?นุ่น-ศิรพันธ์? ยาหอม ?แท่ง?เคยสอนให้คิดก่อนพูด ( ข่าวบันเทิง )

นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เข้าวงการมาด้วยการประกวดดัชชี่ แต่มาโด่งดังกับภาพยนตร์เรื่อง ?เพื่อนสนิท? ความสวยเข้าตา นายประวิทย์ มาลีนนท์ จึงถูกทาบให้มารับตำแหน่งนางเอกให้กับทางช่อง 3 และกำลังมีผลงานอยู่สองเรื่องคือ ?เขยใหญ่ สะใภ้เล็ก? ?ยิ่งเกลียดเธอ ยิ่งเจอรัก? นอกจากงานที่เข้ามาต่อเนื่องแล้ว นุ่นยังมีข่าวคราวเรื่องความรักออกมาให้เราได้ตกใจกันเล่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับพระเอกรุ่นใหญ่ ?แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง? แถมด้วยความฝันที่อยากทำในอนาคตและแย้มอีกว่า พ่อแม่ห่วงมาก พร้อมกันนั้นยังเปิดใจถึงพระเอกหน้าใส ?ต๊ะ-วริษฐ์ ทิพโกมุท? ?เข้ามาทำงานในวงการ พ่อแม่ท่านเข้าใจเพราะว่านุ่นมาทำงาน นุ่นจะบอกว่านุ่นมาทำงานเวลามีอะไรนุ่นก็โทรฯคุย ถึงแม้จะอยู่กันคนละที่ คือไม่อยากให้ความห่างเหินเกิดขึ้นในครอบครัว แล้วเค้าก็จะไม่ถาม เค้าไม่เคยถามเลยว่า เกิดอะไรขึ้น มีแต่ว่าทำไมคนอื่นเค้ามาพูดกับเราแบบนี้ เพราะว่าเค้ายังไม่ชินกับการที่เรามาอยู่ตรงจุดนี้ แล้วมีคนที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ พูดถึงกล่าวถึงในหลาย ๆ แง่มุมได้ ส่วนใหญ่เหมือนกับว่าจะให้กำลังใจ น้องชายเค้าก็ไม่ค่อยสนใจ ตอนนี้กลายเป็นคนดังของโรงเรียนมีพี่เป็นดารา คือจริง ๆ ที่บ้านเนี่ยเค้าจะรู้กันว่า นุ่นจะเขินถ้าเรียกนุ่นว่าดารา เพราะนุ่นรู้สึกว่านุ่นมาทำงาน ภาพที่นุ่นเห็นคนที่เป็นดาราเนี่ยต้องสวย เดินออกมาแล้วรัศมีเปล่งประกาย คือเรามองตัวเองแล้วมันไม่มีตรงไหนที่เป็นดารา แล้วความฝันของนุ่นจริง ๆ แล้วอยากเป็นอะไร ? ?นุ่นอยากจะช่วยคน อย่างสมัยเรียนเนี่ยนุ่นคิดว่าถ้านุ่นทำงาน นุ่นจะเก็บเงินเดือนวันละนิด แล้วสะสมไว้ วันนึงก็ขับรถไปต่างจังหวัดไปตามหมู่บ้านที่ไกล ๆ เอาเงินไปให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ใครเดือดร้อนก็ช่วย แต่ตอนนี้นุ่นรู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพมากกว่านั้น มากกว่าช่วยคนแค่ 2 คน ต่อปี ต่อเดือน นุ่นอยากทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ตอนนี้นุ่นพร้อมมากที่อยากจะทำเพื่อคนอื่น เพราะสิ่งที่นุ่นได้มาตอนนี้เนี่ย เป็นสิ่งที่นุ่นไม่คาดคิดว่านุ่นจะได้ แล้วก็ไม่ได้พยายามเพื่อให้ได้มันมา ไม่ได้แบบว่าฉันอยากเป็นนางเอก ฉันอยากเป็นดารา แต่มันคือสิ่งที่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนุ่น แล้วนุ่นตั้งใจทำกับมันแล้วมันมีสิ่งตอบแทนกลับมา นุ่นคิดว่ามันมากเกินไปสำหรับนุ่น ตอนนี้นุ่นอยากทำอย่างนี้มาก แต่มันเหมือนสองด้าน เวลาที่มาถามว่าอยากทำอะไร แล้วนุ่นบอก นุ่นก็ไม่สบายใจมันเหมือนกับนุ่นอยากเอาหน้า คือมีความคิดมาตลอดว่าถ้านุ่นบอกเนี่ย คนอื่นจะมองเราว่าเราเอาหน้ารึเปล่า ทำมาเป็นแอ็บ อยากอัพเกรดตัวเอง กลัวไม่เป็นนางเอกแล้วมาช่วยเหลือคน นุ่นคิดว่าถ้านุ่นทำอะไรสักอย่างเนี่ย มันไม่จำเป็นต้องบอกใครก็ได้ เพราะมันดีที่ใจตัวเอง พอพูดไปเหมือนบุญมันลดลงยังไงไม่รู้ ทีนี้มาถึงข่าวคราวกับพี่แท่ง ถึงวันนี้ความสัมพันธ์เป็นยังไง ? ?กับคุณศักดิ์สิทธิ์ เราก็เหมือนพี่น้องกัน นุ่นไม่เคยพูดว่าเราเป็นแฟนกัน วันนี้ ตอนนี้ นุ่นอยากทำงานมากกว่า อยากทำงานให้ออกมาดีที่สุด แต่ตอนที่ทำงานกับคุณศักดิ์สิทธิ์ เค้าจะมีข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ใช่อยู่หน้ากล้อง คือพี่เค้าจะมีความคิดแบบการใช้ชีวิตอยู่ในกอง การพบปะสื่อมวลชน การพูดคุยกับพี่ ๆ นักข่าว ซึ่งตอนแรกเนี่ยนุ่นก็จะมีความคิดว่า พี่เค้าคือคนทำงานคนนึง เราก็ทำงานเหมือนกัน นุ่นจะมีนิสัยแบบเด็กบ้านนอก ใส ๆ ซื่อ ๆ เจอใครก็คุยแบบเต็มร้อย แล้ว บางทีคำพูดที่เราไม่ระวัง ไม่ทันคิด คำพูดที่เรามีเจตนาอย่างนึง แล้วคนฟังเค้าเข้าใจอีกอย่างนึง บางทีมันก็มีผลกระทบต่อหลาย ๆ ฝ่าย พูดโดยไม่ไตร่ตรอง นี่ก็คือได้สิ่งดี ๆ จากตรงนี้เขามา ส่วนกับพระเอกคนอื่นอย่างนุ่นเล่นกับพี่อ้น ?สราวุธ มาตรทอง? ก็จะมีมุมมองว่าคนที่เป็นนักแสดงเนี้ยมีชีวิตอีกแบบนึงก็ได้ ซึ่งก็ตอกย้ำความเชื่อของเรา แล้วพอมาเล่นกับ ?ต๊ะ-วริษฐ์? ต๊ะเค้าจะคิดว่าเราไม่ทำงานคนเดียว เราทำงาน กันเป็นทีม เราไม่ใช่มีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น หรือเราคิดว่าเราทำได้เราก็ทำได้ดีอยู่ฝ่ายเดียว เราต้องช่วยกัน แล้วก็ต้องทำตัวช่วยคนอื่น ไม่ใช่ไปฉุดคนอื่นลงมา และต๊ะเค้าจะเป็นผู้ชายปากแดง คือเค้าปากแห้งค่ะ เค้าจะพกพวกลิปมันไว้ตลอด ซึ่งกับนุ่นที่เป็นผู้หญิงนุ่นไม่ทำอะไรเลยกับตัวเอง ต๊ะเค้าจะทาลิปตลอดเพราะปากแห้งมาก อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ ปากเค้าแห้งจริง ๆ แต่ชอบแซว เพราะเทียบกับตัวเองแล้วดูแมนกว่าเยอะมาก ส่วนกับซันนี่เหรอคะ คือตอนนั้นมันใหม่มาก มันรู้สึกไม่ได้ทำงาน มันเหมือนกับไปเล่นด้วยความสัตย์จริง คือ ณ วันนี้ พอหนังจบไป แต่ละคนที่ร่วมเล่นเพื่อนสนิทก็แยกย้ายกันไปทำงาน ก็รู้สึกว่าได้เพื่อนมาอีกคนนึง ที่ไม่ใช่เป็นนักแสดง เป็นดารา ก็ยังเป็นซันนี่ที่นุ่นเคยเห็นวันแรก?.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์