แพทย์ชี้“เอ”อนันต์ยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะสมองและช่องปอดต้องขอรอดูอาการอย่างน้อย7วัน“อ้น”ศรีพรรณเผยหายห่วงหลังคณะแพทย์โทรศัพท์บอกอาการและการรักษาให้รับทราบเป็นระยะ
ความคืบหน้ากรณีนายอนันต์บุนนาคหรือ“เอ”นักแสดงชื่อดังขับรถปิกอัพชนท้ายรถบรรทุก6ล้อได้รับบาดเจ็บขณะเดินทางไปรีสอร์ทส่วนตัวในอ.น้ำหนาวจ.เพชรบูรณ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสล่าสุดเมื่อเวลา13.45น.วันที่4พฤษภาคมรศ.นพ.ธันย์สุภัทรพันธุ์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีผศ.นพ.ปรีดาสัมฤทธิ์ประดิษฐ์แพทย์เจ้าของไข้ศ.พญ.สุวรรณาเรืองกาญจนเศรษฐ์รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรผู้อำนวยการศูนย์แพทย์สิริกิติ์โรงพยาบาลรามาธิบดีและน.ส.ศรีพรรณชื่นชมบุญภรรยาได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าอาการของนายอนันต์ที่ห้องประชุมชั้น5อาคารศูนย์แพทย์สิริกิติ์โรงพยาบาลรามาธิบดี
รศ.นพ.ธันย์กล่าวว่าโรงพยาบาลรามาธิบดีได้รับตัวนายอนันต์เข้ารับการรักษาเมื่อเวลา02.00น.วันที่3พฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยมีเลือดออกในสมองแต่ยังรู้สึกตัวดีมีเลือดออกในช่องปอดด้านขวาจากกระดูกหน้าอกและกระดูกชายโครงด้านขวาหักหลายแห่งโดยได้รับการใส่ท่อระบายเลือดมาแล้วจากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์กระดูกแขนส่วนต้นข้างขวาหักและมีแผลเปิดภายนอกกระดูกแขนขวาท่อนล่างหักกระดูกข้อมือซ้ายหักกระดูกหัวเข่าซ้ายแตกและมีแผลภายนอกซึ่งขณะนี้ได้รับการผ่าตัดและใส่เหล็กยึดตรึงกระดูกภายนอกในส่วนที่หักไว้หมดแล้ว
รศ.นพ.ธันย์กล่าวถึงแนวทางการรักษาว่าหลังผ่าตัดเมื่อเวลา06.00น.วันที่3พฤษภาคมก็ได้ย้ายผู้ป่วยเข้าหอผู้ป่วยวิกฤติหรือไอซียูเพื่อดูอาการแทรกซ้อนอื่นๆโดยเฉพาะใน7วันแรกอาจมีอาการทางสมองและภาวะปอดบวมซ้ำได้รวมทั้งการติดเชื้อแผลผ่าตัดนอกจากนี้อาจจะต้องมีการผ่าตัดเพื่อล้างแผลที่เปิดจากกระดูกหักภายใน72ชั่วโมงเพื่อลดอาการติดเชื้อหากอาการต่างๆคงที่และไม่มีอาการแทรกซ้อนแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดใส่เหล็กยึดติดตรึงกระดูกภายในอีกครั้งส่วนปัญหาทางสมองจะเฝ้าดูอาการร่วมกับการทำซีทีสแกนที่สมองเป็นระยะ
ผศ.นพ.ปรีดากล่าวว่าอาการของนายอนันต์ในช่วงนี้ยังถือว่าไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะอาการทางสมองที่จะต้องเฝ้าดูอาการไปอีก7วันอีกทั้งอาการทางปอดก็ยังต้องใช้เวลาเลือดที่ออกทางสมองแพทย์จะได้ทำการเอ็กซเรย์ดูเป็นระยะในส่วนของปอดก็เช่นกันด้านกระโหลกที่ตอนแรกมีความเข้าใจว่าร้าวตรวจแล้วไม่พบขณะนี้คนไข้ยังรู้สึกตัวไม่เต็มที่แต่มีการตอบสนองทำตามคำสั่งได้บ้าง
น.ส.ศรีพรรณกล่าวว่าวันเกิดเหตุขณะเดินซื้อของอยู่กับแม่อยู่ที่ตลาดนายเกียรติกิจเจริญหรือซูโม่กิ๊กได้โทรศัพท์มาบอกพอทราบก็ทำอะไรไม่ถูกคิดว่าต้องไปหาให้เร็วที่สุดตอนแรกจะให้คุณพ่อขับรถไปจากกรุงเทพฯซึ่งใช้เวลา2-3ชั่วโมงแต่ด้วยความที่ไม่อยากรออยากไปให้เร็วที่สุดจึงประสานไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพเพื่อใช้เฮลิคอปเตอร์ซึ่งทางบริษัทเฮลิคอปเตอร์ได้รับแจ้งในเวลา17.00น.ซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่น่าเกิน21.00นาฬิกาน่าจะได้เจอกันแต่ปรากฏว่ากว่าจะได้เจอพี่เอก็ผ่านไป00.45น.
“ตอนเจอหน้าสามีคำพูดแรกที่ได้ยินจากปากของสามีคือพี่เจ็บพี่ต้องผ่าตัดพี่ปวดแผลซึ่งก็พูดคุยกันได้ดีจำทุกคนที่มาเยี่ยมได้พอย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีก็หายห่วงคณะแพทย์โทรศัพท์มาบอกอาการและการรักษาให้รับทราบเป็นระยะหลังออกจากห้องผ่าตัดแล้วได้เข้าไปพูดคุยกับสามีซึ่งสามีก็มีอาการตอบสนองดีสามารถขยับมือตามคำสั่งได้”น.ส.ศรีพรรณกล่าว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์