ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.20 น. วานนี้ (9 ธ.ค.) พ.ต.ท.วิเชียร ไตรโลกา สารวัตรเวร สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าหน้าหมู่บ้านศุภลักษณ์พาณิชย์โฮม ถนนบางขันธ์-คลองห้า (ขาเข้า) หมู่ 6 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองคลองหลวง 3 คัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์เวร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีเทา ทะเบียน กง 3937 ปทุมธานี สภาพรถพังยับไม่มีชิ้นดี หลังคาเปิดประตูฉีก อัดก๊อบปี้ติดคาอยู่กับเสาไฟฟ้า ภายในซากรถพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ถูกไฟคลอกร่างดำเป็นตอตะโก ศพแรกเป็นชายตกลงมาอยู่ข้างประตูคนขับ ศพที่ 2 เป็นหญิงเสียชีวิตอยู่ที่เบาะนั่งด้านหลังซ้าย สภาพขาซ้ายห้อยออกมานอกประตูรถ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถคันดังกล่าวได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าขาด 2 ต้น โดยเสาไฟฟ้าต้นที่ 2 ถูกชนขาด 2 ท่อน แล้วล้มลงมาทับซากรถ เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าว ทราบชื่อผู้ครอบครองรถ คือนายศักดิ์ชัย วีรปิณ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ซ.รังสิตปทุมธานี 14 ซ.3 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจไปแจ้งเหตุให้ทราบ
ต่อมาเวลา 06.30 น. นายศักดิ์ชัย วีรปิณ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.อ.คลองหลวง พร้อมให้การว่า รถเก๋งคันดังกล่าวเป็นของตน ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ เป็นลูกชายกับลูกสาว ชื่อนายนพรัตน์ วีรปิณ อายุ 21 ปี ลูกชายเป็นคนขับรถ และกำลังศึกษาอยู่คณะบริหารธุรกิจ ปี 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนลูกสาวชื่อ น.ส.วราลักษณ์ วีรปิณ อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี 1 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ (เอแบค) ส่วนตนประกอบธุรกิจ เป็นเจ้าของบริษัทศักดิ์ชัยคิ้วล้อรถกรุงเทพฯ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 34/5 หมู่ 4 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผลิตคิ้วล้อรถยนต์ส่งออกประเทศ สหรัฐอเมริกา มีลูกชายกับลูกสาวเพียง 2 คน คือผู้เสียชีวิตทั้งคู่
พ่อผู้สูญเสียลูก 2 คนไปพร้อมๆ กันเล่าต่อไปว่า รถเก๋งคันดังกล่าวตนซื้อให้กับลูกชายตอนที่สอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ และกำลังจะซื้อรถยนต์ คันใหม่ให้กับลูกสาวอีกคันเร็วๆ นี้ เนื่องจากลูกสาวสอบติดมหาวิทยาลัยเอแบค รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องสูญเสียลูกทั้ง 2 คนไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยเฉพาะลูกชายใกล้จะเรียนจบและจะรับปริญญาในปีหน้า แต่กลับต้องมาเสียชีวิตก่อนพร้อมกับน้องสาวเพราะความประมาท ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุเมื่อเย็นวานลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่าวันนี้ขอกลับดึกหน่อยจะไปเยี่ยมเพื่อนที่ รพ.สมิติเวช และจะไปงานเลี้ยงกับเพื่อนต่อ โดยพี่ชายจะไปรับที่มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียนแล้วไปด้วยกัน ช่วงเกิดเหตุลูกชายกับลูกสาวกำลังขับรถกลับบ้าน สำหรับศพของลูกทั้ง 2 คนจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเขียนเขต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ด้าน พ.ต.ท.วิเชียร ไตรโลกา เจ้าของคดี กล่าวว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสันนิษฐานว่า ผู้ตายขับรถด้วยความเร็ว ประกอบกับเมื่อคืนฝนตกหนักถนนลื่น ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟ ซึ่งมี รปภ.ของหมู่บ้านเห็นเหตุการณ์ ว่า รถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว แล้วเสียหลักหมุนเคว้งอยู่กลางถนน ก่อนไปฟาดกับเสาไฟฟ้าต้นแรกขาด แล้วพุ่งชนเสาไฟต้นที่ 2 จนขาด 2 ท่อนล้มลงมาทับซากรถเก๋ง และเกิดประกายไฟกระเด็นไปติดน้ำมันเบนซินที่รั่วออกมา ทำให้เกิดไฟลุกพรึบไหม้ซากรถย่างสดคนทั้ง 2 ตายสยองดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะได้ส่งศพ 2 พี่น้องไปตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกายที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อดูว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และจะได้ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากเรื่องใดแน่
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์