หลังจากไต้ฝุ่น ?ทุเรียน? เข้าถล่มฟิลิปปินส์และเวียดนามจนผู้คนล้มตายบ้านเรือนพังพินาศและมีทิศทางพุ่งเข้าไทย ขณะเดียวกันลดความแรงเป็นเพียงดีเปรสชัน อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเกรงว่าจะทำให้เกิดความเสียหายกับหลายจังหวัดทางภาคใต้ที่พายุพัดผ่าน ได้ประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมอพยพไปอยู่ ในพื้นที่ปลอดภัย
ความเคลื่อนไหวเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เกิดลมกระโชกแรงและฟ้าคะนอง ฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่า 10 ชั่วโมง น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลลงคลองช้างแรก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลบางสะพาน อ.บางสะพานน้อย สูง 30 เซนติเมตร ส่วนในที่ลุ่มระดับน้ำสูงถึง 80 เซนติเมตร นายประจินต์ ธารศิริสิน นายอำเภอบางสะพานน้อยกล่าวว่า มีคอสะพานในเขตตำบลช้างแรกและบ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัดหลังคาปลิวไปตามแรงลม
นายอำเภอบางสะพานน้อยกล่าวต่อไปว่าส่วนในเขตเทศบาล ซึ่งเป็นทางน้ำไหลผ่านเสียหายไม่มากนักเพราะชาวบ้านรู้ตัวขนข้าวของหนีทัน ได้สั่งให้ผู้นำท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยประชาชนในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม และเฝ้าติดตามสถานการณ์เพราะฝนตกหนักทั้งวัน และคาดว่าจะตกเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง และเมื่อเวลาประมาณ 10.15 น. เกิดฟ้าผ่าหลังคาโรงพยาบาลบางสะพานน้อย สร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยจำนวนมาก อุปกรณ์ไฟฟ้า โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์เสียหาย
นอกจากนี้น้ำยังไหลท่วมเขตเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน นายแพทย์อนุเทพ มาโลตรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางสะพานได้ประสานกับโรงพยาบาลใกล้เคียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักไปยังโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ส่วนผู้ป่วยที่ยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่อีก 50 ราย ได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้เคียงแห่งละ 10 ราย สำหรับผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นพอกลับบ้านได้ก็ให้รีบกลับบ้านไปก่อน พร้อมกันนั้นขอสนับสนุนกำลังคนจากหลายหน่วยงานขนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์ไปไว้ชั้นบนของอาคาร
ที่ จ.ชุมพร นายธีระ สี่พร หัวหน้าวิทยุประมงชายฝั่งจังหวัดชุมพรเปิดเผยว่า มีเรือลากจูง 1 ลำ ชื่อเรือสายชล ลากเรือโป๊ะเหล็กบรรทุกสินค้า 7 ลำ บรรทุกสินค้าจาก จ.สมุทรปราการ ไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ปกติจะแล่นในเขตน้ำลึก แต่ขากลับหลบคลื่นลมที่พัดแรงเนื่องจากอิทธิพลของพายุทุเรียน เข้ามาที่อ่าวแหลมเทียน หมู่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร
นายธีระกล่าวต่อไปว่าด้วยความที่ไม่ชำนาญเส้นทาง ประกอบกับคลื่นลมแรงจัดทำให้ชนแนวหินโสโครกจนเกยขึ้นไป 4 ลำ ส่วนเรือโป๊ะเหล็กอีก 4 ลำ ต้องจอดทอดสมอหลบพายุอยู่หน้าเกาะเสม็ดห่างจากฝั่งประมาณ 800 เมตร จึงแจ้งไปยังหลายหน่วยงานให้ช่วยเหลือ แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นเขตน้ำตื้นและมีโขดหินเป็นแนวยาว อีกทั้งคลื่นสูง 3-4 เมตร เกรงว่าเรือที่จะส่งออกไปช่วยจะกระแทกกับโขดหินอับปางลง
ขณะที่นายสมพร ปัจฉิมเพชร ป้องกันจังหวัดชุมพรกล่าวว่า นายพินัย อนันตพงศ์ ผวจ.ชุมพรสั่งให้เร่งช่วยเหลือแต่ยังไม่สามารถติดต่อกับกัปตันเรือดังกล่าวได้ คาดว่าวิทยุสื่อสารคงเสียหาย สำหรับพื้นที่บนฝั่งที่ได้รับรายงานความเสียหาย เนื่องจากกระแสลมแรงมีที่หมู่ 9 บ้านดอนสอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร หลังคา และฝาผนังบ้านปลิวว่อน และที่อ่าวทุงซาง หมู่ 5 ต.ชุมโค อ.ปะทิว มีนักเรียนอายุ 13 ปีลงไปเล่นน้ำแล้วถูกคลื่นซัดหายไป
ส่วนนายพินัย อนันตพงศ์ ผวจ.ชุมพรกล่าวว่าสั่งให้นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอของ จ.ชุมพร แจ้งเตือนประชาชนระวังน้ำป่าและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะ อ.ละแม ที่อยู่เชิงเขา นอกจากนี้สั่งห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง เพราะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง สำหรับเรือบรรทุกสินค้าที่เกยหินโสโครกนั้น ต้องรอให้คลื่นลมสงบก่อน
สำหรับ จ.สุราษฎร์ธานี ในเขตพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานีและใกล้เคียง มีฝนตกหนักเวลา 03.30 น. เป็นเวลา 30 นาที ส่วนที่ อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงันฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง แต่ยังระบายน้ำได้ เจ้าหน้าที่จากอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตทุกแห่งบนชายหาดเฉวง หาดละไม อ.เกาะสมุย และหาดริ้น หาดโฉลกหลำ อ.เกาะพะงัน ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเนื่องจากลมแรงและคลื่นสูง 2-4 เมตร
ขณะเดียวกัน เรือนำเที่ยว เรือโดยสาร และเรือสปีดโบ๊ตที่แล่นในเส้นทางเกาะเต่า-ชุมพร รวมทั้งเรือโดยสารกลางคืน หรือเรือนอนเส้นทางสุราษฎร์ธานี-เกาะสมุย-เกาะพะงัน-เกาะเต่า ประกาศหยุดเดินเรือชั่วคราว ส่วนเรือเฟอร์รี่ยังให้บริการตามปกติ ก่อนหน้านี้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เรือนอนโดยสารชื่อแสนดีมณีทรัพย์ 7 ออกจากท่าเรือเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานีนำนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากข้ามไปเกาะเต่า แต่เจอคลื่นลมแรงกลางทะเลใกล้หมู่เกาะอ่างทองต้องนำเรือย้อนกลับเข้าฝั่ง เพราะเกรงอันตราย
นายเดชา กังสนันท์ นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ได้ประกาศห้ามเรือสปีดโบ๊ตรับนักท่องเที่ยวจากเกาะสมุยไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดริ้น อ.เกาะพะงัน ในคืนวันที่ 6 ธ.ค. เพื่อความปลอดภัย เพราะคลื่นสูงและลมแรง หากใครฝ่าฝืนจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดและเพิกถอนใบอนุญาต สำหรับกรณีที่ฝนตกหนักได้มีแผนงานเตรียม พร้อมรับสถานการณ์แล้ว
ส่วนนายบุรี ธรรมรักษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะพะงัน กล่าวว่า ยังไม่มีปัญหานักท่องเที่ยวตกค้างบนเกาะ เพราะยังสามารถเดินทางไปกับเรือเฟอร์รี่และเรือโดยสารขนาดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม การจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ยังมีตามปกติ แต่นักท่องเที่ยวลดลงเหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นายประเวศ ไทยประยูร นายอำเภอเกาะพะงัน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการสถานที่พักทุกแห่งช่วยดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติและห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงงานฟูลมูนปาร์ตี้อย่างเด็ดขาด
ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะพะงันกล่าวอีกว่า เตรียมกำลังอาสาสมัครและ อปพร.ประมาณ 60 นาย ไปสนับสนุนพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากและอาจเกิดอันตราย ล่าสุดได้ ทำหนังสือด่วนแจ้งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ประจำ อำเภอเกาะสมุย ให้เข้มงวดเรือต้นทางที่จะนำนักท่องเที่ยวข้ามมาส่งยังเกาะพะงัน เพราะหากปล่อยปละละเลยและเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
ด้านนายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว ผวจ.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า ประกาศห้ามเรือท่องเที่ยวและเรือประมงขนาดเล็กออกจากฝั่ง และให้ทุกอำเภอเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่ภูเขาสูง ที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระวังฝนตกหนักและน้ำป่าโดยเฉพาะดินถล่ม
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนว่าพายุดีเปรสชัน ?ทุเรียน? มีศูนย์กลางบริเวณ จ.ชุมพรตอนล่าง และเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าศูนย์กลางของพายุจะเคลื่อนสู่ จ.ระนอง ทำให้มีฝนตกหนักใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา ประชาชนต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าในช่วงวันที่ 6-7 ธ.ค. สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์