หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อ่อนการประชาสัมพันธ์ ทำให้คะแนนนิยมเริ่มตกต่ำ ในขณะที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วนเวียนอยู่รอบๆประเทศ และพยายามทำตัวเป็นข่าวตลอดเวลา ทำให้รัฐบาล และ คมช.ต้องเร่งชี้แจงเหตุผลในการทำปฏิวัติรัฐประหาร และประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลเป็นการด่วนนั้น
ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 พ.ย. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมมีลักษณะเฉพาะ จากการที่ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาค่อนข้างที่จะเป็นสากล และเป็นประชาธิปไตยค่อนข้างมาก แต่เมื่อนำมาใช้กับประเทศไทยปรากฏว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมามีช่องว่าง ทำให้ผู้บริหารนำช่องว่างดังกล่าวมาแสวงประโยชน์ได้ ขณะเดียวกัน ยังไปครอบงำองค์กรอิสระที่เข้ามาตรวจสอบในการทำงานของรัฐบาล สภานิติบัญญัติทั้งสองสภาก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมกับมีการจัดตั้งทำให้ระบอบประชาธิปไตยไม่เป็นประชาธิปไตย ที่แท้จริง การเลือกตั้งที่ผ่านมามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ภายในประเทศไม่พอใจการปกครองของฝ่ายบริหาร จึงได้เรียกร้องให้กองทัพหาทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประชาธิปไตยกลับมาเริ่มต้นใหม่ ดังนั้นเหตุการณ์ที่มีการปฏิรูปหรือปฏิวัติที่ผ่านมานั้น ทางกองทัพทำไปด้วยความปรารถนาดี เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเริ่มระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยมีประชาชนเป็นผู้ที่สนับสนุน
เมื่อถามว่า มีบางคนวิจารณ์ว่าการฉีกรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา และมีรถถังออกมาบนท้องถนน ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า การเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ พล.อ. สนธิตอบว่า การแก้ไขปัญหาในประเทศไทยเป็นแบบฉบับของคนไทยเรา จะเห็นได้จากการที่ทหารเอารถถังออกมานั้น และมีประชาชนเข้ามาแสดงความยินดีปลอบใจ ถือเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย ดังนั้นการที่เรายึดอำนาจสามารถที่จะสร้างประชาธิปไตยได้ แต่ถ้าเราไม่ทำรัฐธรรมนูญ และประชาธิปไตย ในการบริหารของรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มี ทางออกจะทำให้เกิดทางตัน ดังนั้นถ้าเราถอยออกมาแล้วและเดินใหม่ คิดว่าน่าจะเดินไปได้เร็วกว่าประชาธิปไตยของรัฐบาลที่แล้ว เมื่อถามว่า เมื่อไหร่จะยกเลิกกฎอัยการศึก พล.อ.สนธิตอบว่า ปัญหาการยกเลิกกฎ อัยการศึก ถ้าไม่มีปัญหาใดมากระทบเราก็สามารถจะยกเลิกได้ แต่ในปัจจุบันผู้ที่เสียผลประโยชน์จากกลุ่มเก่าๆ พยายามที่จะสร้างกระแส เพื่อทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ เราพร้อมที่จะยกเลิกกฎอัยการศึก ถ้าเขาหยุดเคลื่อนไหวเราก็พร้อมจะยกเลิก ซึ่งน่าจะไม่นานขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เราก็จะทำให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า ในปลายนี้จะสามารถยกเลิกได้หรือไม่ พล.อ.สนธิไม่กล่าวตอบ เพียงแต่พยักหน้าเท่านั้น เมื่อถามว่า หลักฐานต่างๆที่กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่ พล.อ.สนธิตอบว่า หลักฐานต่างๆทางคณะทำงานก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคดีต่างๆก็ต้องใช้เวลา ซึ่งคิดว่าน่าจะปรากฏต่อสังคมได้ เมื่อถามว่า มีหลักฐานในข้อกล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรี ต่อกรณีการสังหารประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการสูญหายของประชาชน ทาง คมช.จะมีทางออกอย่างไร พล.อ.สนธิตอบว่า ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เรื่องการสูญหายของประชาชน การฆ่าตัดตอน ซึ่งมีคณะทำงานของรัฐบาลจะเข้าไปพิสูจน์ทราบในข้อเท็จจริง เมื่อถามว่า มีข้อวิจารณ์ในความตั้งใจในการทำงาน แต่ใช้วิธีการไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการทำลายประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้ พล.อ.สนธิตอบว่า ต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมของประเทศไทย การ บริหารของรัฐบาลที่ผ่านมามีหลายประเด็น ซึ่งไม่ใช่ ระบอบประชาธิปไตย คล้ายการรวมอำนาจเอาไว้เพื่อการเข้ามาบริหาร คิดว่ามันยิ่งกว่าเผด็จการ ฉะนั้นการที่เราปฏิวัติหรือปฏิรูป ประชาชนกลับมาแซ่ซ้องสรรเสริญ แสดงความยินดีกับการที่เราได้กระทำ เพราะทุกคนอยากเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เราก็จะได้เริ่มสร้างประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า ยังมีกลุ่มที่สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้อยู่หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า เชื่อว่าผู้สนับสนุนรัฐบาลชุดที่แล้วมีอยู่ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่ที่เป็นตัวเลขที่ปรากฏว่าเป็นล้านๆคนนั้น ความจริงบุคคลเหล่านั้นมีผลประโยชน์ส่วนตน เวลานี้เรากำลังทำความเข้าใจกับประชาชน คิดว่าต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดที่แล้วมีอะไรบ้างที่ไม่ดี ดังนั้น ถ้าตรงนี้หากประชาชนทราบดีก็จะสามารถตัดสินใจได้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้หรือไม่ หากมีคนไม่ดีเข้ามาทำในสิ่งที่ไม่ดี พล.อ.สนธิตอบว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะประชาชนอยากเห็นนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ มีอุดมการณ์ซื่อสัตย์สุจริตรักประเทศชาติ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเชื่อว่าประชาชนและกองทัพจะไปด้วยกันได้ เมื่อถามว่า การคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยเฉพาะการเลือกตั้งในเดือน ก.ย. 2550 จะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ. สนธิตอบว่า ทาง คมช.ได้กำหนดวันเวลาการทำงานของคมช. และของรัฐบาล เพื่อพยายามดำรงทุกอย่างให้เป็นไปตามเวลา ซึ่งคงเป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอ่อนประชาสัมพันธ์นั้น ล่าสุดทางทีมงานฝ่ายเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานใหม่ โดยจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ผลัดกันออกมาชี้แจงผลการทำงานของรัฐบาลในแต่ละด้าน ผ่านสื่อวิทยุโทรทัศน์ทุกสัปดาห์ ซึ่งรูปแบบรายการจะเป็นเหมือนกับรายการ ?นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน? ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ในทุกเช้าวันเสาร์ แต่จะไม่ให้ พล.อ.สุรยุทธ์พูดเพียงคนเดียว จะสลับเปลี่ยนให้โฆษก หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หมุนเวียนกันออกมาช่วยชี้แจงด้วย ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นจะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง และหากมีประเด็นใหญ่ที่รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเร่งด่วน ก็จะให้นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงในเรื่องนั้นๆ ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ทางทีมงานเลขาธิการนายกฯยังได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ จัดทำแผนงานด้านการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลในทุกๆด้านเพิ่มเติมอีกด้วย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์