หลังจากที่ดาราตลกและนักแสดงตัวประกอบละครทีวี ?เต๋อ เชิญยิ้ม? หรือนายสันติ สมบัติ อายุ 44 ปี นักแสดงตลกและดาราตัวประกอบละครทีวีเรื่องเป็นต่อ ทางช่อง 3 หอบลูกเมียเข้าขอความช่วยเหลือจากชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม ให้ช่วยติดตามหาตัวนายรังสรรค์ สมบัติ อายุ 67 ปี พ่อผู้ให้กำเนิด ซึ่งยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากัน เนื่องจากพ่อแยกทางกับแม่ ตั้งแต่แม่ของเต๋อตั้งครรภ์ได้เพียง 3 เดือนนั้น
ปรากฏว่าในที่สุดพ่อลูกก็ได้พบหน้ากันแล้วด้วยความปลื้มปีติ โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท. ชยุทธ มารยาตร์ รอง ผกก.สส.สน. ดินแดง และนายไพโรจน์ เทศนิยม ประธานชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม ได้พาเต๋อ เชิญยิ้ม เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 1/16 หมู่ที่ 3 ชุมชนกระทุ่มเสือปลา ซอยอ่อนนุช 67 แขวงและเขตประเวศ กทม. หลังจากตรวจสอบจนแน่ชัดว่าเจ้าของบ้าน คือนายรังสรรค์ หรือเปี?ยก สัมมาบัติ อายุ 67 ปี น่าจะเป็นพ่อของเต๋อ เชิญยิ้ม ที่กำลังติดตามหาตัวอยู่ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา ใต้ถุนขุดบ่อเลี้ยงปลาสวาย
ทันทีที่เต๋อ เชิญยิ้ม พบหน้านายรังสรรค์ เจ้าของบ้าน ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัว ถึงกับน้ำตาไหลพราก ตรงเข้าไปสวมกอดและกราบที่ตักของนายรังสรรค์ แล้วร่ำไห้ด้วยความตื้นตันใจ พร้อมกับถามนายรังสรรค์ว่าใช่พ่อของตนหรือไม่ ซึ่งนายรังสรรค์พยักหน้าแล้วตอบว่า ตนชื่อรังสรรค์ หรือเปี๊ยก สัมมาบัติ ตัวจริง จากนั้นหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ไม่มีอะไรมากหรอก แค่คน 2 คนไม่ได้เจอหน้ากันมานาน 40 ปี พร้อมกับหันไปบอกเต๋อว่า พ่อไม่ได้ทิ้งแม่ แต่เราต่างคนต่างเดิน พ่อไปบวชตอนที่แม่ท้อง และให้เต๋อมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่า ใช่พ่อแน่นอน
นายรังสรรค์ได้เปิดเผยเรื่องราวย้อนอดีตที่ผ่านมาว่า เมื่ออายุได้ประมาณ 17 ปี เคยเป็นเด็กอยู่ในคอกม้าของคุณนายเล็ก ย่านสนามเป้า และได้พบรักกับนางเพ็ญศรี แม่ของเต๋อ ซึ่งเป็นคนรับใช้คนสนิทของคุณ นายเล็ก และมีความสัมพันธ์กันเรื่อยมา แต่ต้องทำแบบลับๆ เพราะกลัวคนในบ้านจะรู้ จนกระทั่งอายุ 24 ปี ต้องไปบวชนานถึง 7 ปี ขณะนั้นนางเพ็ญศรีเองก็ตั้งท้องเต๋อได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว หลังจากสึกออกมา เคยไปตามหานางเพ็ญศรีกับลูกบ้าง แต่ไม่พบ จึงไม่ได้ติดตามหาอีก จากนั้นก็เร่ร่อนไปประกอบอาชีพหลายแห่ง ทำไร่บ้าง ทำนาบ้าง อยู่ในป่าบ้าง จนกระทั่งได้ไปทำงานที่องค์การโทรศัพท์เมื่อปี พ.ศ. 2511 จนเกษียณอายุราชการ
พ่อที่ได้พบหน้าลูกชายตลกดังกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เคยเห็นเต๋อแสดงตลก เล่นละครทางโทรทัศน์บ้าง แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า เต๋อเป็นลูกชายในสายเลือด จนกระทั่ง เมื่อประมาณปลายเดือนที่แล้ว ขณะที่กำลังนั่งดูมวยอยู่ ระหว่างพักยกเปลี่ยนไปดูข่าว เห็นข่าวที่เต๋อออกมาประกาศตามหาพ่อของตัวเอง โดยบอกว่าพ่อชื่อเปี๊ยก อยู่คอกม้า จึงแน่ใจว่า เต๋อต้องเป็นลูกชายของตนแน่นอน ไม่ต้องไปติดตามหาใครคนไหนอีกแล้ว แต่จะให้ไปป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นพ่อของตลกชื่อดังนั้นคงไม่ทำ สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด ?พ่อยินดีให้พาแม่มาเจอได้ทุกวัน และฝากเต๋อไปบอกแม่ด้วยว่า คิดถึง อะไรๆ ยังเหมือนเดิม พ่อยังเป็นสุนทราภรณ์เหมือนเดิม แต่ถ้าจะให้ขอโทษผ่านสื่อ คงไม่ทำ พ่ออยากจะ ขอโทษแม่ต่อหน้าด้วยตัวเอง? นายรังสรรค์กล่าวทิ้งท้าย
ด้านตลกเต๋อ เชิญยิ้ม กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า ก่อนหน้านี้แม่เคยบอกว่าให้พ่อเลิกดื่มเหล้า เลิกเล่นการพนัน ลูกจะได้เรียนหนังสือ แต่พ่อบอกกับแม่ว่า พ่อไม่ได้เรียน ลูกก็ไม่ต้องเรียนหรอก ทำมาหากินเองได้ ทำให้ แม่โกรธมาก เพราะคิดว่าพ่อเป็นคนไม่รับผิดชอบ หลังจากคลอดตนออกมาได้ 10 วัน แม่จึงพาตนกลับจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีเงินแค่ 20 บาทเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อเจอพ่อแล้ว หลังจากนี้อยากดูแลพ่อให้ดีที่สุด เพราะตนก็มีลูกเช่นกัน พร้อมกับกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยติดตามจนกระทั่งได้พบหน้าพ่อบังเกิดเกล้า
พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 กล่าวว่า เรื่องนี้ พ.ต.ท.ชยุธ มารยาตร์ รอง ผกก. สส.สน.ดินแดง รายงานให้ทราบว่า เป็นเรื่องที่ทางชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมให้ความสนใจ และประสานขอความช่วยเหลือมา จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.ชยุธเร่งสืบหาประวัติ โดยในตอนแรกใช้วิธีนำชื่อนายรังสรรค์ สมบัติ ตามที่นายสันติให้รายละเอียดไว้ ไปตรวจสอบในทะเบียนราษฎร แต่ก็ไม่พบชื่อดังกล่าว พ.ต.ท.ชยุธจึงลงพื้นที่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายสันติให้ข้อมูลว่า บิดาเป็นคนพื้นเพ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจหาคนชื่อนายรังสรรค์ ที่มีนามสกุลใกล้เคียงกับสมบัติ จนกระทั่งพบว่ามีชื่อนายรังสรรค์ สัมมาบัติ นามสกุลใกล้เคียงกันในที่สุด
ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ เดินทางไปพบนายรังสรรค์ที่บ้าน เพื่อพูดคุยสอบถามถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา พร้อมทั้งนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับเรื่องราวที่สอบถามจากนางเพ็ญศรี แม่ของเต๋ออีกด้านหนึ่ง ปรากฏว่าข้อมูลตรงกันทุกอย่าง เช่นอาศัยอยู่ในคอกม้าเดียวกัน หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่ทั้งคู่ พบรักกัน ทำให้มั่นใจว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกันอย่างแน่นอน เนื่องจากข้อมูลในเชิงลึกถูกต้อง เหลือเพียงอย่างเดียว คือการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เช่น ตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อยืนยันว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกันจริงอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์