองเบียร์ แม้จะโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก เปิดบ้านทำได้แค่เจ๊ากับสปอร์ติง ลิสบอน อาคันตุกะจากโปรตุเกส ไปแบบไม่มีสกอร์ 0-0 เก็บเพิ่มได้แค่แต้มเดียว แต่ก็การันตีลอยลำเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว โดยมีเพิ่มเป็น 10 คะแนน จาก 4 นัด ต่อให้แพ้รวดในอีก 2 นัดที่เหลือ ก็ไม่มีผลอะไรแล้ว ขณะที่ ?งูใหญ่? อินเตอร์ มิลาน ที่แพ้รวดมาใน 2 นัดแรก สามารถคว้าชัยเป็นเกมที่สองติดต่อกัน หลังบุกไปเชือดสปาร์ตัก มอสโก คาถิ่นรัสเซีย 1-0 จากประตูชัยโทนของฮูลิโอ ครูซ ตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน ส่งผลให้อินเตอร์ฯมี 6 คะแนน จาก 4 นัด รั้งรองจ่าฝูง และยังมีลุ้นเข้ารอบตามบาเยิร์นฯไป กลุ่มซี ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มสุดยอด ด้วยการเปิดแอนฟิลด์ถล่มย้ำแค้น บอร์กโดซ์ ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ราบคาบ 3-0 โดยได้ประตูจาก หลุยส์ การ์เซีย กองกลางชาวสเปน ที่เหมาคนเดียว 2 ลูก นาที 23 กับ 76 และอีกลูกได้จาก สตีเวน เจอร์ราร์ด น.72 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลลอยลำเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมแน่นอนแล้ว โดยยังคงนำเป็นจ่าฝูง มี 10 แต้ม ขณะที่ผลอีกคู่ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เปิดรังต้อนกาลาตาซาราย 2-0 ทำให้พีเอสวีฯฉลุยเข้ารอบแล้วเช่นกัน หลังมี 10 คะแนน จาก 4 นัดเท่ากับลิเวอร์พูล กลุ่มดี ?ไอ้ค้างคาว? บาเลนเซีย บุกไปยันเสมอ ชัคตาร์ โดเนตสก์ ทีมดังยูเครน 2-2 ชนิดที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนถึง 2 ครั้ง 2 ครา ก่อนที่บาเลนเซียจะตามตีเสมอได้จาก เฟอร์นันโด มอริเอนเตส น.18 และโรแบร์โต อยาลา น.68 ผลเสมอนัดนี้ ทำให้บาเลนเซียตบเท้าเข้ารอบ 16 ทีมแล้วเช่นกัน โดยมี 10 คะแนน จาก 4 นัด ส่วนผลอีกคู่ ?หมาป่า? โรมา เปิดบ้านเสมอกับ โอลิมเปียกอส 1-1 ทำให้โรมายังมีโอกาสสดใสที่จะผ่านเข้ารอบตามบาเลนเซีย สรุปตารางคะแนนล่าสุด บาเลนเซีย 10 แต้ม (เข้ารอบแล้ว), โรมา 7 แต้ม, โอลิมเปียกอส 2 แต้ม และชัคตาร์ฯ 2 แต้ม
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์