ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองนั้น วันที่ 27 พ.ย. เมื่อเวลา 14.15 น. ที่พรรคไทยรักไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงข่าวถึงกรณีที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหมแสดงความเห็นเรื่องยุบพรรคนั้น พรรคไทยรักไทยยืนยันท่าทีเดิมที่จะไม่แสดงความเห็นทางการเมืองใดๆ เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ จะทำเพียงเตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงตามข้อกฎหมายเท่านั้น โดยให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ผลจะออกมาเป็นอย่างไรพร้อมยอมรับ เรื่องนี้ รมว. กลาโหมจะแสดงความเห็นอย่างไร ไม่ขอตอบโต้ เพราะพรรคหยุดการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมานานแล้ว ท่านจะหยุดหรือไม่ ถือเป็นสิทธิของท่าน เมื่อถามถึงกรณีที่ รมว.กลาโหมพูดถึงการส่งน้ำเลี้ยงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ นายจาตุรนต์ตอบว่า เรื่องนี้ต้องให้นายนพดล ปัทมะ ใน ฐานะที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวชี้แจง แต่ทางพรรคไม่ได้ รับ ไม่เห็นจะได้รับอะไร
ไม่เชื่อตัดสิทธิ กก.บริหาร ทรท.
เมื่อถามว่า การแสดงความเห็นของ รมว.กลาโหมเป็นการชี้นำการตัดสินยุบพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ตอบว่า เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เมื่อถามว่า ทางพรรค ได้เชิญ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตแกนนำพรรค ที่พัวพันเรื่องนี้มาชี้แจงให้ข้อมูลกับพรรคแล้วหรือยัง นายจาตุรนต์ตอบว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคณะทำงานที่ดูแลเรื่องนี้ อยู่ ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด แต่เบื้องต้นพรรคได้ทำ คำชี้แจงไปแล้ว และหลังจากไปฟังหลักเกณฑ์การพิจารณา จากศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 พ.ย.นี้แล้ว ก็จะทำการหารือเพื่อชี้แจงแก้ต่างในแง่กฎหมายเพิ่มเติมอีกครั้ง เมื่อถามว่า กังวลในประเด็นที่มีการกำหนดว่าจะตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ของกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ตอบว่า เท่าที่หารือกันยังเชื่อว่าไม่น่าจะมีผลในเรื่องนี้ แต่ถือเป็นประเด็นทางข้อกฎหมายที่อาจจะต้องไปโต้แย้งในชั้นของศาลรัฐธรรมนูญ
ยันไปเมืองจีนไม่ได้พบ ?ทักษิณ?
นายจาตุรนต์กล่าวว่า จะเดินทางไปพักผ่อนที่คุนหมิง ประเทศจีน ในวันที่ 28-30 พ.ย.นี้ ยืนยันว่าไม่ได้ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด เพราะไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน ไม่ได้พบกันแน่นอน เพราะได้บอกไปแล้วว่าหากจะพบกัน ก็จะพบต่อเมื่อท่านกลับมาประเทศไทยแล้ว ไม่ ต้องการให้เรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง ส่วนการที่มีสมาชิกพรรคที่เป็นอดีต ส.ส.เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ต่างประเทศนั้น ก็ได้ฟังจากสมาชิกเพียงผิวเผินถึงการเดินทางไปดังกล่าว ซึ่งเห็นว่าไม่มีประเด็นอะไรต้องนำมาบอกกล่าว เป็นการเดินทางไปเยี่ยมผู้ใหญ่ธรรมดาในฐานะที่ผูกพันกัน แต่ทางพรรคไม่มีนโยบายจัดการส่งคนไปอยู่แล้ว
?ยงยุทธ-เนวิน? ไม่เกี่ยว ทรท.
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ฝ่ายทหารเพ่งเล็งมองคลื่นใต้น้ำมาที่แกนนำพรรคไทยรักไทย คือนายยงยุทธ ติยะไพรัช และนายเนวิน ชิดชอบ นายจาตุรนต์ตอบว่า ทางพรรคไม่ได้ติดต่อกับคนทั้ง 2 เลย ไม่มีการติดต่อมา หรือติดต่อไป และไม่มีความคิดที่จะติดต่อด้วย รมว. กลาโหมจะทำอะไรก็สามารถดำเนินการได้เลย และขณะนี้ 2 คนนั้นก็ไม่ได้เป็นแกนนำพรรคที่ทำงานอยู่ เพราะไม่ได้ติดต่อกับพรรคเลยจึงไม่อยู่ในสถานะที่เรียกว่าแกนนำพรรคไทยรักไทย เมื่อถามว่า ฝ่ายทหารยังระบุว่ามีสมาชิกพรรคไทยรักไทยเคลื่อนไหวใต้น้ำ นายจาตุรนต์ ตอบว่า ก็ว่ากันไป เราคงไม่สามารถไปควบคุมสมาชิกพรรคได้ทั้งหมด
เหน็บ คมช.อย่าระแวง ?ทักษิณ?
ทางด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงผลสำรวจเอแบคโพลที่ระบุคะแนน นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกต่ำมากเมื่อเทียบกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ว่า โพลดังกล่าวเป็นการสำรวจคะแนนนิยมด้านการเมือง เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศวางมือและยืน ยันเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแน่นอน โดยพูดผ่านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายครอบครัวชินวัตร และแหล่งข่าวต่างๆ ทำให้ประชาชนเชื่อคำพูดดังกล่าวแล้ว ทำให้เลิกคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเล่นการเมืองอีก จึงเป็นเหตุผลให้คะแนนนิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณลดลง โพลการเมืองก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้น กลุ่มคณะต่างๆก็ควรเชื่อใจและวางใจ พ.ต.ท.ทักษิณได้แล้วว่าจะไม่กลับมา โดยเฉพาะ คมช.ควรเลิกระแวงอดีตนายกฯจะเป็นคู่ แข่งและจะกลับมามีอำนาจทางการเมืองอีก ขอให้สบายใจแล้วเอาเวลาไปทำงานบริหารพัฒนาประเทศมากกว่าให้ ข่าวตอบโต้กับพรรคไทยรักไทยเรื่องคลื่นใต้น้ำ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งปรุงแต่ง ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น
ด่า รมต.บีเวอร์ปากซุกซน
น.ต.ศิธายังกล่าวถึงการที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม วิพากษ์วิจารณ์คดียุบพรรคว่าไทยรักไทยน่าจะถูกยุบ ว่า การออกมาพูดอย่างนี้ทำให้หลายฝ่ายทำงาน ลำบาก อย่าลืมว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเผด็จการ โดย พล.อ.บุญรอดเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดของทหาร การพูดเช่นนี้ทำให้ถูกมองได้ว่าก้าวก่ายฝ่ายตุลาการ ทั้งที่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ต้องอาศัยความเที่ยงตรง ไม่ว่าใครก็ตามไม่ควรคาดเดา ขอเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ใน ครม.และ คมช.ระมัดระวังคำพูดของตัวเองด้วย เพราะทุกวันนี้ทหารก็ถูกมองว่าครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว ไม่ทราบว่ายังจะครอบงำตุลาการอีกหรือ
?ฝากถึงรัฐมนตรีบีเวอร์ทั้งหลาย ให้สงบปากสงบคำบ้าง หากยังพูดมากจะเกิดผลเสียต่อประเทศได้ ขอให้ ดูตัวบีเวอร์เป็นตัวอย่าง ที่ปากซุกซน ชอบแทะต้นไม้มาขวางทางน้ำ สุดท้ายเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ดังนั้น ควรระมัดระวังคำพูดให้มากๆ? น.ต.ศิธากล่าว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์