หลังจากที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ออกมาคัดค้านการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. สลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 โดยให้ชะลอการพิจารณาอ้างว่าไม่ใช่วาระเร่งด่วน พร้อมเรียกร้องให้ฟังเสียงประชาชนอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนนำมาพิจารณาใหม่นั้น
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีของสมาชิก สนช.บางส่วนคัดค้านการนำร่าง พ.ร.บ. สลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ในสัปดาห์หน้า 3 วาระรวดว่า เรื่องการเสนอกฎหมายไม่ว่า ครม.หรือ สนช. เมื่อเข้าชื่อกันและเสนอเข้ามา สภาฯก็ต้องรับไว้พิจารณา แต่เป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องนี้ต้องฟังเสียงของประชาชนว่าต้องการอย่างไร ประชาชนสามารถส่งความคิดเห็นมายังกองรับฟังความคิดเห็นของ สนช.ได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบในรายละเอียด จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะบรรจุร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ในสัปดาห์หน้าหรือไม่ เมื่อถามว่า เมื่อเป็นกฎหมายที่ต้องรับฟังเสียงประชาชน จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาหรือไม่ เพราะมีข่าวว่าจะพิจารณา 3 วาระรวด พล.อ.จรัลตอบว่า โดยปกติก็ควรเป็นอย่างนั้น แต่ก็อยู่ที่การพิจารณาในที่ประชุมว่าจะเอาอย่างไร
ขณะที่ พล.อ.ปรีชา โรจนเสน สมาชิก สนช. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สมาชิก สนช. ระบุว่า จะนำทีม สนช.ต่อต้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า เป็นการพูดเองเออเองอยู่คนเดียว ยังไม่เห็นคนอื่นเข้ามาเป็นแนวร่วมด้วย หากในหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ก็พร้อมจะยกมือสนับสนุนให้พิจารณาใน 3 วาระรวด เชื่อว่า สนช.อีกหลายคนคิดเหมือนตน การที่ พล.ต. จำลองออกมาต่อต้านไม่ให้มีสลากกินแบ่ง ในขณะนี้ ประเทศอิสลามบางแห่งยังเปิดให้มีกาสิโนได้ อยากตั้งข้อสังเกตว่า หากไม่แก้ไขให้การออกสลากบนดินถูกต้องตามกฎหมาย กลุ่มหวยใต้ดินก็แฮปปี้ ไม่รู้ว่าไปรับอะไรมาหรือเปล่าถึงออกมาต่อต้านอย่างนี้
พล.อ.ปรีชากล่าวด้วยว่า หากสาระสำคัญของการออกกฎหมายเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง มีการจัดเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เข้ากระทรวงการคลังหมด แล้วเจียดบางส่วนเพื่อสาธารณประโยชน์ อย่างการศึกษา ศาสนา สาธารณสุข ก็ไม่ควรไปต่อต้าน และทุกอย่างควรปล่อยให้ สมาชิกได้พิจารณาอย่างอิสระ ไม่ใช่ออกมาชี้นำพูดเองแบบนี้แล้วบอกเป็นความเห็นของ สนช.ส่วนรวม
วันเดียวกัน นายวันชัย สุระกุล รักษาการ ผอ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ พ.ศ. 2517 กำลังเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งสำนักงานสลากฯ ได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่จะแก้ไขให้กฤษฎีกาทราบ เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้พร้อมสำหรับการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามยังคงมีข้อถกเถียงและข้อสงสัยของกฤษฎีกา ในเรื่องของสัดส่วนเงินที่จะนำมาตั้งเป็นกองทุน สำหรับการจ่ายเงินรางวัลจำนวน 5 พันล้านบาท เนื่องจากการจำหน่ายหวยบนดินของสำนักงานสลากฯนั้น ปกติแล้วไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่างวดนั้นจะมีกำไรหรือขาดทุนมากน้อยเท่าไร หากประสบภาวะที่จะต้องจ่ายเงินรางวัลจำนวนมาก จะนำเงินส่วนไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายตรงนี้ เว้นเสียต้องใช้วิธีอั้นตัวเลข ซึ่งวิธีการนี้จะใช้ได้ต่อเมื่อนำเครื่องจำหน่ายสลากแบบออนไลน์มาใช้เท่านั้น
รักษาการ ผอ.สำนักงานสลากฯ กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการสลาก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.นี้ สำนักงานสลากฯเตรียมเสนอให้บอร์ดพิจารณาหลายเรื่อง อาทิ การเพิ่มจำนวนลอตเตอรี่ 8 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 1 ธ.ค. และ 16 ธ.ค. รวมทั้งการเตรียมปฏิบัติตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี ที่จะให้งดถ่ายทอดสดการออกรางวัล ซึ่งส่วนนี้ สำนักงานสลากฯ พร้อมงดการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ วันที่ 1 ธ.ค.นี้ แต่กำลังศึกษาข้อสัญญากับสถานีโทรทัศน์ เจ้าของเวลาถ่ายทอดสด ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร และจะเสนอให้บอร์ดรับทราบ นอกจากนี้ ยังเสนองดพิมพ์ลอตเตอรี่การกุศล 16 ล้านฉบับ แล้วนำสัดส่วนที่ยกเลิกนี้ มาพิมพ์เป็นสลากกินแบ่งตามปกติ 46 ล้านฉบับ โดยยกเลิกการนำเงินจากสลากลอตเตอรี่การกุศล มาอุดหนุนหน่วยงานการกุศลต่างๆด้วย ส่วน ปัญหาเรื่องลอตเตอรี่งวดวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะมีราคาสูงขึ้นนั้น สำนักงานสลากฯได้จัดมาตรการตรวจเข้มผู้ค้าเกินราคาโดยมีการจับปรับไปหลายราย ผลปรากฏว่า เมื่อสำรวจตลาดลอตเตอรี่ช่วงนี้ ราคาเริ่มลดลงมาตามสภาวการณ์ ปกติของตลาดแล้ว เหตุเพราะผู้ค้ารายย่อยไม่กล้ารับสลากไปขายมาก เพราะขายเกินราคาไม่ได้ ขณะที่ผู้ค้าส่งเองก็ต้องปรับราคาลดลงตามไปด้วย จึงเชื่อว่างวดวันที่ 1 ธ.ค.นี้ สำนักงานสลากฯสามารถคุมราคาลอตเตอรี่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดแล้วบางส่วน
ขณะเดียวกัน นายอำนวย กลิ่นอยู่ ประธานสมาพันธ์ผู้ค้าสลากพิการแห่งประเทศไทย ได้เข้ายื่นหนังสือถึง รมว.คลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานกฤษฎีกา และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ ที่รัฐสภา เมื่อช่วงบ่าย เสนอให้มีการเพิ่มข้อความในการแก้ พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ โดยนายอำนวยกล่าวว่า สมาคมคนพิการผู้ค้าสลากกว่า 20 องค์กร ได้ร่วมประชุมกัน และเห็นพ้องว่า หากมีการแก้กฎหมายสลาก ก็ควรจะแก้ให้สมบูรณ์ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆได้ลุล่วงจึงเสนอให้มีการเพิ่มข้อความในกฎหมายฉบับนี้ อาทิขอให้มีการกันเงินรายได้จากการจำหน่ายหวยบนดินส่วนหนึ่ง ไว้ตั้งกองทุนเพื่อสวัสดิการของผู้ด้อยโอกาส ขอให้มีการเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการสลากตามโควตาที่แต่งตั้งโดย รมว.คลัง จาก 3 คน เป็น 6 คน โดยส่วนที่เพิ่มขอให้เป็นตัวแทนของผู้บริโภค ผู้จำหน่าย เพื่อเป็นปากเสียงให้กับผู้ค้าและผู้บริโภคโดยแท้จริง
ประธานสมาพันธ์คนพิการกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการปรับสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายลอตเตอรี่ของสำนักงานสลากฯเสียใหม่ โดยเพิ่มส่วนลดจากการจำหน่ายเป็นร้อยละ 20 เพื่อเป็นการแก้ปัญหาสลากเกินราคาอย่างถาวร สำหรับสัดส่วนการจ่ายเงินรางวัลให้คงไว้ที่ร้อยละ 60 และให้เป็นค่าบริหารจัดการร้อยละ 20 สมาพันธ์หวังว่าจะได้รับการตอบรับจากฝ่ายบริหาร เชื่อว่า หากไม่ได้รับความสนใจ กลุ่มคนพิการที่จะต้องเสียประโยชน์จากการแก้กฎหมายครั้งนี้ คงจะมีการรวมตัวกันเพื่อขอความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
นายมีชัยกล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะแจ้งให้สมาชิก สนช.ได้รับทราบเพื่อประกอบการพิจารณา แต่ขณะนี้ร่างยังมาไม่ถึงสภา เรื่องนี้ควรไปเสนอต่อรัฐบาลที่เป็นต้นเรื่อง หากข้อเสนอไม่ได้มีการบรรจุในร่าง ก็คงจะไปแก้ไขเพิ่มเติมภายหลังไม่ได้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมายังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หากยังไม่ส่งมาภายในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.นี้ สภาฯก็ไม่สามารถบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาในสัปดาห์หน้าได้ แต่หากส่งเข้ามา สภาฯก็ต้องบรรจุเข้าวาระเพื่อพิจารณา จะไปถ่วงเวลาไม่ได้ ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่อยากให้เร่งพิจารณาเป็น 3 วาระรวดนั้น หากต้องการพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ก็สามารถตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาได้ เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลยกเว้นการขายหวยบนดิน 2 งวด เป็นการกดดันให้ สนช.เร่งพิจารณาหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า เป็นความคาดหวังของรัฐบาล แต่ สนช.จะเป็นผู้พิจารณาเองว่าเร็วหรือช้า จะเป็นประโยชน์มากกว่า
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์