การกลับมาของเวย์น รูนี่ย์ ทำให้อังกฤษคึกคักขึ้นมาทันที แม้ว่าสภาพจะยังไม่เต็มถัง ก็อ่านเกมล่วงหน้าได้ว่าคงดีขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะใกล้เคียงจุดที่ดีที่สุดเมื่อสู่รอบน็อคเอ๊าต์
ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรอีก สิงโตคำรามคงได้เห็นรูนี่ย์ตัวจริงประมาณรอบ 8 ทีมโน่นแหละครับ
แต่เมื่อเจ้ารูนคัมแบ๊ค ก็หมายความว่า อังกฤษต้องปรับตัวผู้เล่นกันใหม่ และจะมีบางคนโดนเด้งออกไปจากทีมอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าตีกรอบเฉพาะส่วนของนักเตะ รายที่ต้องระวังว่าจะโดนตัดมากหน่อย ย่อมไม่พ้นคู่หัวหอก ปีเตอร์ เคร้าช์ หรือไมเคิล โอเว่น คนใดคนหนึ่ง
ตรงนี้ขึ้นอยู่กับ สเวน โกแรน-อีริกส์สัน ว่าจะเลือกอะไร
ถ้าเอาความฟิตสมบูรณ์ เคร้าช์ได้เปรียบเห็นๆ แต่ถ้าต้องการชื่อไว้ขู่ และยอมซื้อใจกันเรื่องความฟิต โอเว่นก็ยังเหลื่อมอยู่พอสมควร
คิดกันง่ายๆ ใครกล้าดร็อป ไมเคิล โอเว่น เป็นตัวสำรอง หมอนั่นต้องใจหินจริงๆ ยกเว้นจะมีปัญหาเรื่องเจ็บค่อยว่าไปอย่าง
แต่ก็แน่นอนว่าถ้าเลือกแบบนั้น มันก็เสี่ยงที่อังกฤษจะมีหัวหอกสภาพไม่เต็มถังทั้งคู่ และแม้จะเป็นยอดดาวยิงระดับโอเว่น + รูนี่ย์ แต่ถ้าฟิตแค่คนละ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าไว้ใจสักเท่าไหร่
สเวน โกแรน-อีริกส์สัน ต้องบวกลบคูณหารให้ดี
นอกจากการเลือกคนที่ใช่ลงสนาม สเวนยังปวดหัวกับการใช้แท็คติกให้เหมาะกับสภาพของรูนี่ย์ด้วยอีกเรื่อง
ปกติแล้ว จอมอวบแมนฯยู จะชอบมีอิสระเหมือนตัวฟรีที่ลงมาต่อบอลกับมิดฟิลด์ ก่อนจะบุกเข้าโจมตีจากแถวสองมากกว่ายืนค้ำอยู่หน้าสุด แต่ถ้าจะเล่นแบบนี้ รูนี่ย์ต้องแข็งแกร่งเต็มร้อยจริงๆ และเหมาะจะเล่นคู่กับไมเคิล โอเว่น ที่ร่างกายฟิตเปรี๊ยะเท่านั้น
แต่หากโอเว่นไม่พร้อม จอมเก้งก้าง ปีเตอร์ เคร้าช์ ก็จะเหมาะสมกับบทบาทมากกว่า เพราะถนัดกับการเป็นตัวเป้า ตัวพักบอลมาตลอดอยู่แล้ว
ทุกอย่างมันเชื่อมโยงเกี่ยวกันเป็นลูกโซ่ซะอย่างนี้
สำหรับผม, ถ้ามองจากความเป็นจริง เคร้าช์คู่รูนี่ย์ น่าจะเป็นทางเลือกที่เนียนที่สุด
หัวหอกหงส์แดงอาจจะดูขวางหูขวางตาไปบ้าง แต่อย่างน้อย เขาก็เก็บบอลค่อนข้างแน่นอน ทำให้พรรคพวกมีเวลาเติมขึ้นมาข่วยยิงได้มากขึ้น
สไตล์ของเคร้าช์เหมาะกับรูนี่ย์แน่ๆ แต่ถ้ากุนซืออีริกส์สันไม่เอา ก็คงเป็นเพราะห่วงว่าทีมจะขาดเพชฌฆาตตัวสังหารประตูไป
ปีเตอร์ เคร้าช์ พักบอลได้ดีกว่า แต่เทียบความเด็ดขาดกับไมเคิล โอเว่น แล้ว ก็ยังเป็นรองอยู่ ตรงนี้หมายถึงโอเว่นต้องปึ้กพอด้วยนะครับ
เงื่อนไขของอังกฤษที่มีรูนี่ย์ จึงทั้งน่ายินดีและน่าปวดหัวพอๆ กัน
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์