นาทีนี้คงไม่มีใครสำลักความสุข เท่ากับนักร้องชื่อดัง มาช่า วัฒนพานิช อีกแล้ว เพราะนอกเหนือจากความรักที่ดูจะแฮปปี้เอ็นดิ้ง สวีทกับแฟนหนุ่ม กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ เหลือเกินแล้ว งานในวงการบันเทิงก็รุ่งโรจน์เหลือเกิน แถมล่าสุดโดดมารับแสดงหนังอีกครั้ง กับเรื่อง “แฝด” หลังจากห่างหายไปนานถึง 10 ปี
และตอกย้ำความแรงเข้าไปอีก เมื่อเธอลุกขึ้นมาถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำสุดสยิว จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าโป๊เกินไป ฮอตขนาดนี้ พลาดไม่ได้แล้ว ตามมาล้วงลึกชีวิตในวันนี้ของเธอกันเลย
งานหนังที่หายไปนาน
หลังห่างหายจากงานหนังไป 10 ปี กลับมาเล่นอีกครั้งก็เจอบทหนักเลย ในหนังมีทั้งตกบันได มีรถชน ก็ได้แผลบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นต้องเย็บ แค่เขียวตลอดเวลา เพราะเราต้องล้มจริง ชนจริง คือเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงสวย ตอนนั้นผู้กำกับโต้ง (บรรจง ปิสัญธนะกูล) และ โอ๋ (ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ) เขาก็กลัว ว่าเราจะห่วงสวยหรือเปล่า เพราะเขาต้องการธรรมชาติ ไม่แต่งหน้า ซึ่งเราก็ว่ามันดีแล้ว เพราะคนก็จะเห็นช่าถ่ายแฟชั่นสวยมาเยอะแล้ว น่าจะเห็นในอีกแบบมากกว่า
เจ็บตัวกลับบ้านแบบนี้ “น้องกาย” กับ “กฤษณ์” ว่าอย่างไรบ้าง
ทั้งลูกชายกับกฤษณ์ เขาก็บอกว่าไม่มากไปเหรอ อย่างกายเขาก็จะตกใจ เพราะมันจะเป็นจ้ำๆ สีเขียวใหญ่พอสมควร แต่บทที่เราแสดงมันต้องเป็นแบบนั้น เราเองเป็นคนเล่นเต็มที่ด้วยล่ะ บางทีทีมงาน หรือโต้งกับโอ๋เขาก็ตกใจเหมือนกัน
ฉากที่หนักที่สุดคือฉากไหน
เป็นฉากที่อยู่ในน้ำ เราต้องนอนเป็นเส้นตรง 180 องศา แล้วต้องถูกกดลงไปในน้ำ ซึ่งทุกครั้งน้ำจะเข้าจมูกตลอด มันแสบ ทรมานมาก เราต้องถ่าย 30-40 เทค เพราะมันต้องเปลี่ยนมุมตลอด หลังจากถ่ายเสร็จช่าป่วยเป็นหวัดอยู่เป็นอาทิตย์เลย
ในเรื่องเล่นเป็นฝาแฝด ที่แฝดคนหนึ่งเสียชีวิต พอทิ้งจากบทตรงนั้น เวลากลับบ้านมีหลอนบ้างไหม
ก็มีแว้บๆ บางทีก็จะคิดเหมือนกันนะ ว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่อาจจะเป็นเพราะมีเอฟเฟคท์เยอะ หรือทำงานเยอะไป เราเลยคิดไปเอง แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรน่ากลัวแบบนั้นหรอก
กลับมาเล่นอีกครั้ง ตอนนี้เริ่มติดใจหรือยัง
ถ้ามีบทดี สนุกสนานก็อยากเล่นอีก เพราะช่าคิดว่าหนังปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะมาก แล้วมันก็มีหลากหลาย คิดว่าหลายๆ เรื่องไม่แพ้เมืองนอก
งานถ่ายแฟชั่นสุดหวือ
แฟชั่นชุดว่ายน้ำล่าสุดโดนกระแสวิจารณ์แรงพอสมควร ว่าทำไมเป็นแม่แล้วถึงมาถ่ายแบบนี้ ก็แล้วแต่คนคิด ช่าใช้ดุลพินิจแล้ว มันเป็นแฟชั่น เราไม่ได้ส่อไปอีกอารมณ์หนึ่ง คนเราทำงานตรงนี้มันมีทั้งคนวิจารณ์ดีและเสีย เพราะฉะนั้นช่าเอาเป็นกลางๆ เชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ กายก็เห็นแล้ว ส่วนใหญ่จะทำอะไรก็ต้องถามเขา เขาก็เข้าใจ ว่ามันเป็นแฟชั่น
แล้วอะไรที่ทำให้มาช่าตัดสินใจถ่ายแฟชั่นเซตนี้
ตอนแรกคิดว่าอาจจะหยุดไปสักพัก เพราะว่าปีที่แล้วถ่ายมาแล้ว ปีนี้อาจจะไม่ถ่าย แต่พี่ใหญ่ (อมาตย์ นิมิตภาคย์) จะถ่ายให้ ก็เลยรู้สึกว่าหากเป็นพี่ใหญ่ ก็อยากถ่ายอีกครั้ง
ก่อนตัดสินใจถ่ายต้องผ่านการตรวจสอบจาก “กฤษณ์” ก่อนหรือเปล่า
ผ่านนะ แล้วก็ผ่านลูกชายด้วย คือความเซ็กซี่เราก็อยากให้เซ็กซี่ล่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิง แต่เซ็กซี่กับโป๊ มันแตกต่างกันนะ คือเราต้องดูด้วยว่ามันอนาจารหรือเปล่า มันคนละแบบกันนะ คือได้ไปดูภาพแล้ว แล้วพี่ใหญ่ก็ไม่เน้นออกมาเป็นอารมณ์แบบนั้น ถ่ายมาเป็นแฟชั่นจริงๆ
แล้ว “กฤษณ์” ติหรือชมอะไรบ้าง
เท่าที่ดูก็ไม่ว่าอะไรนะ เพราะกว่ารูปจะออกมา เราก็ต้องคัดสรรกันก่อนอยู่แล้ว แต่มีอยู่รูปหนึ่ง ที่เป็นขาวดำ คือถ้าเป็นภาพสีอาจจะดูแรง แต่ออกมาเป็นขาวดำก็โอเค คือเป็นลักษณะแฟชั่นก็เลยดูไม่น่ากลัว
ส่วน “น้องกาย” ล่ะ ว่าอย่างไรบ้าง
เอาจริงๆ ป่าว เขาชมว่าสวย แหม...เดี๋ยวพูดไปหาว่าอวยตัวเอง
มีแฟชั่นที่มาช่าถ่ายกับน้องกายด้วย
มีคนบอกว่าเหมือนพี่สาวกับน้องชายมากๆ บางคนก็บอกว่าเหมือนกิ๊กใหม่ ก็ดีใจนะ ทุกคนเห็นช่าเยอะแล้ว มาเห็นลูกช่าในอีกมุมหนึ่ง ทุกวันนี้เขาก็โตขึ้น เมื่อลูกชายเรามีคนชื่นชมและชอบ เราก็ดีใจ
แล้วน้องกายเห็นรูปที่ถ่ายด้วยกันหรือยัง
ยังเลย กำลังจะส่งรูปให้เขาดู เพราะเขากลับไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเมื่อปลายเดือนมกราคมแล้ว
ความรักที่ลงตัว
ในบทสัมภาษณ์น้องกายยังบอกด้วย ว่าเป็นบุญที่ได้เกิดมาเป็นลูกมาช่า ลูกชายช่า ปากเขาเพราะ ก็ดีใจนะ พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ในฐานะที่เป็นแม่ เพราะว่าเป็นแม่อย่างช่ามันยากนะ เราต้องเป็นแม่ที่ดีด้วย แล้วเราก็ต้องเป็นนักร้องที่ดีของแฟนเพลงด้วย ต้องเป็นคนเปรี้ยว ทันสมัย คือเราก็ต้องไม่เป็นฝรั่งเกินหรือไทยเกิน ต้องมีความพอดี ซึ่งยากเหมือนกันนะ
เคยให้สัมภาษณ์ว่าใช้ชีวิตอยู่กับกฤษณ์เป็นครอบครัวแล้ว
ก็อยู่บ้างกลับบ้าง แหม...ช่าก็คิดว่าอยู่มาจนลูกโตป่านนี้แล้ว คงไม่ต้องถามคุณพ่อคุณแม่แล้ว แต่ถ้าชีวิตจะจริงจังมากกว่านี้มั้ย เดี๋ยวขอใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง ตอนนี้เราก็อยู่ แต่อาจจะยังไม่มีพิธีการมากกว่า
ถ้าโอเคแล้วจะแต่งงานเลยไหม
ขออีก 2 ปีจะให้คำตอบ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างโอเค ก็น่าจะเป็นแบบนั้น คืออยากเลี้ยงลูกชาย ตอนนี้ยังติดที่กาย อยากให้กายโตอีกนิดหนึ่ง ให้เขาโตเต็มที่ก่อน หลังจากนั้นช่าจะคิดเรื่องที่ช่าอยากทำ
ล่าสุดมีข่าวว่าไปถ้ำฤๅษีกับกฤษณ์ เพื่อทำไสยศาสตร์
ก็ยังไม่เห็นรูป แต่เราไม่เคยไปถ้ำกันนะ ช่าว่าปัญญาอ่อนมาก คือเราก็ไม่รู้จะทำไสยศาสตร์ด้วยเรื่องอะไร เรามาแนวศาสนาพุทธ ตักบาตร ทำบุญ แล้วก็ไหว้พระ เพราะการไปทำของพวกนี้ ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่จริง แล้วช่าก็ไม่สนับสนุนด้วย ถ้ามีจริงๆ เวลามันเข้าตัวไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ถ้าเราไปนั่งสมาธิเราก็ไปนั่งสมาธิเพื่อไปสงบจิตสงบใจ หนีความวุ่นวาย หรือบางทีก็อยากไปไหว้พระ เพราะอยากเกิดมาจะได้รักกันอีก เราไม่เคยไปทำคุณไสย สักยันต์ คือเราเองก็กลัว ของทุกอย่างจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ตัวเรา มันไม่ใช่อยู่ที่สิ่งของที่ไปทำ
เรียกว่าเป็นคู่รักที่ใช้ธรรมะเป็นที่พึ่ง
ส่วนใหญ่เราไปไหว้พระกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นนครพนม พระธาตุพนม พระธาตุดอยสุเทพ ที่เชียงใหม่ เยอะมากๆ เราไปไหว้ก็ขอท่าน อยากให้ความรักราบรื่น รักกันดีๆ ชาติหน้าถ้ามีจริง ก็ขอให้เกิดมาเจอกันอีก จริงๆ เราชอบเหมือนกัน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารักกันด้วย เราชอบในทางเดียวกัน การไปไหว้พระทำให้เราสงบ อย่างเราเจอผู้คนเยอะๆ เราก็จะไม่สงบ ผู้คนชอบเอาเรื่องอะไรมาให้เรา ฉะนั้นเราก็ต้องการความสงบสุข ต้องการสิ่งดีๆ กับชีวิต อย่างช่าเองก็นั่งสมาธิอยู่ที่บ้าน กฤษณ์เขาจะไปนั่งสมาธิกับคุณพ่อบ่อย
แล้วธรรมะช่วยได้เยอะหรือเปล่า
ธรรมะไม่ใช่เรื่องประหลาดเลยนะ ทำให้เราคิดดีทำดี แล้วก็มีสมาธิกับตัวเอง ไม่ให้เราไปฟุ้งเฟ้อกับความยากลำบาก หรืออะไรต่างๆ ที่เป็นกิเลส อยู่ที่ตัวเรา ทำให้ใจเราสงบ พอใจเราสงบ เราก็จะรู้สึกว่ามันดีกับชีวิต ช่าว่าธรรมะมันช่วยทุกคน ไม่ใช่ช่าคนเดียว
ถ้าเป็นเรื่องดวงล่ะ ได้ดูดวงเรื่องความรักบ้างไหม
คุณพ่อกฤษณ์เขาก็ดูเก่ง แต่คุณพ่อก็จะบอกเสมอ ว่ายังไงก็เป็นไปตามดวงดาว แต่ไม่ใช่หมายความว่าเราจะโชคดี รวย ถ้าเราไม่ออกไปทำอะไรเลย ก็คงไม่ใช่เพราะดวงอย่างเดียว
แล้วคุณพ่อกฤษณ์ดูไว้ว่าอย่างไรบ้าง
ไปถามกฤษณ์ดูสิ ช่าไม่บอกหรอก
ส่วนกฤษณ์ก็เรียนหมอดู ฮวงจุ้ย เขาดูเรื่องความรักให้บ้างหรือเปล่า
ถึงเขาจะดูจากคุณพ่อ หรือคุณพ่อสอน แต่ช่าเชื่อว่าทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่มีทางหรอก ว่าดูอย่างเดียว แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น เท่าที่ดูดวงเราเข้ากันได้ ไปด้วยกันได้ดี ถ้าเราไม่ประพฤติตัวไม่ดี วันๆ เอาแต่ทะเลาะกัน ให้ดวงดียังไง มันก็ช่วยอะไรไม่ได้
เอ้า!!! ก็ขอเอาใจช่วยให้ชาติหน้า “มาช่า” ได้เจอกับ “กฤษณ์” อีกก็แล้วกัน...แต่ก่อนจะถึงชาติหน้า ชาตินี้ก็ขอให้ “รัก” ของทั้งคู่ไปกันได้ดี...ตลอดรอดฝั่งด้วยเถิด...สาธุ
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์