4 โจ๋เมืองชลเล่นงานส.ต.อ.กลางถนน ใช้ไม้ตีแสกหน้าทีเดียวสลบเหมือด ฉกโทร.มือถือติดมือไปด้วย แถมยังฉีกใบสั่ง 2 ใบจนละเอียดโปรยทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า เผยบาดแผลถูกตีก่อความบอบช้ำให้ดวงตาขวา อาจถึงขั้นบอดหรือมองเห็นได้ไม่ดีเท่าเดิมเลยทีเดียว เหยื่อระบุไปกินข้าวกับเพื่อน แล้วแยกทางขับจยย.กลับแฟลตคนเดียว ระหว่างทางมีจยย. 2 คันแซงขึ้นหน้าไป แล้วไปดักโบกให้จอดตรงทางเปลี่ยว พอจอดก็โดนไม้หวดโครมทันควัน สงสัยเป็นการล้างแค้นที่เคยจับกุม หรือไม่ก็อาจเป็นการชิงทรัพย์ธรรมดา แต่พอดีมาลงมือกับตร.
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 13 พ.ย. พ.ต.ต.ตรีเพชร ชลชีวศรานนท์ สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลชลบุรีว่ามีพลเมืองดีนำผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อส.ต.อ.มานิตย์ สายกระโทก อายุ 35 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม ทำหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.อ.เมืองชลบุรี มารักษาตัว คนเจ็บสวมกางเกงขาสั้นสีขี้ม้า เสื้อคอกลมสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณหน้าผากด้านขวาเป็นแนวยาวกว่า 3 นิ้ว ลึกประมาณ 2 ซ.ม. บริเวณช่วงคิ้วและตาขวาถูกตีจนช้ำ กระทบถึงประสาทตา ทางแพทย์แจ้งเบื้องต้นว่าถ้าตาไม่บอด ก็จะมองเห็นไม่เหมือนเดิม เนื่องจากดวงตาขวาบอบช้ำมาก
เบื้องต้น ส.ต.อ.มานิตย์ระบุว่าคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน รุมใช้ของแข็งตีทำร้าย ที่บริเวณถนนสายบายพาส ช่วงโค้งต้นตาล เส้นทางเข้าสุสานเม่งหุย หมู่ที่ 8 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี รถจักรยานยนต์ของส.ต.อ.มานิตย์ยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่โทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น 1100 ถูกคนร้ายนำติดตัวไปด้วย
จากนั้นพ.ต.ต.ตรีเพชรได้รายงานให้พ.ต.อ.โชคชัย เหลืองอ่อน ผกก.สภ.อ.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รองผกก.ป. พ.ต.ต.โสฬส เอี่ยมสอาด สวป. ทราบ พร้อมร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยวและมืด พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีม่วง หมายเลขทะเบียน คมน 931 ชลบุรี ของส.ต.อ.มานิตย์ล้มคว่ำอยู่ มีใบสั่งที่เขียนตั้งข้อหาผู้กระทำผิดกฎจราจรจำนวน 2 ใบ ถูกฉีกจนละเอียดโปรยไว้ตรงจุดที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนพยานเป็นชาวบ้านใกล้เคียง ให้การว่า หลังจากเกิดเหตุ เห็นชายวัยรุ่นจำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันออกจากจุดเกิดเหตุผ่านไปจำนวน 2 คัน แต่เนื่องจากเป็นที่มืด เลยมองไม่เห็นว่าเป็นรถจักรยานยนต์ชนิดและยี่ห้อใด ต่อมาก็มีคนไปพบส.ต.อ.มานิตย์นอนบาดเจ็บอยู่ข้างทาง จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลชลบุรี ชาวบ้านบางส่วนช่วยกันรักษาจุดเกิดเหตุไว้ เพื่อรอให้ตำรวจมาเก็บหลักฐานด้วย
ต่อมาส.ต.อ.มานิตย์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ไปร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนตำรวจรุ่นเดียวกันที่ประจำอยู่ที่สภ.อ.เมืองชลบุรีด้วยกัน ที่ร้านครัวตาโชคอาหารป่า หลังโรงเรียนบ้านสวนจั่นอนุสรณ์ หมู่ที่ 6 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี หลังจากนั้นได้ขอตัวเพื่อนๆ ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่แฟลตโรงเรียนตำรวจภูธร 2 เขาน้อย เพื่อเตรียมตัวจะไปเข้าเวรสายตรวจจักรยานยนต์ตอน 24.00 น. โดยใช้เส้นทางถนนบายพาสและเลี้ยวเข้าเส้นทางสายสุสานเม่งหุย เมื่อถึงที่เกิดเหตุก็มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมาจำนวน 2 คันขี่แซงขึ้นไป พอถึงช่วงโค้งซึ่งเป็นที่มืด กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ได้โบกให้จอดรถจักรยานยนต์ พอตนหยุดรถก็โดนกลุ่มวัยรุ่นตีจนสลบ มาฟื้นอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลแล้ว และโทรศัพท์มือถือหายไป
สันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คนอาจจำได้ว่าส.ต.อ.มานิตย์เป็นตำรวจเคยจับกุมพวกตนมาก่อน จึงวางแผนตีสั่งสอน แล้วฉีกใบสั่งโปรยบนถนนเพื่อระบายแค้น หรือไม่ก็อาจเป็นการทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ปกติ โดยไม่ทราบว่าเหยื่อเป็นตำรวจ เพราะส.ต.อ.มานิตย์ก็แต่งกายนอกเครื่องแบบด้วย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์