แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
“ปุ๊กกี้ ชาลาล่า” เปิดใจหย่ากับ “เอ้” สามีคนที่ 2 แล้วจริง หลังทดลองแยกกันอยู่มาแล้ว 3 เดือน แจงเหตุผลเพราะคิดไม่ตรงกัน งงถูกลือค้ายา ขายตัวที่ออสเตรเลีย พร้อมยกชีวิตตัวเองเป็นอุทาหรณ์เรื่องไหนดีให้เอาเป็นตัวอย่าง สิ่งไม่ดีก็ขอให้เป็นบทเรียน ช้ำใจแม่สอนไม่เคยเชื่อ
หลังแต่งงานอยู่กินกับ นายปาณสาร จันทน์หอม หรือ เอ้ เซลส์บริษัทรถหรูยี่ห้อหนึ่ง ไปเมื่อ วันที่ 25 พ.ย. 2549 รวมระยะเวลาได้ 2 ปีกว่าๆ กระทั่งมีข่าวเตียงหักออกมาเป็นระยะ จน น.ส.ปริศนา หรือ ปุ๊กกี้ ชาลาล่า ต้องออกมาปฏิเสธเป็นระยะ ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าทั้งคู่ได้แยกทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 เมษายน น.ส.ปริศนา จิวเมลลี่ หรือ ปุ๊กกี้ ซึ่งได้มาทำหน้าที่พิธีกรในงาน “ไทยแลนด์ แกรนด์ อินวิเทชั่น 2009” ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกหลังเดินทางกลับมาจากประเทศออสเตรเลียตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.ปริศนา หรือ ปุ๊กกี้ กล่าวว่าขณะนี้ตนได้หย่าขาดจากนายปาณสาร แล้วจริงๆ โดยได้เซ็นต์ใบหย่าไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยเหตุผลที่ตัดสินใจหย่าครั้งนี้เป็นเพราะอยู่ด้วยกันแล้วไม่ใช่ รวมถึงยังมีอีกหลายเหตุผลที่คิดว่าแยกกันดีกว่าที่จะดันทุรังอยู่กันต่อไป หลังจากได้พยายามปรับความเข้าใจกันหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ยิ่งพยายามก็ยิ่งไม่ใช่จึงตัดสินใจหย่า
เมื่อถามว่าการแยกทางกันครั้งนี้เป็นเพราะฝ่ายชายไม่มีความเป็นผู้นำด้วยใช่หรือไม่ น.ส.ปริศนา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่คิดไม่ตรงกันมากกว่า แต่ด้วยความที่ฝ่ายชายเป็นคนที่ให้เกียรติตนเสมอ จึงถูกมองว่าตนมักเป็นผู้นำ
”การเลิกกันครั้งนี้เราจบกันด้วยดี เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก ก่อนหย่าก็ตัดสินใจไม่นาน เพราะเรามีความเห็นตรงกันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องคิดนาน และไม่มีเรื่องมือที่สาม ไม่มีการระหองระแหง ทะเลาะตบตีกันก่อนที่จะหย่า ประเด็นเรื่องที่มีข่าวว่าเป็นเพราะฝ่ายชายอยากมีลูก เหตุผลนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักอีกเช่นกัน” “ปุ๊กกี้“ กล่าว
น.ส.ปริศนา กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะหย่าตนและอดีตสามีได้มีการทดลองแยกกันอยู่ 3 เดือนประมาณช่วงปลายปีที่แล้ว(2551) รวมแล้วก่อนแต่งงานคบกันมา 5 ปี และมาแต่งงานอยู่ด้วยกันประมาณ 2 ปีกว่า ซึ่งช่วงแรกที่ตัดสินใจก็เสียใจมาก ร้องไห้ แต่ตอนนี้รู้สึกเสียดายมากกว่าที่ไปไม่ถึงจุดสุดท้ายของชีวิตครอบครัว ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้นนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน และไม่ได้มองว่าจะต้องได้หรือไม่ได้อะไร โดยเชื่อว่าหากตนอยากได้อะไรอดีตสามีก็ให้อยู่แล้ว ขณะนี้นายปาณสารก็อยู่ที่เมืองไทยเช่นกัน
เมื่อถามต่อว่าแยกกันอยู่มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เหตุใดจึงเห็นทั้งคู่ไปออกงานคู่กันเมื่อเดือน ก.พ. อดีตนักร้องสาวชะลาล่า กล่าวว่าตอนนั้นยังไม่ได้เลิกกันจริงจัง โดยเป็นช่วงที่ปรับความเข้าใจกันอยู่
”ตอนนี้ปุ๊กกี้ก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว คิดถึงอยากกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีกครั้ง รวมถึงยังเป็นโอกาสดีที่จะได้รักษาใจตัวเอง และได้อยู่กับลูกๆ ช่วงที่อยู่ออสเตรเลียก็ได้ไปเรียนในสิ่งที่อยากเรียน นั่นคือ การโรงแรม เป็นสิ่งที่อยากเรียนมานานแล้ว ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่า “ปุ๊กกี้“ ค้ายา ขายตัว มันไม่มีมูลความจริงเลย ก็ไม่รู้จะต้องอธิบายอย่างไร” น.ส.ปริศนากล่าว
”ปุ๊กกี้“ กล่าวยอมรับว่ารู้สึกเข็ดกับการแต่งงาน แต่ไม่เข็ดเรื่องความรัก เพราะเชื่อว่าทุกคนยังต้องการความรัก แต่ทั้งนี้จะไม่มีการแต่งงานใหม่อย่างแน่นอน สำหรับแม่ก็ได้ให้กำลังใจ โดยบอกว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นจำเป็นจะต้องมีสามีก็ได้ เนื่องจากชีวิตตนก็ขึ้นๆลงๆตลอดอยู่แล้ว ส่วนนายสุรพันธ์ จำลองกุล อดีตสามีคนแรกยังไม่ได้เจอกัน
”กลับมาครั้งนี้ก็เหมือนเริ่มจากศูนย์ใหม่ ทุกอย่างคงค่อยเป็นค่อยไป ลูกๆก็ยังไม่ทราบเรื่องเพราะก็ยังไม่อยากอธิบาย ใครที่เห็นชีวิตปุ๊กกี้มาก็อยากให้เปรียบชีวิตปุ๊กกี้เป็นหนังเรื่องหนึ่ง มุมไหนที่ดีก็เอาเป็นตัวอย่าง แต่เรื่องไหนที่ไม่ดี ก็ให้ดูเอาไว้ว่าหากทำแบบนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนคำว่า ม่ายรอบ 2 ปุ๊กกี้ว่ารอบที่ 1 ก็หนักอยู่แล้ว แต่พอมารอบนี้มันเป็นการจากกันด้วยดี ดีกว่าอยู่ด้วยกัน แล้วก็ไม่ได้รู้สึกหมดหวังอะไรในความรัก เมื่อมองย้อนกลับไปในวันที่แม่สอนก็ทำให้รู้สึกว่าจริง และใช่ เพียงแต่วันนั้นไม่ได้ฟัง ทั้งที่แม่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตลอด ครั้งแรกวันนั้นปุ๊กกี้ท้อง มีสองทางคือจะทำแท้ง หรือจะยอมรับว่าท้อง ปุ๊กกี้เลือกที่จะบอกทุกคนว่าท้อง เพื่อเอาลูกไว้ ทุกวันนี้ก็ได้กำลังใจก็ได้มาจากลูกๆเพราะไม่มีอะไรที่มากไปกว่านี้” น.ส.ปริศนากล่าว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ 
English
