ด้วยปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศเรามีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงปลอดภัยในทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อันส่งผลกระทบต่อภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศโดยตรง
ยิ่งเป็นช่วงอันซีนไทยแลนด์ยิ่งสร้างผลกระทบขึ้นอย่างกว้างขวาง
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางโดยพล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. นั่งคิดนอนคิดถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีนโยบายแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสัมฤทธิผลทั้งในเรื่องการสืบสวนจับกุมคนร้ายและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปราบปรามผู้กระทำผิด เป็นสิ่งที่ต้องเร่งกระทำและป้องปรามไม่ให้เกิด ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายกลายเป็นตัวทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวไทย
พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ จึงสั่งการให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว จัดตั้ง ?ศูนย์สืบสวนปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์? ขึ้น โดยคัดสรรเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฝีมือดีที่มีความรู้ความสามารถมาผนึกกำลังกันทำงาน ตามคำสั่งที่บก.ทท. 137/2549 เรื่องแต่งตั้งศูนย์สืบสวนปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีการประสานงานและร่วมปฏิบัติงานกับภาคเอกชน ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต คณะทำงานสายบริหารการป้องกันทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท อเมริกันเอ็กเพรส จำกัด (AMEX) และบริษัทบัตรเครดิตชั้นนำทั่วโลกอีกหลายบริษัท ตั้งเป็นชุดเฉพาะกิจทำหน้าที่กวาดล้างจับกุมแก๊งโกงบัตรเครดิตโดยเฉพาะ ซึ่งโจรบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านไอทีเป็นกรณีพิเศษ
ดังนั้น การที่จะจับโจรไฮเทคก็ต้องใช้ตำรวจไฮเทคไล่จับเช่นกัน
สำหรับศูนย์สืบสวนฯ ที่จัดตั้งขึ้นนี้ มีพล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผบก.ทท. เป็นผู้สั่งการ มีพ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รองผกก. 4 บก.ทท. เป็นหัวหน้าศูนย์, พ.ต.ท.ประพจน์ โชติ สว.ทท. 3 กก 2 บก.ทท. เป็นรองหัวหน้าศูนย์ ขอบเขตการทำงานสามารถออกปฏิบัติหน้าที่ได้ทั่วประเทศ มีตำรวจงานสืบสวนกองกำกับการ 1-5 ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานศูนย์
ภายหลังเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการต่างๆ ซึ่งอยู่ประจำพื้นที่ออกสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับคดีคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม
หลังจากนั้นไม่นานก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดชาวไทยและชาวต่างชาติได้ 2 ราย รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2549 จับกุมนายภูวนัย พรหมราช อายุ 33 ปี ตามความผิดฐานมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมแปลง ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่ใช้อ่านข้อมูลในบัตรเครดิตแล้วนำมาก๊อบปี้เพื่อนำไปรูดซื้อสินค้า ซึ่งเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เป็นของกลางในคดีนี้ หากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ จะสร้างความเสียหายต่อสถาบันการเงินในประเทศเป็นอย่างมาก
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2549 จับกุมผู้ต้องหาชาวศรีลังกา 3 คน ประกอบด้วย 1 นายซูธาน โพลนุชทรูไร อายุ 28 ปี นายโจนาฮาน ออฟพิลามานี่ อายุ 28 ปี และนายสาดา สิวาลินกาม อายุ 21 ปี ในความผิดฐานร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายสาดาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
การจับกุมครั้งนี้สามารถยึดของกลางในการกระทำผิดเป็นบัตรเอทีเอ็มซึ่งมีข้อมูลของผู้อื่นจำนวน 191 ใบ เงินสกุลไทยจำนวน 2,462,000 บาท และเครื่องมือไฮเทคในการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการจับกุมแก๊งคนร้ายต่างชาติรายแรกในเมืองไทย ที่นำบัตรเอทีเอ็มใส่ข้อมูลของบุคคลอื่นมากดเงินสดออกจากธนาคาร โดยพฤติกรรมคนร้ายแก๊งนี้จะตระเวนนำบัตรเอทีเอ็มปลอมไปกดเงินตามสถานที่ต่างๆ จากนั้นจะย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ ทำให้ยากต่อการติดตาม
เปิดศูนย์ได้ไม่นานก็ปฏิบัติการกวาดล้างได้ผู้ต้องหาหลายราย
สำหรับการทำงานในศูนย์ปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ตำรวจและตัวแทนชมรมธุรกิจบัตรเครดิต จะร่วมกันทำงานเป็นทีมแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ทำให้การทำงานเกิดประสิทธิผล ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะลดปริมาณการเกิดคดีเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ลงจากเดิมได้ในระดับหนึ่ง อันจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชนตามมา
จึงนับได้ว่าศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นงานใหม่ในการปฏิบัติงานของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวที่ต้องรับผิดชอบ และทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลลับเกี่ยวกับเครือข่ายคนร้ายไฮเทคเหล่านี้อยู่ในมือจำนวนมาก เพียงแต่รอพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก็จะสามารถกวาดล้างปราบปรามพวกที่เหลือได้
ตำรวจต้องปรับปรุงหน่วยงานและบุคลากรให้ทันสมัยในยุคโลกาภิวัตน์
ยุคที่คนร้ายอัพเดตตัวเองเป็นโจรไฮเทค!??
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์