พอมีข่าวนี้ออกมาเลยทำให้สาวตองต้องถูกจิกถามว่าเมื่อไหร่จะสละโสดกับแฟนหนุ่มที่คบหากันมานานก้าวขึ้นปีที่ 7 แล้ว ทั้งที่ทั้งคู่ก็เข้านอกออกในบ้านของอีกฝ่าย และผู้ใหญ่ก็ไฟเขียวเปิดทางสะดวกให้ตั้งนานแล้ว สาวตองเปิดใจว่ายังไม่คิดเรื่องแต่งงาน เพราะตอนนี้ยังสนุกกับงานอยู่ ถึงแม้จะมีคนทักว่ามีดวงเรื่องแต่งงาน และก็ไม่อยากเอาอายุที่ขยับใกล้เลข 3 เข้าไปทุกทีมากดดันตัวเองด้วย เนื่องจากผู้หญิงสมัยนี้ดูแลตัวเองได้ดี ไม่ต้องเอาชีวิตไปฝากไว้กับฝ่ายชายเหมือนกับสมัยก่อน ตองย้ำว่าอีกนานกว่าจะคิดเรื่องแต่งงาน ?ตอนนี้ตองสนุกกับงานและพี่ดุ๊กก็สนุกกับงานของตัวเอง ถ้าเราจะต้องมีเวลาให้ใครสักคน เราควรต้องให้เวลาเขาทั้งชีวิต ถ้าคิดว่าจะแต่งงานแล้วอาจจะทำงานตรงนี้น้อยลงหรืออาจจะไม่ทำค่ะ เพราะถ้าตองมีลูกมีครอบครัวก็อยากมีเวลาให้สามีและลูก ต้องมีเวลาเก็บกวาดบ้าน เป็นแม่บ้านเต็มตัว? ตองจะดูแม่เป็นแบบอย่าง เพราะแม่จะมีเวลาให้ลูก ๆ และครอบครัวตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนไม่สบายแม่ก็จะต้องลุกขึ้นมาแต่เช้า เพื่อทำอาหารไว้ให้ลูกและสามี ตองบอกว่าถ้าจะเป็นแม่บ้านต้องทำให้ได้อย่างนี้ และที่สำคัญทั้งตองและ ?พี่ดุ๊ก? ก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ?ความเป็นแม่บ้านมันยังไม่สิงตัวเรา เลยยังไม่ตัดสินใจแต่งค่ะ? สาวตองว่ายังงั้น เธอยังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าพี่ดุ๊กอาจจะเป็นคนที่ ?ใช่?หรือ ?ไม่ใช่? ก็ได้ เพราะไม่อยากเอาตัวเองไปผูกติดอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะยิ่งพูดมากไปจะกลายเป็นว่ากดดันตัวเอง และถ้าวันหนึ่งเกิดไม่ใช่ขึ้นมาจะกลายเป็นเรื่องเสียหาย ?ถ้าใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ค่ะ ตองถึงไม่อยากไปกะเกณฑ์ค่ะ เพราะคนคู่กัน ของอยู่ด้วยกัน ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่วันหนึ่งก็ไม่ใช่ เราก็ต้องทำใจ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน และเราต้องคิดให้รอบคอบ ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่าค่ะ? ช่วงนี้สาวตองขยันเฉิดฉายอยู่บนแคตวอล์ก ตามความฝันอาชีพนางแบบที่เธอชอบมานานนักหนา ความเซ็กซี่ไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะเวลาที่เธอโชว์เรียวขาที่อุตส่าห์เจียดเงินจนขนหน้าแข้งร่วงไปหลายเส้น และทนเจ็บไปให้หมอ ?เหลา? มา หนุ่ม ๆ งี้.....สะท้าน ?พี่ดุ๊ก? ก็คงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าสาวตองจะให้นอนหนาวไปอีกกี่ปี..!!.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์