เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร รับแจ้งพบเต่าตนุขนาดใหญ่ คลานขึ้นมานอนตายอยู่บนชายหาดแหลมเทียน หมู่ 1 ต.หาดทรายรี อ.เมือง ชุมพร นายอติชาต อินทองคำ นักวิชาการประมงประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลฯ นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบเป็นเต่าตนุเพศเมีย ขนาดใหญ่ ความกว้างของกระดอง 87 เซนติเมตร ความยาวตลอดลำตัว 1 เมตร และมีน้ำหนัก 85 กิโลกรัม นอนตายอยู่บนหาดในลักษณะที่ยังลืมตา และมีเลือดไหลออกจากปากเป็นระยะ จึงนำซากเตาไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลฯ
นายอติชาตกล่าวว่า เต่าตัวดังกล่าวคงมีอายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าในเต่ามีไมโครชิพที่ฝังไว้ในกระดอง หมายถึงเต่าเลี้ยงที่ผู้เลี้ยงฝังไมโครชิพแล้วปล่อยลงสู่ทะเล ดังนั้น เต่าตัวนี้จึงเป็นเต่าทะเลตามธรรมชาติทั่วไป และยังไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย สภาพของกระดองยังคงสมบูรณ์ แต่มีเลือดไหลออกมาจากปากและดวงตาเป็นระยะ คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 1 วัน ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นคาดเกิดมาจากการกินของแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายก่อนตาย แล้วถูกคลื่นซัดมาเกยฝั่ง แต่จะต้องผ่าซากเต่าเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
นายอติชาตกล่าวต่อว่า นับตั้งแต่เปิดศูนย์วิจัยฯ มาประมาณ 2 ปี ได้รับแจ้งว่ามีเต่าขนาดใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาเกยหาดที่จ.ชุมพรแล้ว 4 ตัว ตัวที่ใหญ่สุดมีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม โดยทั่วไปเต่าตนุขนาดใหญ่แบบนี้ มีแหล่งวางไข่ที่เกาะมันใน จ.ชลบุรี และเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช เป็นเกาะห่างไกลจากผู้คน จึงมักไม่ค่อยถูกรบกวนจากชาวประมง และเต่าประเภทนี้ หากมีเสียงหรือแสงไฟรบกวน จะไม่ขึ้นมาวางไข่โดยเด็ดขาด ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่เต่าตัวนี้จะขึ้นมาวางไข่ที่ชายหาดจ.ชุมพร คิดว่าคงเข้ามาหาอาหารในทะเลชุมพร แล้วบังเอิญกินของแปลกปลอมเข้าไปมากกว่า
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์