ประชาชนชาวไทยต่างชื่นชมในพระจริยวัตรที่งดงามของมกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ขณะเสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อทอดพระเนตรงานมหกรรมพืชสวนโลกและทรงเข้ารับการทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์ ที่สภามหาวิทยาลัยรังสิต มีมติเป็นเอกฉันท์ ทูลเกล้าฯถวาย โดยมหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นถึงพระอัจฉริยภาพในด้านแนวคิดยุทธศาสตร์ การบริหารพัฒนาประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยพิธีทูลเกล้าฯถวายปริญญามีขึ้นพร้อมกับพิธีประสาท ปริญญาบัตรแก่บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาประจำปี 2549 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.
ทั้งนี้ พิธีทูลเกล้าฯถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์ แด่มกุฎราชกุมารจิกมี เริ่มขึ้นภายหลังที่เจ้าชายจิกมี เสด็จฯถึงอาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเวลา 11.30 น. โดยเจ้าชายจิกมีทรงสวมฉลองพระองค์ในชุดประจำชาติ มี พล.อ.ต.กำธน สินธวานนท์ นายกสภามหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี คณบดี และผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เฝ้ารับเสด็จ และนำเสด็จขึ้นประทับบนห้องรับรองก่อนเข้าพิธีในช่วงบ่าย
หลังจากทรงพักผ่อนตามพระอัธยาศัยและเสวยพระกระยาหารกลางวันแล้ว เจ้าชายจิกมีทรงเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นชุดครุยปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากนั้นได้ประทับรถกอล์ฟออกจากห้องรับ รองไปยังอาคารนันทนาการ เพื่อรับการทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาบัตร ตลอดสองข้างทางริมสนามฟุตบอลที่เสด็จฯผ่าน มีประชาชนที่รอชื่นชมพระบารมี โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ พากันส่งเสียงกรี๊ดที่ได้เห็นพระพักตร์ของเจ้าชายซึ่งมีพระสิริโฉมงดงาม พร้อมกับเปล่งเสียงถวายพระพรและโบกธงชาติไทยกับธงชาติภูฏานตลอดเส้นทาง ซึ่งเจ้าชายจิกมีทรงยกพระหัตถ์ไหว้อย่างเป็นกันเอง
นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี กล่าวคำประกาศเกียรติคุณในพิธีทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ว่า สภามหาวิทยาลัยน้อมตระหนักถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงประสิทธิ์ประสาท และทรงนำการพัฒนามาสู่ประเทศชาติ พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ในหลายสาขา แต่ทรงอ่อนน้อมถ่อมตนและทรงมีน้ำพระทัยสูงส่ง ด้วยความซาบซึ้งในพระจริยวัตรอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สะท้อนให้เห็นประจักษ์ในพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่ทรงอุทิศพระ องค์ทุกย่างก้าว ทรงเป็นแรงบันดาลใจและต้นแบบอันสูงส่งของคนหนุ่มสาวยุคก้าวหน้า จากนั้น พล.อ.ต.กำธน สินธวานนท์ นายกสภามหาวิทยาลัยรังสิต ได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทำด้วยทองคำ 99.9% ดนตรีบรรเลงเพลง Precious Prince of Hearts หรือ เจ้าชายแก้วในดวงหฤทัย ที่มหาวิทยาลัยรังสิตประพันธ์ถวาย ทรงมอบช่อดอกไม้และกล่าวขอบใจผู้ประพันธ์เพลงและนักร้อง
จากนั้น เจ้าชายจิกมีพระราชทานสุนทรพจน์ในหัวข้อบทบาทของเยาวชนต่อสังคมโลกในอนาคต เพื่อมุ่งไปสู่ความสุขมวลรวมประชาชาติ หรือ GNH แก่บัณฑิตที่เข้าร่วมพิธีประสาทปริญญา มีใจความว่า ข้าพเจ้ายินดีและเป็นเกียรติที่มหาวิทยาลัยรังสิตได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญานี้ให้แก่ข้าพเจ้า ซึ่งเปรียบเสมือนของขวัญที่มีค่าจากใจคนไทยทุกคน ความชื่นชม และความอบอุ่นที่คนไทยให้ข้าพเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่คาดคิดมาก่อน ข้าพเจ้าจะเก็บความรู้สึกที่อบอุ่นของทุกท่านไว้ในความทรงจำและไว้ในใจของข้าพเจ้า ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าอยากจะขอแบ่งปันความคิดและความรู้สึกของข้าพเจ้าแก่ทุกคน ข้าพเจ้ามีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศ ได้สังเกตว่าอนาคตของแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร จะประสบผลสำเร็จ และมีความยากเย็นแค่ไหน ข้าพเจ้าสามารถเรียนรู้และได้ความรู้จากทั้งประชาชน วัฒนธรรม และประสบการณ์ของประเทศที่ข้าพเจ้าเดินทางไปเยือน
ข้าพเจ้าไม่ใช่คนเก่ง ข้าพเจ้าพยายามจะยืนอยู่บนความคิดและความเป็นเหตุเป็นผล ด้วยการสื่อสารกับผู้คนมากมายโดยเฉพาะกับเยาวชน ข้าพเจ้าได้พบปะเยาวชนไทยหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าพวกเขารักประเทศไทย มีความเป็นเอกภาพ และมีความฝันของตนเอง ข้าพเจ้าหวังว่าเยาวชนของภูฏานจะมีคุณสมบัติเหมือนเยาวชนของประเทศไทยด้วย
ในโอกาสที่ข้าพเจ้าได้เดินทางมาร่วมงานเฉลิมฉลอง ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนชาวไทยแสดงความจงรักภักดี และเสียสละแก่พระมหากษัตริย์และประเทศของตน ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของประชาชนคนไทยในการป้องกันประเทศอีกด้วย สำหรับปีนี้เป็นปีพิเศษของคนไทย และเป็นปีพิเศษสำหรับข้าพเจ้ามากที่สุดเช่นกัน ข้าพเจ้ารักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างลึกซึ้ง มีความชื่นชมพระองค์ท่านมาก ปีนี้จึงเป็นปีสำคัญที่จะไม่มีวันลืมเมืองไทย เป็นความทรงจำที่ดี และทุกครั้งที่ได้นึกถึงจะมีความสุขมาก ท่านเป็นเยาวชนจึงต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงทำงานหนัก รักความยุติธรรม ทรงมีความพยายามมุ่งมั่นทำเพื่อประเทศของพระองค์ ควรเอาท่านเป็นแรงบันดาลใจ และดำเนินชีวิตตามแนวทางของพระองค์ท่าน ถ้าทำแบบนี้จะประสบความสำเร็จและมีความมั่งคั่ง
ด้วยปรัชญาของประเทศภูฏานที่ให้ความสำคัญกับความสุขมวลรวมประชาชาติ ความสุขมวลรวมนี้ เปรียบเหมือนสะพานระหว่างความเติบโตของเศรษฐกิจและคุณค่าในความทัดเทียมกันและความเป็นคน ชาวภูฏานทุกคน หวังว่าวันหนึ่งพวกเราจะสามารถเป็นประชาชนของโลกในยุคสมัยนี้ได้
ท้ายนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่าบัณฑิตทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของประเทศ ตอนนี้เป็นเวลาของพวกคุณที่จะทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองในอนาคตต่อไป ข้าพเจ้าหวังว่าบัณฑิตทุกคนจะประสบความสำเร็จ และมีอนาคตที่สดใสในฐานะประชาชนชาวไทย
สำหรับบรรยากาศการเฝ้ารับเสด็จเจ้าชายจิกมี เต็มไปด้วยความคึกคัก โดยมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณสนามฟุตบอลในการรับเสด็จ นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศงานผ่านรายการ U-Channel ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จได้ติดตามชมอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ มีประชาชนจากทั่วสารทิศ รวมทั้งคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมชื่นชมในพระจริยวัตรอันงดงามอย่างล้นหลาม ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ และนับเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยรังสิตเป็นอย่างยิ่ง ที่พระองค์ ทรงให้เกียรติเข้าร่วมพิธีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเจ้าชายจิกมีเสด็จกลับ ประชาชนและเหล่านักศึกษาที่รอเฝ้าส่งเสด็จ ได้ พากันรุมล้อมขอถ่ายภาพกับเจ้าชายจิกมี นัมเกล ดอร์จิ พระอนุชาของเจ้าชายจิกมี โดยทรงเป็นพระโอรสองค์โตของเจ้าหญิงเคซาง วังโม วังชุก พระกนิษฐภคินีองค์เล็กของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์ภูฏานองค์ปัจจุบัน ที่ทรงศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ภาควิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ชั้นปีที่ 2 โดยประทับอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บรรดาหนุ่มภูฏานที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยรังสิตหลายคนก็เป็นที่สนใจมีคนขอถ่ายภาพร่วมด้วยจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 19.50 น. เจ้าชายจิกมีซึ่งเสด็จประทับในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. ได้เสด็จออกจากประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 315 เพื่อไปปฏิบัติพระกรณียกิจยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ต่อไป
นอกจากนี้ ในพิธีประสาทปริญญาของมหาวิทยาลัย รังสิต ประจำปีนี้ มีศิลปินวงการบันเทิงที่สำเร็จการศึกษาเข้าร่วมรับปริญญาด้วย 6 คน มีกระแต-ศุภักษร ไชยมงคล ที่จบคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ เต๋า- อดิศร อรรถกฤษณ์ นักดนตรีวงดรากอนไฟว์ ที่จบคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ หลังจากใช้เวลาเรียนถึง 7 ปี แอม-แอมธิดา ปภาพินท์พงษ์ ขวัญใจช่างภาพ เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2549 จบคณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ จบคณะเทคนิคการแพทย์ สาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ เตอร์-ปริยะ วิมลโนช เจ้าบ่าวหมาดๆ จบปริญญาโท คณะศิลปกรรม สาขาการออกแบบ และอ้อม-ประถมาภรณ์ รัตนภักดี นางเอกละครจักรๆวงศ์ๆ ช่อง 7 จบคณะนิเทศศาสตร์
ทั้งนี้ เหล่าบัณฑิตใหม่คนดังต่างมีเพื่อนพ้องมาร่วมยินดีกันทั่วหน้า และที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ คือกระแต-ศุภักษร นางเอกเซ็กซี่ลีโอ ที่มีหนุ่มหุ่นอวบ บอย สินเจริญ มาร่วมแสดงความยินดีด้วย และไล่เลี่ยกันหนุ่ม เอ็กซ์-ธิตินันทน์ อดีตคนรักเก่า มาพร้อมกับกลุ่มผู้บริหารจากค่ายดัชชี่ หอบช่อดอกลิลลี่สีขาว ดอกไม้สุดโปรดของฝ่ายหญิงมาให้ ขณะที่มิค บรมวุฒิ มีเบนซ์-พรชิตา นางเอกสาวหวานใจตัวจริงมาร่วมยินดีตั้งแต่เช้าเช่นกัน โดยนำช่อดอกไม้ผ้าพร้อมด้วยลูกโป่งมิกกี้เม้าส์ และใส่เสื้อสี ชมพูมีลวดลายมิกกี้เม้าส์ ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่มิคโปรดปรานมาให้ พอถึงเวลาต้องถ่ายรูปคู่กัน มิคเกิดอาการเขินไม่กล้าถ่ายภาพคู่สาว เพราะเกรงใจคุณแม่เบนซ์จะไม่ปลื้ม แต่ถูกนักข่าวตื๊ออยู่นานถึงยอมให้ถ่ายรูปแต่โดยดี
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์