ขับกระบะทับ ?กองผ้า?-พันใต้ท้องคว่ำสยอง ( ข่าวทั่วไป )

รถบรรทุกสะเพร่า ทำผ้าใบคลุมท้ายหล่นมากองกลางถนน หนุ่มดวงซวยขับปิคอัพตามหลังมา หลบไม่ทันขับเหยียบเข้าไปเต็มๆ ผ้าใบหลุดเข้าไปพันกับแกนเพลา ทำให้ล้อไม่หมุน รถเลยเสียหลักพลิกคว่ำ แถมยังกลิ้งไปทับรถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านที่จอดไว้ริมถนน พังยับไปด้วย แต่ยังโชคดีทั้งปิคอัพ ทั้งจยย. ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ต้องเสียค่าซ่อมรถหลายหมื่น หนุ่มเจ้าของปิคอัพบ่นอุบถึงคราวซวยจริงๆ

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. พ.ต.ต.ณฐกฤษ ชัยนันท์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองแพร่ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งจากนานชัยเดช อินทรรุจิกุล ว่าได้รับอุบัติเหตุรถยนต์ปิคอัพพลิกคว่ำและทับรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบนถนนสายเลี่ยงเมืองแพร่-ร้องกวาง หมู่ 4 ต.เมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ เลยสี่แยกสนามบินแพร่ไปเล็กน้อย ไม่ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงขอให้ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบด้วย

หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแจ้งไปยังหน่วยกู้ภัยแพร่ ก่อนจะร่วมกันไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บท 2052 แพร่ อยู่ในสภาพพลิกคว่ำกลางถนนสี่เลน ที่มีการจราจรหนาแน่น นอกจากนี้รถคันดังกล่าวยังได้ทับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กธล 105 แพร่ ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้แต่อย่างใด

จากการสอบสวนนายชัยเดช อินทรรุจิกุล อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 217 หมู่ 2 บ้านประทุม ต.เมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ ซึ่งเป็นเจ้าของรถปิคอัพดังกล่าว ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยความตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองขับรถปิคอัพกลับจากทำธุระที่บ้านร่องกาศ อ.สูงเม่น จะไปยังบ้านประทุม อ.เมือง โดยขับรถตามหลังรถปิคอัพบรรทุกของ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ซึ่งมีผ้าใบผืนใหญ่ปิดคลุมกระบะหลังรถ แต่จู่ๆ ผ้าใบถูกลมตีปลิวหล่นลงมากองอยู่ที่พื้นถนน ตนเองขับรถตามมาหลบไม่ทันจึงตัดสินใจขับทับผ้าใบดังกล่าว โดยไม่คาดฝันว่าผ้าใบจะเข้าไปพันกับเพลารถ ทำให้ล้อไม่หมุน เกิดการล็อกอย่างแรง จนทำให้รถยนต์ของตนเสียหลักพลิกคว่ำ ก่อนที่รถจะพุ่งไปชนกับหลักกันภัยข้างทาง และไหลไปทับรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ริมถนนเพื่อลงไปเกี่ยวข้าว จนได้รับความเสียหายไปด้วย แต่ก็ถือว่าโชคดี เพราะหากมีคนนั่งอยู่ต้องเสียชีวิตแน่ ส่วนตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ต้องมาเสียเวลาและเสียเงินซ่อมรถ คาดว่าคงหมดไปหลายหมื่นบาท ถือเป็นคราวซวยจริงๆ ต่อจากนั้นพนักงานสอบสวนได้บันทึกที่เกิดเหตุและคำให้การไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปดำเนินคดีต่อไป

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์