ไม่ว่าจะออกอัลบั้มมากชุด ทั้งอัลบั้มเต็มของตัวเอง หรืออัลบั้มพิเศษไปแจมร่วมกับศิลปินคนอื่น ๆ เพลงของนักร้องสาว ดา-ธนิดา ธรรมวิมล หรือ ดา เอ็นโดรฟิน ก็สามารถครองใจแฟนเพลงและฮิตติดปากทุกอัลบั้ม ยิ่งมาถึงอัลบั้มเดี่ยว “ภาพลวงตา” ซึ่งแยกวงออกมาทำคนเดียว พร้อมมีวงดนตรีแบ๊กอัพใหม่มาช่วยในเรื่องของดนตรี ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ “ดังแล้วแยกวง”
งานนี้ “พักไมค์” จึงไม่รอช้า คว้าตัวสาวดามาเปิดใจคุยถึงที่มาที่ไปของงานเพลงชุดใหม่ “ภาพลวงตา” ทันที
เคยทำงานกันเป็นวง มีความเป็นทีมเวิร์ก เมื่อวันหนึ่งต้องมาทำงานคนเดียว คิดเยอะขึ้น ก็ทำเอาสาวดาเหงาหงอยเหมือนกัน
“สำหรับวงแบ๊กอัพที่มาช่วยในชุดนี้ไม่ใช่มาในนามวงนะคะ แต่ให้เพื่อนมาเล่นเป็นวงแบ๊กอัพ ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดาจะฟอร์มใหม่ขึ้นมา ไม่มี ใครมาแทนใครหรอกค่ะ แต่พอต้องมาทำเดี่ยวคนเดียว ยอมรับว่าตัวเองทำงานเยอะขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น ดูแลทั้งเนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี คอนเซปต์เอง โชคดีที่ได้ทำงานร่วมกับ โปรดิวเซอร์คนเดิม พี่เอ และคนเขียนเนื้อร้องคนเก่า พี่เอก เราทำงานกันมา 4 ปีแล้ว ค่อนข้างคุ้นเคยอย่างดี การทำงานจึงไม่มีปัญหา สมัยก่อนที่ยังเป็นวงเวลาดาไม่ว่างก็จะวานเพื่อนเข้ามาดูงานแทนบ้าง แต่มาคนเดียวนี่ต้องมาดูเองทุกเม็ดเลยค่ะ มีเหงา ๆ บ้าง เวลาเดินสายไม่ใช่มาคนเดียวอย่างนี้ แต่ไป ๆ มา ๆ มันสอนให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ใส่ใจในงานตัวเองมากขึ้นด้วยนะ” นอกจากนี้ยังโดน กระแส “ดังแล้วแยกวง” ไม่เลิก!
“ออกมาอยู่คนเดียว มันคงหลีกเลี่ยงประโยคที่ดังแล้วแยกวงไม่ได้หรอก ใคร ๆ ก็มองอย่างนั้น ถ้าเป็นดาก็คงมองอย่างนั้นเหมือนกัน อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินคิดอย่างนั้น อยากให้ฟังเพลงของดาก่อน”
ในเมื่อไม่ได้ทำงานด้วยกัน ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้าง
“ก็ยังคุยกันปกติ เราต้องเจอกันตามงานแล้ว นักดนตรีมันไปไหนไม่ได้ไกลกันหรอกค่ะ เราไม่ใช่มีความคิดแบบเด็ก ๆ โกรธกัน งอนกัน แล้วจะไม่พูดกัน มันคงไม่ใช่ค่ะ เพียงแต่พวกเรายังเด็ก มีเป้าหมายของแต่ละคนที่ต่างกัน (มีไฟอยู่) เลยแยกย้ายไปทำงานที่ตัวเองอยากทำก่อนเท่านั้น เพื่อน ๆ เองก็ไปฟอร์มวงทำวงกันใหม่ด้วย”
แล้วกับเรื่องสุขภาพเส้นเสียงล่ะ หลังจากเคยพักยาวเพื่อรักษาเส้นเสียงมาแล้ว กลับมาลุยงานเต็มที่เลยหรือยัง?
“แฟนเพลงจะคาดหวังกับการเล่นสดของดามาก ๆ เรื่องงานดาไม่เกร็งอยู่แล้ว เต็มที่ โชคดีที่เพลงฮิตติดปากแฟนเพลงอยู่แล้ว การร้องก็เป็นไปตามปกติ ก็ยอมรับว่าจากการเข้าโรงพยาบาลครั้งที่แล้ว ทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไป ดาจะรับงานโชว์ 1 สัปดาห์แค่ 4 วันเท่านั้น นอกนั้นก็ขอพักเสียง มีเวลาชาร์จแบตให้ตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องโหมงานเหมือนสมัยก่อน ซึ่งดาคิดว่ามันเป็นการทำงานแบบทำตามหน้าที่ ไม่ใช่ทำงานอย่างที่เรารักและสนุกกับมัน พอเราสนุกกับงาน ไม่เครียดกับมัน สุขภาพเราก็ดีตามไปด้วยค่ะ”
มาถึงตอนนี้จะว่าไปแล้ว ดา เอ็นโดรฟิน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีไม่น้อย เพราะมีเพลงฮิตติดลมบนไปหลายเพลง ในหลาย ๆ อัลบั้มที่ออกมา จากนี้ไปเธอโปรเจคท์ พิเศษอะไรบ้าง แฟนเพลงคงอยากรู้กันแล้วสินะ
“อาจจะสักพักค่ะ อยากหยุดพักร้องเพลงสัก 1 ปี เพื่อไปเติมพลังชีวิต ไปเจอเพื่อนใหม่ ๆ ประสบ การณ์ใหม่ ๆ อีกอย่างดาอยากเรียนเรื่องซาวด์เอ็นจิเนียร์เพิ่มด้วย น่าจะศึกษาในเมืองไทยนี่แหละ คนไทยมีนักดนตรีเก่ง ๆ เยอะแยะ วงการดนตรีมันไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว”
แน่อนว่าเรื่องที่ขาดเสียไม่ได้คือ “ความรัก” ก่อนหน้าที่ สาวดา เคยมีข่าวเลิกรากับ หนุ่มโอม-ปิยวัฒน์ อนุกูล มือเบส วงโปเตโต้ ล่าสุดก็ได้หนุ่มคนใหม่มาดามใจเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นนักดนตรีเหมือนเดิม แน็ป วงเรโทรสเปค ที่ใกล้จะเผยโฉมเร็ว ๆ นี้
ไป ๆ มา ๆ ก็สนิทกับคนไม่ใกล้ไม่ไกล ยังเป็นคนแวดวงเดียวกันอีกแล้ว....
“เรื่องความรักดาไม่ใช่คบกันแบบวัยรุ่นนะคะ เวลาคบใครจะมองไกลทุกคน ไม่ใช่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ ทุกคนเข้าถึงคุณพ่อคุณแม่หมด ไม่ใช่มาแค่ดูหนัง ฟังเพลง ตามประสาวัยรุ่น ดารักครอบครัว รักอนาคต ฉะนั้นเวลาคบใครจะวางแผนการใช้ชีวิตด้วย ที่ผ่านมาดาทำดีที่สุดแล้ว ไม่เฮิร์ทอะไรมากนะ คนเราต้องทะเลาะกัน ให้โอกาสกัน ไม่ใช่อีโก้เข้าหากัน เมื่อมันเกิดช้ำ ๆ กันมาก ๆ จนกลายเป็นนิสัยรึเปล่า อันนี้ก็ต้องนำกลับมาตัดสินใจด้วย”
อย่างนี้มุมมองความรักของดาก็ถือว่าใช้ “ดนตรี” เป็นสื่อกลาง?
“เราอาชีพนี้ คงหนีกันไม่พ้น ดาว่าคนวงการเดียวกัน ชีวิตเราใกล้กัน สื่อสารกันง่ายนะคะ เรียกว่าสบายใจมากกว่า อย่างไรก็ตาม ดากับ โอม ก็ยังเจอกันนะ ไม่ได้โกรธอะไรกัน ส่วนดากับแน็ปนั้นตอนนี้ถือว่าโอเคเลย เข้าใจกันทุกอย่าง เราเริ่มจากความเป็นเพื่อนกันก่อน แล้วค่อยพัฒนามาเป็นคนพิเศษ ดีหรือไม่ดีก็บอกกันค่ะ เพราะเรามีความเป็นเพื่อนค่อนข้างเยอะ นี่ก็รู้จักมาเป็นปีแล้วค่ะ เขาอาจไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก แต่ก็มีความเป็นห่วงเป็นใยเราค่ะ จริง ๆ ถ้าจะคบจนถึงขั้นแต่งงาน ส่วนใหญ่หลายคู่ก็อยู่กันแบบเพื่อนจะยืนยาวมากกว่า หรือ กึ่ง ๆ เพื่อน ไม่ใช่มานั่งหึงหวง เช็กนั่นเช็กนี่ กับแน็ปเขาก็แสดงความเป็นห่วงดานะ โทรฯถามทำงานเป็นไงมั่ง ถึงบ้านหรือยัง ดูแลตัวเองดี ๆ นะ ทำนองนี้มากกว่า ดาว่าคบแล้วสบายใจมาก ๆ ค่ะ”
แหม! คงไม่มีอะไรน่าอิจฉาเท่าสาวดาอีกแล้ว ลัคกี้อินเลิฟ แถมลัคกี้อินเกมอีกต่างหาก...
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์