เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 พ.ย. พ.ต.ท.สมบูรณ์ ชูไว สารวัตรเวร สภ.อ.เชียงคำ จ.พะเยา รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 5 บ้านไชยพรม ต.เวียง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.บัญญัติ เนตรสุวรรณ ผกก. พ.ต.ท.ประมวล แบนขุนทด รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สนิท วงศ์ใหญ่ พนักงานสอบสวน (สบ.3) พ.ต.ท.อภิชาติ ป้องปัด สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.เชียงคำ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านตึก 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาห่างไกลบ้านเรือนผู้คน บริเวณรอบบ้านมีโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ 2 โรง กับบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ 1 บ่อ ประตูหน้าบ้านและประตูหลังบ้านปิดล็อกกุญแจอย่างดี บนพื้นริมบ่อเกรอะข้างบ้านพบศพทารกเพศชายแรกเกิดนอนตายเลือดแห้งกรังแล้ว ขณะที่ในบ่อเกรอะลึกประมาณ 1.50 เมตร มีศพชายหญิงถูกฆ่าหมกก้นบ่อ โดยศพฝ่ายชายนั่งคุดคู้ในน้ำสูงประมาณ 1 ฟุต ส่วนศพฝ่ายหญิงอยู่ในสภาพหัวทิ่มจมน้ำอย่างน่าอเนจอนาถ คาดว่าทั้ง 3 ศพถูกฆ่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมาชันสูตร ทราบชื่อฝ่ายชายคือนายณัฐพงษ์ เอี่ยมชาญชัย อายุ 25 ปี เจ้าของบ้าน ศพสวมเสื้อยืดลายแดง กางเกงขายาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 เข้ากลางหลังกระสุนตุงที่หน้าอก 1 นัด ท้ายทอยถูกทุบด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ ส่วนฝ่ายหญิงคือนางพรศิริ สุจิธรรม อายุ 26 ปี ภรรยานายณัฐพงษ์ ศพสวมเสื้อยืดสีเขียว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ท้ายทอยกับขมับขวาถูกฟันด้วยของมีคมฉกรรจ์ 2 แผล ขณะที่ศพหนูน้อยทราบชื่อ ด.ช.ภูกะวิน เอี่ยมชาญชัย วัย 10 เดือน ลูกชายนายณัฐพงษ์กับนางพรศิริ สองผัวเมียเหยื่ออำมหิต โดยศพหนูน้อยเคราะห์ร้ายมีบาดแผลถูกทุบท้ายทอยกะโหลกยุบ ตรวจสอบบนพื้นข้างบ่อเกรอะมีรอยเลือดหยดเป็นหย่อมๆหลายจุด ภายในบ้านพบจดหมายเขียนเป็นภาษาลาว 1 แผ่น ส่วนข้าวของอยู่เรียบร้อยไม่พบร่องรอยการรื้อค้น
สอบสวนทราบว่า นายณัฐพงษ์ เดิมเป็นครอบครัวชาวจีนฮ่อ จ.เชียงราย ต่อมาพ่อแม่ย้ายมาปักหลักยึดอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ที่หมู่ 4 ต.ยวบ อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังแต่งงานกับนางพรศิริ นายณัฐพงษ์จึงแยกครอบครัวมาซื้อที่ดินสร้างบ้าน และสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่บ้านเกิดเหตุ พร้อมขุดบ่อเลี้ยงปลายึดเป็นอาชีพจนมีฐานะร่ำรวย และมีลูกชายคือ ด.ช.ภูกะวินที่เพิ่งคลอดได้ 10 เดือน 1 คน เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมานายณัฐพงษ์ได้จ้างชาวลาว 2 คนชื่อนายหมอกกับนายลอย อายุประมาณ 20 ปีเท่ากัน มาเป็นคนงานเลี้ยงไก่ไข่และเลี้ยงปลา
สายวันเดียวกันญาติติดต่อนายณัฐพงษ์และภรรยาไม่ได้ ด้วยความสงสัยจึงเดินทางมาดูที่บ้าน พบประตูหน้าบ้านและประตูหลังบ้านปิดล็อกกุญแจแน่นหนา ญาติเกรงจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับนายณัฐพงษ์และครอบครัว จึงเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ทางตำรวจเลยให้มาตรวจสอบที่บ้านอีกครั้ง กระทั่งพบศพ 3 พ่อแม่ลูกถูกฆ่าสุดอำมหิตดังกล่าว ขณะที่นายหมอกกับนายลอย ลูกจ้างชาวลาวก็หายตัวไปลึกลับ พร้อมทรัพย์สินของนายณัฐพงษ์ ประกอบด้วยรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กร 2745 เชียงใหม่ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ตำรวจประมวลจากพยานหลักฐานลงความเห็นว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับครอบครัวผู้ตายเป็นอย่างดี ฉวยโอกาสบุกจับสองผัวเมียฆ่าตายสุดอำมหิตแล้วหามศพหมกในบ่อเกรอะข้างบ้าน ก่อนลงมือฆ่าทุบท้ายทอยหนูน้อยตายตาม นำศพทิ้งข้างบ่อเกรอะแล้วเชิดเอารถเก๋งกับโทรศัพท์ของเหยื่ออำมหิตหลบหนี ในชั้นนี้สงสัยนายหมอกกับนายลอย 2 ลูกจ้างชาวลาวลงมือฆ่าชิงทรัพย์ จึงวิทยุประสานท้องที่ต่างๆช่วยสกัดจับ
ต่อมาเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.เจษฎา จุโฑปะมา สว.ตม.อำเภอเชียงของ จ.เชียงราย รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบชายแปลกหน้า 2 คน เดินอยู่ในป่าท้องที่หมู่ 2 ต.เวียง จึงไปตรวจสอบพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน กร 2745 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถของกลางตามที่ท้องที่ สภ.อ. เชียงคำ จ.พะเยา แจ้งให้ช่วยสกัดจับจอดทิ้งไว้ที่หน้าเอสทีเกสต์เฮาส์ ส่วนคนร้ายตามจับกุมตัวได้ ขณะเดินอยู่ในป่าริมลำน้ำโขงและเตรียมหนีออกนอกประเทศ ทราบชื่อนายลอย อายุ 17 ปี กับนายหมอก อายุ 14 ปี สองพี่น้องชาวลาว สอบสวนเบื้องต้น 2 พี่น้องให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ฆ่านายจ้างและครอบครัว แต่พบเห็นคนอื่นฆ่า ด้วยความเกรงกลัวจะถูกฆ่าด้วย เลยขับรถของนายจ้างหลบหนี ในชั้นนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ นำตัวพร้อมรถของกลางส่ง สภ.อ.เชียงคำ ท้องที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์