ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (18 ธ.ค.) ร.ต.ท.ปรีชา หาสังข์ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.ธวัชชัย ล้อมวงษ์ อายุ 42 ปี ตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการ 1 ศูนย์สืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อยู่บ้านเลขที่ 218/371 หมู่ 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้ต้องหาในคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนและยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นข้าราชการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้ในความผิดนั้น หรือเป็นข้าราชการร่วมมือสนับสนุนในการกระทำดังกล่าว ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้ สำหรับความผิดนั้น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ ภรรยาของตน โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงของผู้ถูกข่มขืนใจ จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการ ไม่กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ไปยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน
ในคำร้องขอฝากขัง บรรยายความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.49 เวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) และ กก.สส.บก.น.2 ร่วมกันจับกุมตัว พ.ต.ท.ธวัชชัย ล้อมวงษ์ ได้ที่ห้องพักเลขที่ 8/5 แฟลตตำรวจซอยคุณหญิงพหล แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หลังจาก น.ส.แอ๋ม (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส. ว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 49 เวลากลางคืน ถูก พ.ต.ท.ธวัชชัย บังคับให้เสพยาเสพติดจนมึนเมา ไม่สามารถคุมควบตัวเองได้ จากนั้น พ.ต.ท.ธวัชชัยได้ข่มขืนกระทำ ชำเรา พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวีดิโอเก็บไว้
ต่อมาวันที่ 16 ธ.ค.49 พ.ต.ท.ธวัชชัยนัดให้ น.ส.แอ๋มไปพบที่ห้องพักเลขที่ 8/5 แฟลตตำรวจซอยคุณหญิงพหลอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงซ้อนแผนจับกุม โดยให้ผู้เสียหายเคาะประตูห้องพักของ พ.ต.ท.ธวัชชัย ก่อนจะบุกเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก ตามหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 853/2549 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 49 ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนและยาไอซ์) จำนวน 78 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) 1 ห่อ ปืนพกสั้น ออโตเมติก ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท 2513848 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด ปืนพกสั้นขนาด .380 นิ้ว หมายเลขทะเบียน กท 3916422 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 นิ้ว จำนวน 9 นัด จึงควบคุมตัวดำเนินคดี ในการสอบสวนเบื้องต้น พ.ต.ท.ธวัชชัยให้การปฏิเสธ
พนักงานสอบสวนระบุในคำร้องฝากขังว่า การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องรอสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางและผลพิมพ์มือผู้ต้องหา ด้วยความจำเป็นดังกล่าว จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.-29 ธ.ค. 49 ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาขอประกันตัวในชั้นศาล พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เมื่อได้รับการประกันตัวออกไป ผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังได้
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 เปิดเผยถึงการจับกุม พ.ต.ท.ธวัชชัยว่า คดีนี้ได้รับการประสานจากตำรวจ ปดส. ว่า น.ส.แอ๋ม ผู้เสียหาย นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. ว่าถูก พ.ต.ท.ธวัชชัย ล้อมวงษ์ สว.ศสส.สตม. หลอกให้เสพยาบ้าจนหมดสติแล้วขืนใจ พร้อมทั้งถ่ายคลิปวีดิโอเก็บไว้ เหตุเกิดที่แฟลตข้าราชการตำรวจส่วนกลาง ด้านหลัง บช.ศ. ส่วน พ.ต.ท.ธวัชชัยก็เสพยาเสพติดหลายชนิดเป็นประจำ เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน จึงประสาน บก.น.2 ให้ดำเนินการ เนื่องจากมีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ต่อมาได้นัดผู้เสียหายมาสอบถามรายละเอียด ผู้เสียหายบอกว่ารู้จักกับ พ.ต.ท.ธวัชชัย หรือสารวัตรล้อม ครั้งแรกในผับย่านรัชดาฯ จากนั้น พ.ต.ท.ธวัชชัยพาไปที่ห้องพักแฟลตตำรวจ แล้วผสมยาบ้าในน้ำให้ดื่มจนหมดสติ เสร็จแล้วข่มขืน พร้อมทั้งถ่ายคลิปวีดิโอขณะร่วมเพศเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ
ผบก.น.2 กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น พ.ต.ท.ธวัชชัยจะโทรศัพท์ไปหา ชักชวนเหยื่อสาวไปร่วมหลับนอนที่ห้องพักเป็นประจำ หากปฏิเสธก็จะข่มขู่ว่าจะนำคลิปวีดิโอไปเผยแพร่ให้เสียหาย ด้วยความกลัว ผู้เสียหายต้องจำยอมไป แต่ในระยะหลังถูกชักชวนหนักขึ้นเรื่อยๆจนทนไม่ไหว นำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อ ผบก.ปดส.ให้ช่วยเหลือ โดยในระหว่างที่ผู้เสียหายให้ปากคำกับตำรวจ พ.ต.ท. ธวัชชัยยังโทรศัพท์ไปชักชวนผู้เสียหายอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานในสำนวนคดี จากนั้นมอบหมายให้ ร.ต.อ.เสน่ห์ มณีฉาย รอง สว.สส.น.2 ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 นำกำลังพร้อมหมายค้น เข้าตรวจสอบในห้องพักของ พ.ต.ท.ธวัชชัย ปรากฏว่าพบ พ.ต.ท.ธวัชชัยกำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่ในห้องสภาพมึนสะลึมสะลือ โดยพบยาบ้า 78 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง กัญชา 1 ห่อ พร้อมอุปกรณ์การเสพยาชนิดต่างอีกๆ 6 ชุด รวมทั้งอาวุธปืนซึ่งไม่ใช่ปืนของ พ.ต.ท.ธวัชชัยอีก 2 กระบอก จึงควบคุมตัวส่ง สน.พหลโยธิน ดำเนินคดี โดยเบื้องต้นพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วงด้วย ส่วนการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท.ธวัชชัยจำนวน 3 เครื่อง พบคลิปวีดิโอขณะร่วมเพศกับผู้เสียหายหลายไฟล์ รวมทั้งรูปถ่ายคู่กับผู้เสียหาย นอกจากนี้ ยังมีการนำคลิปวีดิโอไปถ่ายโอนเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอีกด้วย ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขอไปให้การในชั้นศาล จึงส่งตัวดำเนินการตามขั้นตอน
พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผบช.สตม. กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง สตม.ต้องดำเนินการทางวินัยร้ายแรงกับ พ.ต.ท. ธวัชชัยอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้เสียหายแจ้งความดำเนิน คดีทางอาญาว่ามีการแบล็กเมล์ถ่ายภาพอนาจารไว้เพื่อข่มขู่ให้เกิดความเสียหาย มีหลักฐานภาพถ่ายด้วยโทรศัพท์ มือถือ และมียาเสพติดไว้ในความครอบครองด้วย ซึ่งถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ยาเสพติดของกลางทางราชการ ถือเป็นความผิดร้ายแรง โทษของการมียาเสพติดไว้ในความครองของเจ้าหน้าที่มีมากกว่าประชาชนทั่วไป ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง เป็นนายตำรวจด้วยแล้วต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี ดังนั้น สตม.จะดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการคนอื่นต่อไป ทั้งนี้ จะมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ธวัชชัยออกจากราชการไว้ก่อนต่อไป
สำหรับ พ.ต.ท.ธวัชชัย ล้อมวงษ์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เป็นที่รู้กันว่าเป็นเด็กของนักการเมืองคนหนึ่ง
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์