วันนี้ (20 ธ.ค.) นางธาริษา วัฒนเกศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงมาตรการสะกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท ที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นลดลงกว่า 108 จุด ในช่วงปิดตลาดวานนี้ (19 ธ.ค.) ว่ามาตรการดังกล่าวเป็นความจำเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องดำเนินการเพื่อดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนจนเกินไป และต้องการให้การลงทุนระยะสั้นที่เข้ามาเก็งกำไรมีน้อยลง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลและตื่นตระหนก จนส่งผลต่อจิตวิทยาในวงกว้างให้มีการเทขายหุ้น แต่เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายมาถูกต้องแล้ว ส่วนค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงหรือไม่ คงต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง
สำหรับมาตรการช่วยเหลือนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบที่ได้เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงนั้น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะจะเกิดผลกระทบในหลายด้าน ส่วนมาตรการอื่นๆ ยังไม่ได้กำหนดออกมาในช่วงนี้ แต่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันนี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 688.17 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 66.03 จุด เปลี่ยนแปลง 10.61% มูลค่าการซื้อ-ขายทั้งสิ้น 34,850.41 ล้านบาท โดย 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูง คือ ปตท. ปิดที่ 214.00 บาท เพิ่มขึ้น 28.00 บาท ธนาคารไทยพาณิชย์ ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท ธนาคารกรุงเทพ ปิด 113.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท ธนาคารกสิกรไทย ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท และธนาคารกรุงไทย ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์