ศึกลูกหนัง เอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์ หรือ เอฟเอ แชริตี ชิลด์ ชื่อเดิมที่เป็นที่รู้จักกันดี เป็นฟุตบอลประเพณีก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ของลีกสูงสุดในอังกฤษ อันเป็นการเจอกันระหว่าง ทีมแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งคือพรีเมียร์ชิพในขณะนี้ กับแชมป์เอฟเอ คัพ โดยมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นศึกเอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์ ตั้งแต่ปี 2002 โดยหากทีมใดทำดับเบิลแชมป์ ได้ทั้ง แชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์พรีเมียร์ชิพ ทีมดับเบิลแชมป์ทีมนั้นก็จะทำศึกแชริตี ชิลด์ กับทีมรองแชมป์พรีเมียร์ชิพ ฟุตบอลแชริตี ชิลด์ มีขึ้นครั้งแรกในปี 1908 เพื่อมาแทนที่ฟุตบอลการกุศลแห่งนครลอนดอน เป็นการเจอกันระหว่าง ?ผีแดง? แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอกับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส แชมป์เซาเธิร์น ลีก อันเป็นการเจอกันระหว่างยอดทีมจากลีกอาชีพ กับแชมป์ลีกสมัครเล่น จนมาถึงปี 1974 เท็ด โครเกอร์ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้เสนอให้มาจัดการแข่งขันที่สนามเวมบลีย์ จากที่เคยเลือกสนามของทีมใดทีมหนึ่ง และให้เป็นฟุตบอลคู่ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ เป็นศึกแชมป์ชนแชมป์ระหว่าง แชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษ กับ แชมป์เอฟเอ คัพ กลายเป็นศึกซูเปอร์คัพที่ยิ่งใหญ่ไปทันที จากนั้นจึงมาเป็นการเจอกันระหว่าง แชมป์พรีเมียร์ชิพอังกฤษ กับ แชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ ตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา เพราะมีการเปลี่ยนระดับฟุตบอลอังกฤษใหม่ ให้พรีเมียร์ชิพเป็นลีกสูงสุด ฤดูกาลนี้ฟุตบอลแชริตี ชิลด์ กำหนดฟาดแข้งกันในวันที่ 13 ส.ค. นี้ ที่สนามมิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เนื่องจากสนามเวมบลีย์ แห่งใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ โดย โฮเซ มูรินโญ กุนซือ ?สิงห์สำอาง? เชลซี แชมป์พรีเมียร์ชิพอังกฤษ 2 สมัยซ้อน จะนำลูกทีมลงป้องกันแชมป์กับ ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์เอฟเอ คัพ หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซี เป็นทีมที่ได้ครองถ้วยแชริตี ชีลด์ ด้วยการเฉือนคู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน ?ปืนใหญ่? อาร์นอล 2-1 ที่คาร์ดิฟฟ์ คำว่า ชิลด์ (Shield) ถ้าแปลกันตรง ๆ ก็มาจากโล่ห์รางวัลดี ๆ นี่แอง ส่วน แชริตี (sharity) ก็คือการกุศล ดังนั้นจะหมายถึงฟุตบอลการกุศลก็ไม่ผิดนัก เพราะเงินรายได้ส่วนหนึ่งของศึกนี้จะนำไปบริจาคให้การกุศล ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมามีการบริจาคเงิน 59% จากรายได้ทั้งหมดเข้ามูลนิธิพื่อการกุศล โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปให้มูลนิธิการกุศล ที่ 124 ทีมที่เข้าร่วมศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ ในฤดูกาลที่ผ่านมาตั้งแต่รอบแรก ได้เลือกมา จำนวนเท่า ๆ กัน คนดูบอลรายการนี้จึงได้ทำบุญไปด้วย และตั้งแต่มีการยกระดับเกมฟาดแข้งให้เป็นศึกแชมป์ชนแชมป์ระหว่าง แชมป์ลีกอังกฤษ กับแชมป์เอฟเอคัพ แล้ว ฟุตบอลแชริตี ชิลด์ ก็กลายเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครกัน ทำให้ฟุตบอลรายการนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเป็นที่สนใจไปทั่วโลก ไม่แพ้คู่ชิงชนะเลิศรายการสำคัญอื่น ๆ เช่นในปี 2004 มีแฟนบอลเข้าไปชมฟุตบอลแชริตี ชิลด์ ระหว่าง อาร์เซนอล กับ ?ผีแดง? แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม กันถึง 63,317 คน พร้อมกับมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก นอกจากนั้นตั้งแต่ปี 1974-2000 ซึ่งศึกแชริตี ชิลด์ ฟาดแข้งกันที่เวมบลีย ได้เงินให้เอฟเอนำไปบริจาคต่อแก่มูลนิธิกุศลถึงกว่า 6 ล้านปอนด์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ฟุตบอลรายการนี้ มีตำนานที่น่าทึ่งไม่แพ้รายการอื่น ๆ อย่างเช่น สกอร์รวมสูงสุดในปี 1911 ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่ม สวินดอน ทาวน์ 8-4 ซึ่งส่วนหนึ่งของรายได้จากนัดนี้ บริจาคให้มูลนิธิของลอร์ด แห่งลอนดอน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเรื่องไทตานิกล่ม ในปี1967 แพท เจนนิง นายทวารสเปอร์ สร้างความตกตะลึงให้ผู้ชม เมื่อสามารถยิงประตูจากเขตประตูของตัวเองได้ ในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่มี อเล็กซ์ สเตฟนีย์ เป็นนายทวารของ ?ผีแดง? และเกมนัดนั้นจบลงด้วยการเสมอกัน 3-3 ได้ครองแชมป์ร่วมกัน ปี 1974 ที่ศึกนี้ถูกย้ายไปฟาดแข้งที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรก มีแฟนบอลมาชมเกมนัดนี้ถึง 67,000 คน และ ลิเวอร์พูล ประเดิมชนะดวลจุดโทษลีดส์ 6-5 หลังจากเสมอกันในเวลา 1-1 ขณะที่ปี 1992 ที่ลีดส์ เชือด ลิเวอร์พูล 4-3 เอริค คันโตนา ทำแฮตทริกให้ลีดส์ได้สำเร็จ จนฟอร์มไปเข้าตา ?ผีแดง? และถูกคว้าตัวไปสร้างตำนานให้ ?ผีแดง? ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา ฟุตบอลแชริตี ชิลด์ หรือ คอมมูนิตี ชิลด์ ฤดูกาลนี้ ระหว่าง ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล กับ ?สิงห์สำอาง? เชลซี จะฝากอะไรไว้เป็นตำนานต่อไป นับว่าแฟนบอลจะพลาดไม่ได้ ด้วยประการทั้งปงวง ซึ่งแฟนบอลชาวไทยจะได้ลุ้นกันเต็มอิ่มเพราะมียิงสดทางช่อง 3 ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ในวันอาทิตย์นี้ ยิ่งไปกว่านั้น กุนซือของทั้ง 2 ทีมตระหนักดีกับคำกล่าวที่ว่า ?เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง? การประเดิมด้วยการคว้าแชมป์ก่อนเปิดฤดูกาล ย่อมเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมได้เป็นอย่างดียิ่ง และดังได้กล่าวไว้แล้ว ศึกนี้กลายเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้ง 2 ทีมจึงต้องส่งนักเตะที่ดีที่สุดลงไปดวลแข้งกันแน่นอน เพราะมันหมายถึงการข่มขวัญกันและกัน และเป็นการสร้างความฮึกเหิมให้ทีมตัวเอง โดยเฉพาะศักดิ์ศรีระหว่างเชลซีกับลิเวอร์พูล ที่ต่างเป็นทีมมีสิทธิลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิพฤดูกาลใหม่ที่ะจะเปิดฉากตั้งแต่ 19 ส.ค. นี้ ทั้ง 2 ทีมย่อมต้องการคว้าชัยเป็นการข่มกัน และเสริมกำลังใจให้ทีม ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล เองยังไม่ค่อยชอบใจนัก กับการที่ โฮเซ มูรินโญ เทรนเนอร์จอมเครียดของเชลซี ออกมาหยาม ?หงส์แดง? ก่อนหน้านี้ว่า ?สำหรับการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ชิพฤดูกาล 2006-2007 ของเชลซี ทีมคู่แข่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซนอล ส่วน ลิเวอร์พูล ไม่น่ากลัวเท่าใดนัก เพราะแนวทางการเล่นของ ลิเวอร์พูล มีดีแค่ถ้าได้นำก่อนแล้วตามทวงคืนได้ยาก เพราะช่วยกันอุดได้ดี ไม่เน้นเกมรุกตลอดอย่าง อาร์เซนอล หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด? คำพูดนี้ทำให้ เบนิเตซ ต้องการพิสูจน์อะไรให้เชลซีและแฟนบอลได้เห็นบ้างว่า ?หงส์แดง? ยังคงเป็นทีมที่ถูกมองข้ามไม่ได้โดยเด็ดขาด สำหรับความพร้อมของ เชลซี นั้นมีนักเตะสำคัญบาดเจ็บอยู่คือ โจ โคล มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ที่เจ็บเข่าจากนัดทัวร์อเมริกา พ่ายทีมรวมดาวมะกัน 0-1 ส่วนดาวดังอื่น ๆ ยังล้นทีม ทั้วสตาร์ที่ซื้อมาใหม่อย่าง มิชาเอล บัลลัค, ซาโลมอน คาลู, จอน โอบี มิเกล และ อังเดร เชฟเชนโก หรือสตาร์เดิม อย่าง มิชาเอล เอสเซียง, แฟรงค์ แลมพาร์ด, อาร์เยน ร็อบเบน และ จอห์น เทอร์รี ซึ่ง เชลซีลงอุ่นแข้งนัดล่าสุดเมื่อ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ฟอร์มเด่น ขึ้นมา โดย มูรินโญ วางหมากระบบ 4-3-3 ใช้ มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ มิชาเอล เอสเซียง คุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกมีทั้ง ดรอกบา, ร็อบเบน และ เชฟเชนโก บุกไปเชือดเฟเยนูร์ด ทีมดังของฮอลแลนด์ 1-0 เป็นสัญญาณเตือนภัยว่า ลูกทีมของ มูรินโญ เริ่มจะสมบูรณ์เข้าฝักแล้ว ด้าน ?หงส์แดง? ได้กองหน้าตัวใหม่ เครก เบลลามี กับมิดฟิลด์ดาวรุ่ง เจอร์เมน เพนแนนต์ มาเสริมทัพ ส่วนสตาร์ใหม่คนอื่น ๆ ก็มี ฟาบิโอ อูเรลิโอ, มาร์ค กอนซาเลซ, กาเบรียล ปาเลตตา ขณะที่ดาวดังคนอื่น ๆ อยู่กันครบนำทัพโดยกัปตันทีม ?สตีวีจี? สตีเวน เจอร์ราร์ด แม้ผลงานอุ่นเครื่องที่ผ่านมาของ ?หงส์แดง? จะไม่ดีนัก โดยเฉพาะการแพ้ กราสฮอปเปอร์ส ของสวิตเซอร์แลนด์ 0-2 แพ้ไกเซอร์สเลาเทิร์น 2-3 , และ แพ้ ไมนซ์ ของเยอรมนี 0-5 มีเพียงบุกไปชนะทีมต่ำชั้นกว่าอย่าง ครูว์ 1-0 แต่ เบนิเตซ ชี้ว่าเป็นเพียงการทดลองใช้นักเตะใหม่หลายคน ยังวัดอะไรไม่ได้ ที่แน่นอน เบนิเตซ ย้ำว่า ?หงส์แดง? ชุดนี้แตกต่างจากปีก่อนแน่ เพราะในแนวรุกมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ทั้ง ปีเตอร์ เคราช์, ร็อบบี ฟาวเลอร์ ที่เก๋าเกม กับนักเตะความเร็วสูงอย่าง มาร์ค กอนซาเลซ กับ เครก เบลลามี เมื่อบวกกองกลางที่เปิดบอลได้แม่นยำอย่าว เจอร์ราร์ด และ ซาบี อลอนโซ ทำให้ ?หงส์แดง? พร้อมจะผงาด ตอนนี้ มาร์ค กอนซาเลซ ส่อว่ามีอาการบาดเจ็บไม่สมบูรณ์ แต่การวางหมากระบบ 4-4-2 ของ เบนิเตซ ยังมีตัวเลือกเพียบ ในแถวของนักเตะชุดใหญ่อย่าง โฆเซ เรนา, แยน ครอมแคมป์, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ยอร์น อาร์เน ริเซ, เจอร์แมน เพนแนนต์, ซาบี อลอนโซ, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เบาเดอไวน์ เซนเดน, เครก เบลลามี และ ปีเตอร์ เคราช์ สิงห์สำอางจะได้โวต่อหรือหงส์จะลบคำสบประมาทได้ไป 13 ส.ค. นี้ได้รู้กัน
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์