กลายเป็นความบาดหมางระหว่างนักแสดงในกองถ่ายละคร “ปมรักรอยอดีต” ทางช่อง 7 สี ที่เล่นกันแรงถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดี ยิ่งทำให้ 2 ดาราสาว ปู-มัณฑนา หิมะทองคำ และขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ กลายเป็นที่จับตาของสื่อมวลชน รวมถึงผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี และผู้ผลิตละคร เนื่องจากทั้งคู่ต้องกลับมาเข้าฉากร่วมกัน และเป็นฉากสำคัญอีกฉากหนึ่งเนื่องจากมีการตบตีกันด้วย ทำให้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจำนวนมากแห่ไปดักรอสังเกตการณ์การถ่ายทำฉากดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่บ้านพักย่านแจ้งวัฒนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ที่ทั้งสองดาราสาวเข้ามาในกองถ่าย ต่างก็แยกกันอยู่คนละห้อง ไม่มีการพูดจาทักทายกัน กระทั่งถึงเวลาเข้าฉาก จึงเดินออกจากห้องมาเข้าฉาก ซึ่งในฉากนี้ปู-มัณฑนา ต้องขึ้นเสียงบีบปากขวัญ ชี้หน้าด่า เพื่อขู่ให้ขวัญหาทางทำให้พระเอกหมดรัก ขณะที่ขวัญจะต้องอยู่ในอารมณ์ที่น้อยใจ และหงอ แต่ในขณะที่เข้าฉากทั้งคู่ต่างจ้องตากันนิ่ง ต่างคนต่างทำตาแข็งๆใส่กัน แต่เมื่อถ่ายเสร็จ ต่างแยกทางกันไปอยู่คนละทาง ก่อนที่จะกลับมาเข้าฉากต่อเนื่องที่ปู-มัณฑนา ต้องตบขวัญ ซึ่งก่อนถ่ายทำได้มีการซักซ้อมบทก่อน โดยปู-มัณฑนา ซ้อมตบไป 1 ครั้ง และเมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริง ปรากฏว่าขวัญมีสีหน้าไม่สู้ดี แววตาฉายความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่เอส-วัชระ ผู้กำกับฯ ก็คงปล่อยให้ผ่านเลย แม้จะมีเสียงทักท้วงจากทีมงานที่อยากให้ถ่ายทำใหม่อีกรอบ เพื่อให้ได้ภาพที่ดีกว่า แต่ ผู้กำกับฯก็ทำเฉย ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจหวั่นว่าจะมีการกระทบกระทั่งกันขึ้นมาอีก และในระหว่างที่พักการถ่ายทำ ปู-มัณฑนา ได้กลับไปยังห้องพักที่มีเพื่อนดารา อาทิ ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ และดารารุ่นใหญ่สลับกันแวะเวียนเข้ามานั่งพัก ขณะที่ขวัญ-อุษามณี นางเอกสาวแยกไปนั่งอีกห้อง ซึ่งมีนางปราณี ไวทยานนท์ คุณแม่ มาอยู่เป็นเพื่อน
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น ขวัญ-อุษามณี ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสภาพจิตใจในขณะนี้ว่า ยังมีความสุขดี ไม่มีอะไร มีเครียดบ้างก็คือเรื่องเรียน เพราะใกล้สอบแล้ว ต้องอ่านหนังสือหนักกว่าเพื่อน รายงานก็เยอะ เลยรู้สึกเหนื่อย
ต่อข้อซักถามเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น ขวัญ-อุษามณี กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตามข่าว คือถ้าไม่อยู่ที่กองถ่าย ก็จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัย อาจจะมีบ้างที่ต้องเข้า รพ.ไปหาหมอเช็กเสียงให้ ดังนั้นเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้ทราบด้วยตัวเอง แต่เพื่อนส่งข้อความมาให้ทางโทรศัพท์ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้ดาราสาวยังปฏิเสธข่าวที่ว่ากินเกาเหลากับดารารุ่นพี่อย่าง ปู-มัณฑนา ด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ คงไม่มีอะไรเพราะยังทำงานปกติ
เมื่อถามว่า ตอนนี้กลายเป็นคดีความกันที่ซัดทอดมา ขวัญตอบว่า ดีแล้วที่แจ้งความ ตนไม่ซีเรียส ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่า เพราะตำรวจเก่ง พ่อตนก็เป็นตำรวจ หลังจากมีข่าวทุกคนให้กำลังใจทุกอย่างเหมือนเดิม ทุกอย่างทำตัวตามปกติอยู่แล้วไม่ได้ซีเรียสอะไร ส่วนคนมองว่าเป็นฝีมือของตนนั้น ก็ไม่มีหลักฐานอะไร
“ขวัญรู้ตัวขวัญเป็นยังไงไม่เห็นต้องเครียดเลย และขวัญไม่ได้คุยกับช่างแต่งหน้า ยังคุยกับพี่ทุกคนเหมือนเดิม ขวัญขอโทรศัพท์เหมือนขอเพื่อน ขอคุณพ่อคุณแม่ เพราะขวัญไม่ได้พกสตางค์เอง แม่เป็นคนจัดการบริหารเองทั้งหมด แม่ได้บริหารเก่งบางทีมีลืมจ่ายสตางค์ให้ลูกบ้าง แต่ลูกไม่มีสตางค์ต้องขอพ่อขอแม่อยู่ ขวัญยังยืมใช้โทรศัพท์เครื่องนั้นอยู่ ยังยืมปกติ จะยืมเล่นเกมยืมโทรศัพท์ยืมของทุกคนที่มีโปรโมชั่น แต่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น ขวัญจิตใจปกตินะไม่ได้โรคจิตหรืออะไรขนาดนั้น” ขวัญ-อุษามณีกล่าว
นอกจากนี้ นางเอกสาวยังยอมรับว่าตั้งแต่มีข่าวยังไม่ได้พูดคุยกับสองปูที่ตกเป็นข่าวด้วยกัน เพราะมาทำงานมีอะไรต้องรับผิดชอบ ต่างคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง พร้อมกันนี้ก็แก้ข่าวเรื่องที่ว่ามาสายทำให้ทุกคนต้องรอว่า เรื่องมาสายเป็นการทำงานขวัญกับทีมงานมากกว่า อย่างที่เห็นตนแวบไปมาเพราะว่าอยู่ในวัยที่กำลังศึกษา ยังเป็นนักศึกษาต้องรับผิดชอบ ในเรื่องนี้มีตนคนเดียว และก่อนรับงานก็คุยกับทีมงานแล้วทุกคนรับทราบว่าตนทำงานและเรียนไปด้วย ไม่ใช่รับงานแล้วทิ้งเรียน
เมื่อถามว่า ที่มีข่าวว่าพาเพื่อนผู้ชายเข้ามาในกองถ่าย ขวัญยืนยันไม่ได้พาเพื่อนมา วันนั้นไม่ได้เจอกัน ส่วนปกติเคยมีเพื่อนมาหาที่กองบ้าง เป็นพี่แฟนคลับ ญาติๆมาแค่นั้น เหมือนปกติ ส่วนกอล์ฟมาหาที่กองถ่ายแต่ไม่ได้เจอขวัญ เขาแค่มาเยี่ยม เพราะตนไม่สบายแค่นั้นเอง เขาไม่ได้บอกเราก่อน ไม่ได้ติดต่อกันก่อนและก่อนหน้านี้กอล์ฟก็ไม่ได้มากองนี้บ่อยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องปิดห้องอยู่กันสองต่อสอง ก็เชิญดูได้เลย แต่ละห้องปิดได้ยังไงคนเดินเข้าเดินออกทั้งนั้น
“ขวัญมาทำงานเต็มที่ก็เห็นมีขวัญเกือบทุกซีนบางครั้งเหนื่อยก็นอนพัก ฟังเพลงไป ไม่เคยล็อกห้องนอกจากเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนเรื่องที่ถูกมองว่าเป็นคนก้าวร้าว น่าจะฟังหลายๆความนะ เพราะเราก็อยู่วงการนี้มาตั้งนานและอยู่ตรงนี้ผู้ใหญ่สอนมาตั้งเยอะ หลายคนที่เขาเอ็นดูเรา อยู่ตรงนี้ได้เพราะผู้ใหญ่คอยบ่มเรา” นางเอกสาวกล่าว และว่าเรื่องที่จะเข้าไปขอโทษดารารุ่นพี่คู่กรณี ปู-มัณฑนา นั้นก็ไม่รู้อันไหนจริง อันไหนไม่จริง ก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ยอมรับ ปูเป็นคนที่น่ารักคนหนึ่ง ทุกคนเป็นรุ่นพี่ ทีมงานที่น่ารัก ส่วนเขาจะถอนแจ้งความหรือไม่ตนก็ไม่ซีเรียส
เมื่อถามว่า ได้คุยกับกอล์ฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหรือยัง ดาราสาวกล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เพราะต่างก็ทำงาน จึงไม่ทราบว่าที่มีข่าวว่ากอล์ฟมากองถ่ายและราวีดาราบางคนในกอง ซึ่งการที่มีเพื่อนมาหาที่กองถ่าย เอาของมาเยี่ยมก็ไม่แปลก ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างกอล์ฟ กับปู จึงไม่ทราบ และยืนยันข่าวที่เกิดขึ้น จะมีผลกระทบต่ออนาคตหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่วันนี้เราทำเต็มที่ให้ดีที่สุด เรารู้ว่าเป็นอะไร เดินทางสายกลางดีที่สุด ขันติๆ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า อยู่ในวงการมีข่าวปัญหากับหลายๆคน ขวัญจะแก้ไขหรือปรับปรุงอะไรหรือไม่ ดาราสาวก็กล่าวว่า ข่าวคือภาพของขวัญภายนอก แต่ตนเป็นอย่างไร ก็รู้ตัวดี ข่าวไม่สามารถบังคับให้ตนต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ส่วนความสัมพันธ์กับกอล์ฟ และโจ เปาอินทร์ ตอนนี้ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด เพียงแต่ว่าเหมือนเพื่อนที่โรงเรียน ที่มีเพื่อนผู้ชาย 30 กว่าคน เพียงแต่เขาไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ เลยไม่เป็นข่าว คือจริงๆ เขาเป็นเพื่อนกันไม่ได้แบ่งเพศ
ส่วนที่ปู-มัณฑนาให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าขวัญขอโทษจะหายโกรธนั้น ขวัญกล่าวว่า ไม่รู้จะไปขอโทษเรื่องอะไร ตนก็อยู่ของตนแบบนี้ ไม่ได้ไปทำอะไรใคร ไม่ได้ไปใส่ร้ายป้ายสีใคร ไม่ได้ส่งแมสเสจ เชิญเช็กได้ตามสบาย กับเจ้าของเครื่องก็ไม่ได้คุย เพราะไม่มีอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่คิดขอโทษ เพื่อให้อีกฝ่ายถอนแจ้งความ ขวัญถึงกับเอ่ยปากว่า ถ้าตนทำความผิดก็ขอโทษแล้วกัน แต่ตนยังไม่รู้เรื่องเลย ส่วนการเข้าฉากก็ไม่กลัวนอกบท เพราะเชื่อในความเป็นอาชีพของอีกฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
ด้านปู-มัณฑนา หิมะทองคำ ได้เปิดใจอีกครั้งว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ไม่เครียด เพราะผู้ใหญ่ทางดีด้าฯ และผู้ใหญ่ทางช่อง 7 สี เข้าใจ รู้ว่าความจริงคืออะไร และวันนี้ได้มีเพื่อนดาราส่งดอกไม้มาให้กำลังใจ มีเพื่อนๆนักแสดงหลายๆท่านโทร.มาให้กำลังใจ ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายบอกมาแล้วว่า จะไม่ขอโทษ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดก็แล้วแต่เขา ถ้าเขาขอโทษทุกอย่างก็จบ ถ้าเขาไม่ขอโทษก็ต้องดำเนินตามกฎหมาย
ต่อข้อซักถามว่า กอล์ฟได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้มาราวีปู ซึ่งดาราสาวตอบว่า “เขาน่าจะรู้ตัวว่าความจริงเป็นอย่างไร ทุกคนในกองถ่ายรู้อยู่แก่ใจเขาทำอะไรและมีทีมงานได้ยิน รู้ว่าเขาทำอะไร กับน้องคนนั้นในวันนี้ ก็เจอกันแต่ไม่ได้มีการทักทายอะไร หลังจากมีเรื่องทุกอย่างยังเหมือนเดิม ส่วนที่ถามว่า อึดอัดมั้ยที่เราต้องทำงานร่วมกัน สำหรับปูก็เฉยๆ เพราะปูเป็นนักแสดงรับงานมาแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ถึงต่อไปจะต้องร่วมงานกันอีกปูไม่มีปัญหาถ้าช่องหรือทางพี่ลอร์ดเห็นว่าเรื่องนี้เหมาะสมกับปูก็เล่น ไม่เคยถามเลยว่าใครเล่นบ้าง ปูไม่มีปัญหาแล้วแต่ผู้ใหญ่”
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์