?จูบปากผู้ชาย?...เฉยๆ น่า!! ?เต๊ะ? เฮ ถูกมองเป็น ?เกย์? ( ข่าวบันเทิง )

บินด่วนจากไต้หวันกลับเมืองไทยคราวนี้ นอกจาก หอบเงินกลับมาฝาก “พ่อ-แม่” เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ยังหอบ “คำตอบ” มา “แก้ตัว” กระแสฉาวโฉ่ในภาพยนตร์ไต้หวันเรื่อง “โก..โก จี บอย” ที่เต๊ะลงทุนเลิฟซีนกับ “ไม้ป่าเดียวกัน” เล่นเอาแฟนคลับอึ้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว เต๊ะเสียคะแนนไปอื้อซ่า วันนี้ “คนดังนั่งคุย” เลยต้องลุยไปสัมผัสตัวจริง เต๊ะยังชอบ “ผู้หญิง” หรือเปลี่ยนรสนิยมไปแล้วกันแน่?

“เรื่องนี้คนไต้หวันจะขำๆกัน เพราะเป็นหนังตลก เนื้อเรื่องเป็นการปลอมตัวเป็นเกย์เข้าไป อยู่กับเกย์ แล้วเริ่มสับสนว่าคนรอบข้างที่เป็นเกย์เค้าจริงใจ เริ่มตกหลุมรักเพื่อนตัวเอง ทำนองนั้น ผมว่ากระแสเกย์แล้วแต่คนมองนะ ก็เข้าใจพอพูดถึงหนังเกย์คนฟังจะดูโป๊ๆ แต่จริงๆไม่ใช่แบบนั้นเลย มันไม่สื่อเรื่องเซ็กซ์ แค่ เป็นความรู้สึกของคนเป็นเกย์ คนที่เป็นเกย์ ไปดูจะเข้าใจว่าคนทำหนังต้องการสื่อความรักของเพศที่ 3 แต่ที่มีกระแสอาจจะเพราะคนไทย ไม่ชิน ในเรื่องผมมีบทจูบปากด้วย จูบกับผู้ชาย นี่ยิ่งแรง แต่สำหรับผมเฉยๆ มันคือการแสดง อยากให้มุมการแสดงมันกว้างเท่านั้นเอง”

ตอนประกบปากผู้ชายด้วยกัน รู้สึกยังไงมั่งอ่ะ?(จึ๋ย!!)

“ก็เขินนะ คนที่เล่นด้วยเพิ่งรู้จักกัน แต่ ต้องจูบกันแล้ว (หัวเราะ) แต่นักแสดงทุกคนไม่ได้ เป็นเกย์ ไม่ว่าเล่นกับผู้หญิงหรือผู้ชายหากต้องจูบก็เขินหมดแหละ แต่ผู้ชายจะมีประสบการณ์ จูบกอดผู้หญิง ไอ้การจูบผู้ชายมันไม่มีประสบการณ์ ท่าทางก็เก้งก้าง ช่วงแรกก็พยายามปรับบุคลิก เค้าก็ให้นักแสดงไปบาร์เกย์ ไปดูเพื่อตอนแสดงจะได้รู้สึกจากข้างใน เกย์มันนิ่งๆเล่นยากนะ”

กระแสที่เมืองไทย เต๊ะโดนเละเลย?

“ผมรู้ตอนที่น้องสาวส่งข่าวมาให้ดู เขาลือกันว่าเต๊ะมีภาพหลุด แต่ผมเฉยๆ เดี๋ยวหนังออกก็รู้กันเอง แค่มีบางสื่อเขียนว่าผมตกอับต้องไปเล่นหนังเกย์ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตกอับต้องไปเล่นหนังเกย์ ไม่รู้เขามองมุมไหน ถ้าเรามองกันดีๆ หนังออสการ์ ก็พูดถึงเกย์ ไม่มีคนพูดถึงหนังตกอับเลย ทำไมไม่มองว่ามันต้องใช้ความสามารถเยอะ ผมไม่ได้พูดเพื่อชมว่าตัวเองเก่ง แต่ถ้ามองกลับกันเขาควรให้กำลังใจ ไม่ควรเขียนกัดกัน เพราะเต๊ะไปทำงานที่ไต้หวัน จีน มา 8 ปี อยู่ต่างประเทศเราก็เหมือนทูตประเทศไทย คนที่โน่นจะถามถึงเมืองไทย จะเที่ยวไหนดี ถ้าไม่เชียร์ กันก็อย่าเขียนดีกว่า ผมก็เชื่อว่ามีคนเป็นพันคนบินมาเที่ยวประเทศไทยจากปากของเด็กอายุ 25 อย่างผมแหละ แต่สิ่งที่เราได้รับกลับกลายเป็นแบบนี้”

“ผมไม่ซีเรียสเรื่องที่คนจะเข้าใจว่าผมเป็นเกย์ ถ้าคิดว่าผมเป็นเกย์จะดีใจมาก เพราะเราแสดงได้ดี เป็นการเช็กเรตติ้งในตัว แต่ถ้าบางคนดูแล้วอิน ก็ต้องแยกแยะบ้าง ไม่งั้นนักแสดงจะวางตัวลำบาก”

8 ปีที่เมืองนอกคว้าฝันได้แค่ไหน?

“เต๊ะไม่มีฝันว่าเราจะต้องไปดังที่โน่น เป็นดาราค้างฟ้า เต๊ะอยากทำที่สุดคือเราได้แสดงบทดีๆ บทที่ท้าทาย บทวัยรุ่นเต๊ะเล่นมาเยอะ แต่ เหมือนเราไม่ได้ใช้การแสดงอะไรเลย ผมอยากเล่นบทที่ต้องใช้ความสามารถ รู้สึกว่าบทเหล่านั้นทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังทำงานอยู่ ไม่ได้เล่นเป็นตัวเอง”

คิดจะปักหลักไปตลอดชีวิตมั้ย?

“จริงๆก็ไม่หรอก แต่งานยังมีต่อเนื่อง ผมคิดว่าเมื่อไหร่ที่เขาไม่อยากให้เต๊ะเล่นนั่นแหละเราจะหยุด แต่เต๊ะจะไม่หยุดเมื่อเราพร้อม เพราะเต๊ะชอบ ยังสนุกกับมัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องสตางค์นะ แต่มันคือความสนุกในการทำงานมากกว่า อยากทำงานไปเรื่อยๆ วันนึงอาจจะไม่ได้เล่นเป็นพระเอก อาจจะขยับเป็นบทลุง โตขึ้นตามวัย เต๊ะไม่ สามารถเล่นบทวัยรุ่นได้ตลอด บทพ่อเราก็ต้องเล่นได้ วันที่ไม่ได้ เล่นก็อาจจะกลับเมืองไทย”

งานเยอะหยั่งงี้ รวยแล้วซิ?

“ก็ไม่ได้เยอะมหาศาล ร่ำรวยอะไรหรอก” คนมองโกอินเตอร์ ต้องรวย? “ถ้าเราไปเล่นหนังเวียดนาม ก็เรียกว่าโกอินเตอร์นะ ประเทศที่รายได้ สูงค่าใช้จ่ายก็สูงตามด้วย บางคนมองแค่ทำงานได้ค่าจ้างกี่ล้าน กี่แสน แต่นักแสดงก็ต้องใช้ เงินดูแลตัวเองขนาดไหน ซื้อเสื้อผ้า รักษาหน้า ทำงานคุ้มค่าเหนื่อยมั้ย”

ยังมีสาวไต้หวันตามจีบป่าว?

“มีแต่ผมไปจีบเค้าน่ะซิ (หัวเราะ) วุฒิภาวะผมก็ไม่เด็กแล้ว ก็จีบกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็เป็นเพื่อนๆกันครับ” สาวคนที่มีข่าวควงกันบ่อยๆล่ะสิ? “คนไหน ไม่มีครับ มีแต่เพื่อนๆกัน เต๊ะเป็นคนขี้เหงานะ ครอบครัวไม่ได้อยู่ที่นั่น เราไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เริ่มสนิทกับใครก็ต้องห่างอีกแล้ว ผมเล่นละครกับเพื่อนกลุ่มนี้ 3 เดือน มีความสุขมาก สักพักก็เลิกกอง ไม่เจอกันอีกแล้ว มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย จะรู้สึกผูกพันแต่ความสัมพันธ์ไม่ยาว เลยเริ่มคิดได้ว่าเราอย่าไปเริ่มอะไรที่เราสานต่อไม่ได้ดีกว่า”

จะไม่ยอมใช้คำว่าแฟน?

“มันมีได้ต่อเมื่อผมพร้อม เมื่อไหร่ที่ผมนิ่งนั่นคือผมพอแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมไม่ได้กลัวตัวเอง แต่รู้สึกเห็นใจคนตรงข้าม ถ้าเกิดเขาไม่เข้าใจวงการนี้คงน้อยใจ เพราะดูเหมือนเต๊ะไม่มีเวลาให้เขา”

แสดงว่ายังไม่มีแฟน?

“สมัยก่อนเคยมี แต่พอห่าง 8-9 เดือนไม่ได้เจอกัน เหมือนเราไม่มีประสบการณ์ร่วมกัน ไม่เห็นภาพทุกข์คืออะไร สุขคืออะไร ต่างคนก็ต่างทรมาน แต่ถามว่ามีคบๆไหม ก็มีคุย ผมว่ามันก็เป็นประสบการณ์ สีสันของชีวิต เราไม่ได้ไปทำร้ายใคร ไม่ได้ไปทำอะไรผิดศีลธรรม ผมว่าการรู้จักคนคนนึงเพิ่มขึ้นในชีวิต เป็นเรื่องที่ดีนะ ผมไม่ค่อยแคร์ ใครจะหาว่าผมเจ้าชู้ เพราะการสนใจคนอื่นมากเกินไป ทำให้เราไม่มีความสุขหรอกครับ”--ถูกต้อง

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์