สังคมเศร้าเยาวชนไทยเด็กนักเรียนชายม.3 รวม 5 คนลวงเพื่อนด.ญ.ไปขืนใจและถ่ายคลิปประจานทั่วโรงเรียน แฉเพื่อนหญิงเป็นนางนกต่อล่อให้หนีเรียนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ผสมยาลงในน้ำให้ดื่ม ก่อนให้เพื่อนชายลากเข้าห้องขืนใจยับ เท่านั้นยังไม่พอเรียกเพื่อนน.ร.ชายอีก 4 คนมารุมโทรมซ้ำ พร้อมถ่ายคลิปมือถือแจกจ่ายทั่วโรงเรียน ผู้ปกครองทราบเรื่องพาเข้าร้องครูยุ่นได้หลักฐานคลิปวิดีโอ พาเข้าแจ้งตร.ตามจับแก๊งเด็กนรกมาดำเนินคดีให้หมด ส่วนอีกรายด.ญ.วัย 13 ปีถูกแก๊งจยย.ลวงไปขืนใจในสวนมะม่วง ก่อนทุบหัวแล้วจับโยนท้องร่องหวังฆ่าปิดปาก แต่โชคดีมีพลเมืองดีมาพบช่วยพาส่งร.พ.ได้ทันแต่อาการยังสาหัส ค้นในตัวเจอแค่ตั๋วหนัง 2 ใบเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินและหลักฐานอื่นๆ ถูกแก๊งโฉดฉกไปด้วย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก อดีตส.ว.สมุทรสงคราม ได้พาด.ญ.เอ(นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสงคราม เข้าพบพ.ต.ท.ชยุตม์ นิติวัฒนานนท์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อให้ปากคำกรณีถูกล่อลวงไปขืนใจในลักษณะโทรมหญิง โดยมีผู้ก่อเหตุรวม 6 คน ประกอบด้วย ด.ช.จี(นามสมมติ), ด.ช.กมล(นามสมมติ), ด.ช.ศักดิ์(นามสมมติ), ด.ช.เจ(นามสมมติ), ด.ช.แบงก์(นามสมมติ) และด.ญ.พร(นามสมมติ) ทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนเดียวกัน นอกจากนี้ ยังถ่ายคลิปวิดีโอขณะขืนใจทางมือถือเผยแพร่ในหมู่เพื่อนนักเรียนด้วย จนด.ญ.เอได้รับความอับอายจนไม่กล้าไปโรงเรียน
ด.ญ.เอ ให้การว่า เมื่อเช้าวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะอยู่ที่โรงเรียน ด.ญ.พรโทรศัพท์มาหาเพื่อนให้บอกตนหนีโรงเรียนเพื่อไปเที่ยวบ้านด.ช.เจ ในซอยวัดบางประจันต์ อ.เมืองสมุทราสาคร โดยตนนั้นแอบชอบพอด.ช.จีอยู่แล้ว จึงยอมหนีเรียนเดินทางไปตามนัด เมื่อไปถึงพบเพื่อนชายของด.ญ.พรอีก 2 คนรวมอยู่ด้วย มีการนั่งกินหมูกะทะ ระหว่างนั้นด.ญ.พรนำน้ำส้มมาให้ดื่ม สักพักรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ด.ช.จีจึงพาเข้าไปนอนพักในห้องนอน จากนั้นก็ลงมือขืนใจจนสำเร็จความใคร่
เหยื่อกาม ให้การอีกว่า เมื่อออกมาพบด.ญ.พร เพื่อนหญิงนั่งอยู่กับแฟนหนุ่ม สักพักด.ญ.พรก็โทรศัพท์ไปเรียกด.ช.กมล กับเพื่อนจำนวนหนึ่งเดินทางมา จากนั้นด.ช.จีก็พาตนเข้าห้องไปขืนใจอีกครั้ง ระหว่างนั้นด.ช.กมล, ด.ช.เจ, ด.ช.ศักดิ์ และด.ช.แบงก์ ก็ตามเข้ามาและร่วมลงมือขืนใจจนสำเร็จความใคร่ครบทุกคน ระหว่างนั้นเห็นบางคนถือโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วย แต่ยังไม่ทราบว่ามีการถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกกันไป และให้ด.ช.จีมาส่งตนที่ท่ารถเพื่อเดินทางกลับบ้าน พร้อมขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร
ด.ญ.เอ ให้การอีกว่า ด้วยความอับอายจึงไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร กระทั่งต่อมาเพื่อนมาบอกว่าเห็นภาพของตนถูกข่มขืนอยู่ในคลิปวิดีโอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่งต่อกันทั้งโรงเรียนรวมไปถึงโรงเรียนอื่นด้วย จนครูทราบเรื่องจึงเรียกทั้งหมดมาสอบถาม ก่อนที่จะแจ้งผู้ปกครองของตนทราบ และแนะนำให้หยุดเรียนไว้ชั่วคราว เพราะเกรงว่าจะเกิดความเสียหายขึ้น ทำให้แม่ตัดสินใจนำเรื่องมาปรึกษาครูยุ่น
ด้านนายมนตรี กล่าวว่า หลังรับการร้องเรียนได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสืบสวน กระทั่งได้คลิปมือถือดังกล่าวมาเป็นหลักฐาน จึงตัดสินใจพาเด็กเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหายและติดต่อไปยังเด็กที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด เพื่อเรียกตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป
เหตุข่มขืนเด็กอีกรายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินทางไปยังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อเยี่ยมอาการด.ญ.แอน(นามสมมติ) อายุ 13 ปี ซึ่งถูกคนร้ายลวงไปข่มขืนในสวนมะม่วง อ.ปากเกร็ด และทำร้ายร่ายกายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยด.ญ.แอนยังนอนไม่ได้สติต้องให้ออกซิเจนและน้ำเกลือตลอดเวลา แพทย์แจ้งว่าถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ และมีรอยฟกช้ำทั่วตัว
พ.ต.อ.วิสูตร กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบด.ญ.แอนอยู่ในร่องสวนมะม่วงใกล้จมน้ำจึงช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาล พบร่องรอยถูกข่มขืน เสื้อผ้าฉีกขาด ในตัวไม่พบหลักฐานหรือทรัพย์สินใดๆ นอกจากตั๋วหนัง 2 ใบของโรงหนังเมเจอร์ฯ ปากเกร็ด เข้าชมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. คาดว่าน่าจะถูกแก๊งวัยรุ่นลวงมาขืนใจหลังออกจากโรงหนัง ก่อนลงมือทำร้ายและจับโยงลงร่องน้ำเพื่อฆ่าปิดปาก แต่ยังโชคดีที่มีคนมาพบช่วยเหลือไว้ได้ ซึ่งตำรวจต้องรอให้ผู้บาดเจ็บได้สติขึ้นมาถึงจะสอบถามรายละเอียดเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์