เกิดเหตุสลดขึ้นในวงการผ้าเหลือง เมื่อสามเณรชื่อ ?ตะกิโล? ไม่มีนามสกุล เณรชาวกะเหรี่ยงวัย 19 ปี ก่อเหตุสยองทุบหัวฆ่าเผาสามเณรร่วมวัดกับเจ้าอาวาส เพราะเหตุเพียงแค่โกรธแค้นที่เพื่อนเณรชอบนำเรื่องไปฟ้องสมภาร เลยถูกเจ้าอาวาสดุด่าว่ากล่าวเป็นประจำ สุดท้ายทนไม่ไหวจึงบุกทุบหัวเพื่อนเณรจนตายพร้อมลวงเจ้าอาวาสมาฆ่าทุบหัวอีกราย ก่อนนำศพไปเผานั่งยางทำลายหลักฐาน
ระบายแค้นโดยการฆ่าคนตายถึง 2 ศพ!??
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเช้ามืดวันที่ 19 พ.ย. ร.ต.ท.ยุทธนา สร้อยระย้า ร้อยเวรสภ.ต.ลาดหญ้า อ.เมือง กาญจนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาไม้ในวัดป่าพุทธกาญจนาราม หรือ?วัดถ้ำเทวฤทธิ์? ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง กาญจนบุรี มีผู้เสียชีวิตในกองเพลิง 2 ราย จึงรายงานให้พ.ต.ท.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผกก.หน.สภ.ต.ลาดหญ้า, พ.ต.ท.สุรจิต สงสวาสดิ์ สวป., ร.ต.อ.บุญส่ง พิพัฒน์ทวีกุล รอง สว.สส. รับทราบ พร้อมด้วยมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์และแพทย์เวรร.พ.ค่ายสุรสีห์เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบว่าวัดดังกล่าวตั้งอยู่ห่างถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ประมาณ 1.5 ก.ม. ในวัดพบศาลาไม้สร้างแบบหลังคามุงจากใช้เป็นศาลาประกอบกิจทางสงฆ์ถูกเปลวเพลิงเผาผลาญจนวอดวายเหลือแต่ซาก ในกองเพลิงพบพระพุทธรูปถูกไฟไหม้เสียหายหลายองค์
นอกจากนี้ ยังพบร่างสามเณรสุรชัย ไม่มีนามสกุล อายุ 20 ปี เป็นชาวกะเหรี่ยงที่มาบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ มรณภาพในสภาพศพนอนหงายอยู่กับพื้น มียางรถยนต์ที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ไปแล้วบางส่วนวางทับศีรษะอยู่ ส่วนที่บริเวณท่อนขาซ้ายและขาขวา มียางรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาไหม้บางส่วนวางทับไว้ข้างละเส้น บริเวณลำตัวถูกเผาจนเหลือแต่กระดูก
ภาพที่เห็นสยดสยองยิ่งนัก
แต่ที่สยองกว่านั้นคือศพที่ 2 ตั้งอยู่ด้านหลังซากศาลาห่างศพแรกประมาณ 40 เมตร เป็นศพของพระอภิวัฒน์ แซ่ลิ้ม อายุ 60 ปี เจ้าอาวาสวัดถ้ำเทวฤทธิ์ มรณภาพในสภาพถูกเผานั่งยางเช่นกัน สภาพศพนอนคว่ำหน้า มีร่องรอยเนื้อเยื่อบางส่วนถูกเผาด้วยยางรถยนต์และขวดน้ำพลาสติกวางสุมศพไว้ ร่างกายบางแห่งยังถูกไฟเผาไม่หมด หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมหลักฐานทุกอย่างไว้จึงนำศพส่งให้แพทย์ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
งานนี้ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
แค่เห็นสภาพที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ก็ไม่เชื่ออยู่แล้วว่าทั้ง 2 คนจะถูกไฟคลอกตาย เพราะเห็นหลักฐานยางรถยนต์วางสุมอยู่ทนโท่ งานนี้คนที่น่าสงสัยที่สุดคือสามเณรตะกิโลที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นคนแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำ
สามเณรกะเหรี่ยงให้การว่า ในวัดมีพระภิกษุ 1 รูป คือพระอภิวัฒน์และมีสามเณรที่บวชเรียนอยู่ภายในวัดรวม 4 รูป ก่อนเกิดเหตุตอนตี 1 ได้ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำและพบว่าไฟกำลังไหม้ศาลา จึงตะโกนร้องเรียกให้พระและเณรช่วยกันดับไฟและบอกให้ชาวบ้านไปแจ้งตำรวจ
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ซักถามถึงสาเหตุเพลิงไหม้และที่มาที่ไปของซากยางรถยนต์ที่สุมอยู่กับศพ สามเณรตะกิโลกลับให้คำตอบอะไรไม่ได้ พูดจาวกวนอย่างน่าสงสัย ตลอดการสอบปากคำเณรกะเหรี่ยงแสดงพิรุธออกมามากมาย และที่สำคัญ ตามร่างกายยังมีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่อย่างเห็นได้ชัด หลักฐานทุกอย่างจึงพุ่งตรงมาที่สามเณรตะกิโล อย่างยากที่จะปฏิเสธได้
ตำรวจใช้เวลาเกลี้ยกล่อมร่วม 2 ชั่วโมง ความจริงจึงปรากฏ
เมื่อจำนนต่อหลักฐาน ความจริงทุกอย่างจึงพรั่งพรูออกจากปากสามเณรตะกิโล ยอมรับว่าเป็นคนลงมือสังหารพระอภิวัฒน์และสามเณรสุรชัยด้วยมือตัวเอง ก่อนนำศพไปเผานั่งยางอำพรางคดี
เณรตะกิโลเล่าว่า ความจริงเกิดตอน 3 ทุ่ม ตนลุกออกมาจากกุฏิและเดินไปหาสามเณรสุรชัย เพื่อสอบถามว่าทำไมถึงชอบเอาเรื่องของตนไปฟ้องเจ้าอาวาส สามเณรสุรชัยจึงด่าว่าและตรงเข้าทำร้าย ตนจึงใช้ท่อนเหล็กแป๊บกระหน่ำตีสามเณรสุรชัยไปหลายครั้ง จนล้มฟุบลงกองกับพื้นเสียชีวิต จากนั้นจึงนำศพใส่รถซาเล้งบรรทุกศพไปทิ้งที่ปากทางด้านหน้าศาลา และนำยางรถยนต์มากองสุมศพไว้ แต่ยังไม่ได้เผา
หลังจากนั้นตอน 4 ทุ่มจึงเดินไปหาพระอภิวัฒน์ ซึ่งกำลังเดินจงกรมอยู่ทำทีเข้าไปสอบถามหาสามเณรสุรชัย บอกว่าหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ พระอภิวัฒน์จึงช่วยเดินตามหา ด้วยความแค้นใจที่เคยถูกเจ้าอาวาสดุด่า จึงอาศัยจังหวะตอนเจ้าอาวาสเผลอใช้ท่อนไม้ไผ่ตันลำต้นเท่ากำมือ กระหน่ำตีไปที่ท้ายทอยพระอภิวัฒน์หลายครั้งจนล้มฟุบลงกับพื้นมรณภาพเป็นศพที่ 2
จากนั้นจึงอุ้มศพใส่รถซาเล้งเข็นไปทิ้งที่บริเวณด้านหลังศาลา พร้อมนำยางรถยนต์มาสุมทับจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดีเป็นศพแรก จากนั้นจึงเดินย้อนกลับไปที่ศพของสามเณรสุรชัย จุดไฟเผาเพื่ออำพรางเป็นศพที่ 2 แต่ระหว่างที่ไฟกำลังลุกไหม้ร่างของผู้ตายทั้งสอง เปลวไฟได้เกิดลุกลามไปติดกับหลังคาของศาลาซึ่งมุงด้วยจาก ทำให้เปลวเพลิงลุกไหม้ศาลาทั้งหลังจนกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
?ผมแค้นสองคนนี้มานานแล้ว เณรสุรชัยเป็นคนขี้ฟ้อง มักจะเอาเรื่องไม่ดีของผมไปบอกเจ้าอาวาสเป็นประจำ ทำอะไรไม่ดีก็ไปบอกเจ้าอาวาส ไม่ช่วยงานวัดก็เอาไปฟ้อง บางครั้งเกิดมีปากเสียงกันก็จะถูกสามเณรสุรชัยลงไม้ลงมือ แถมเจ้าอาวาสเมื่อสามเณรสุรชัยมาฟ้อง ก็จะมาดุด่าผมตลอด บางครั้งยังใช้กำลังเตะต่อยผมอีกด้วย ผมเก็บความแค้นมานานแล้ว พอสบโอกาสจึงตัดสินใจฆ่าให้ตายทั้งคู่ เผาศพอำพรางคดี แต่เรื่องมาแดงเสียก่อน? สามเณรตะกิโลให้การอย่างไม่สะทกสะท้าน
หลังเกิดเหตุตำรวจนำตัวสามเณรตะกิโลไปให้เจ้าคณะตำบลลาดหญ้าสึก ก่อนพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ และควบคุมตัวส่งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและอำพรางซ่อนเร้นศพต่อไป
สยองเกินบรรยาย ทั้งที่ห่มเหลืองอยู่ในวัดแท้ๆ!?!
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์