เป็นประเด็นร้อนที่กระจอกข่าวไล่ล่าหาความจริงว่า ?แหวน เพชรเม็ดเป้ง? ที่นิ้วนางข้างซ้ายของ หนิง-ภาราดา พัฒนาหิรัญ นั้นเป็นของ พี่บิ๊ก-ศรุต ?ตีตราจอง? ไว้ก่อนแต่งหรือเปล่า พอเจอ หนิง ก็ป้อนคำถามทันที ?นี่เป็นแหวนของคุณแม่พี่บิ๊กซึ่งท่านเสียไปนานแล้วค่ะ เป็นคุณพ่อพี่บิ๊กให้มาเมื่อ 5-6 เดือนก่อน ไม่ใช่แหวนหมั้นอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน ตอนที่คุณพ่อพี่บิ๊กให้ก็ตกใจแต่แอบดีใจที่คุณพ่อวางใจให้ของมีค่ากับเรา เป็นแหวนที่คุณพ่อหมั้นคุณแม่พี่บิ๊ก หนิงไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างไร แต่ขอบคุณที่ได้รับความเมตตาจากคุณพ่อ สิ่งสำคัญคือใจหนิงกับใจพี่บิ๊กมากกว่า ให้มีมรดกมากองตรงหน้า ถ้าหนิงไม่อยากแต่งยังไงก็ไม่เอา แหวนวงนี้ไม่ได้ใส่ติดนิ้วตลอด แต่พอถอดพี่บิ๊กก็จะว่าถอดทำไม เดี๋ยวพ่อเห็นพ่อจะว่าเอา ส่วนที่ใส่นิ้วนางข้างซ้าย เพราะเป็นนิ้วที่ใส่แล้วพอดีที่สุดค่ะ? เรียกว่าเป็นแหวนหมั้นไม่ได้เหรอ? ?ไม่ค่ะ แหวนหมั้นต้องพี่บิ๊กซื้อให้ แต่นี่เป็นเหมือนของขวัญของคุณพ่อพี่บิ๊กมากกว่า ก่อนหน้านี้พี่บิ๊กทำแหวนให้หนิงแต่เป็นของขวัญวันเกิดค่ะ? แล้วเมื่อไหร่จะได้แหวนหมั้นของจริงล่ะ? ?ปีนี้ฤกษ์ดีๆผ่านไปแล้ว ปีหน้าก็ไม่มีเลย น่าจะเป็นปี 2551 ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะคะ ถ้าต้องแต่งก็พร้อม แต่ต้องคิดให้ไกลๆ เพราะเราต้องมีอีกครอบครัวหนึ่ง หนิงไม่อยากให้เราเลิกกันเหมือนกับพ่อแม่หนิง มันเป็นสิ่งที่ฝังใจมาก ขอเวลาดูกันอีกนิด ไม่ได้ลีลาอะไร หนิงไม่พร้อมมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่ามองหาใครที่ดีกว่าพี่บิ๊ก สำหรับพี่บิ๊กคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหนิงแล้วในตอนนี้? มีทะเลาะกันมั้ย? ?คนอื่นคบกันช่วงแรกๆจะหวานแล้วค่อยทะเลาะกันช่วงหลังๆ แต่คู่หนิงเนี่ยช่วงแรกๆจะทะเลาะกัน เพิ่งจะมาหวานกันช่วงนี้ คือต่างคนต่างมีอีโก้สูงมาคบกัน ต้องจูนกันพอสมควร เลยทำให้ 3 ปีทะเลาะกันทุกวัน แต่ทะเลาะกันก็ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น มีอารมณ์โอ๊ย เหนื่อย ทะเลาะบ่อยไม่ไหวแล้วเลิกดีกว่า แต่ไปคิดๆดู ทำให้เราคิดถึงกัน เราควรอดทนทะเลาะกันต่อไปอีก มาวันนี้หนิงรู้สึกว่าการทะเลาะกันมันค่อยๆหายไปทีละนิดๆ ถ้าโกรธกันจริงๆหนิงกับพี่บิ๊กจะไม่คุยกัน สุดยอดของความกดดันเลย เมื่อก่อนพี่บิ๊กจะง้อตลอด แต่หลังๆง้อบ้างไม่ง้อบ้าง แล้วหนิงก็เริ่มรู้จักขอโทษก่อนบ้าง?.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์